สตูล - ปิดอ่าวปากบาราวันที่ 2 ประท้วงเชิงสัญลักษณ์แก้ปัญหาที่ทำกินประมงขนาดกลาง โดยจะยืดเยื้อไปถึงวันที่ 4 มี.ค.นี้ เพื่อรอฟังคำตอบ ล่าสุดยอมเปิดช่องให้เฉพาะเรือโดยสาร และเรือประมงขนาดใหญ่แล่นผ่าน
วันนี้ (2 มี.ค.) ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของกลุ่มเรือประมงขนาดกลาง ที่ทำประมงประเภทปั่นไฟหมึก ปลา และกุ้ง ยังคงนำเรือปิดปากอ่าวปากบารา ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เรียกร้องขอความชัดเจนเรื่องกำหนดที่ทำกินให้พวกตน โดยวันนี้มีการเปิดช่องเพื่อให้เรือสปีดโบ๊ต และเรืออวนดำขนาดใหญ่สามารถแล่นผ่าน พานักท่องเที่ยวและสัตว์น้ำผ่านได้ โดยมีการเปิดช่องให้แล่นผ่านได้ตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำวานนี้
นายวิรัช ชุมคง ชาวประมงที่นำเรือมาประท้วง เปิดเผยว่า ต้องการเรียกร้องให้มีการเร่งแก้ไขปัญหาปากท้องของพวกตนให้เร็วที่สุด โดยจะนำเรือมาจอดแบบนี้เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์จนถึงวันที่ 4 มี.ค. เพื่อให้เวลาในการรอฟังคำตอบว่าจะให้พวกตนต้องไปหากินกันแถวไหน โดยขอให้มีการกำหนดพื้นที่ให้ชัดเจน เพราะตนและลูกน้องต่างก็เดือดร้อนมาก หากปล่อยทิ้งไว้นานลูกน้องหลายคนเริ่มไม่มีหนทางก็เปลี่ยนงานไป ยิ่งทำงานกันยากลำบาก
โดยความเดือดร้อนของชาวประมงขนาดกลางนี้ได้มีความพยายามในการขอความชัดเจนเรื่องที่ทำกันมาโดยตลอด ตั้งแต่การติดต่อผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด รวมทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยยื่นหนังสือขอให้แก้ปัญหาที่ทำกินให้พวกตน ซึ่งความล่าช้าบวกกับการไม่สามารถนำเรือออกไปทำกินได้อย่างที่เคยทำ เนื่องจากติดปัญหาการทับซ้อนกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีทั้งอุทยานแห่งชาติตะรุเตา และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา
ล่าสุด นายพีรพัฒน์ เงินเจริญ นายอำเภอละงู พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่พูดคุยเจรจา พร้อมรับฟังปัญหากับกลุ่มชาวประมงดังกล่าว โดยรับทราบและเห็นใจกับปัญหาที่กลุ่มประมงได้รับ พร้อมขอให้มีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์โดยไม่กระทบต่อผู้ใช้เส้นทางน้ำ โดยเฉพาะเรือขนถ่ายนักท่องเที่ยวให้สามารถวิ่งไปมาได้ และเรืออวนดำขนาดใหญ่ที่ต้องใช้เส้นทางดังกล่าวในการขนถ่ายสัตว์น้ำ ซึ่งผู้ประท้วงยินยอมเปิดช่องให้เรือได้แล่นผ่าน และเน้นย้ำให้ทางอำเภอแก้ปัญหาโดยใช้หลักรัฐศาสตร์มากกว่านิติศาสตร์ เพราะเป็นปัญหาปากท้องของชาวบ้าน
แม้กลุ่มประมงขนาดกลางที่ประท้วงจะเปิดช่องให้เรือโดยสาร และเรือประมงสามารถแล่นผ่านไปมาได้แล้วนั้น แต่เรือโดยสารที่ขนถ่ายนักท่องเที่ยวหลายลำยังไม่มั่นใจที่จะให้นักท่องเที่ยวนั่งเรือแล่นผ่านกลุ่มเรือที่ประท้วง เพราะหวั่นเกรงความไม่ปลอดภัย โดยวันนี้หลายบริษัทเตรียมหาท่าเรือให้นักท่องเที่ยวลงแล้ว
ด้านนายสุวิทย์ ขาวดี ผู้ประกอบการบังกีมทัวร์ เปิดเผยว่า แม้ผู้ประท้วงจะเปิดช่องให้เรือที่ไม่เกี่ยวข้องแล่นผ่าน เป็นการเปิดแค่บางส่วน เพราะขณะนี้ผู้ใหญ่กับผู้ประท้วงยังพูดคุยกันไม่เสร็จ ยอมรับว่าไม่กล้าจะนำนักท่องเที่ยวลงทางช่องทางท่าเรือนี้เพื่อความปลอดภัย และเป็นการระบายลูกค้าให้ทัน จำเป็นต้องใช้ชายหาดในบริเวณปากบาราขึ้นลงเรือไปพลางก่อนที่มีความสะดวก ยอมรับว่ามีนักท่องเที่ยวสอบถามมาบ้าง แต่อยากให้ผู้ประท้วง และผู้ใหญ่พูดคุยให้จบไวๆ เพื่อให้การท่องเที่ยวกลับมา ยอมรับว่ามีผลกระทบบ้าง ผู้ประกอบการพยายามอธิบายลูกค้า มีลูกค้าที่กำลังตัดสินใจโทร.มาสอบถาม เลยบอกว่าแค่ระยะสั้น สามารถกลับมาใช้บริการได้เหมือนเดิม อยากให้ตกลงกันให้เร็วเพื่อให้ท่าเรือกลับมาปกติ
ขณะที่ น.ส.ปวีณัต หวันสู ผู้ประกอบการBaramee Speedboat และJolly Travel เปิดเผยว่า เมื่อวานยอมรับว่าการให้บริการนักท่องเที่ยวขลุกขลักมาก โชคดีที่วันนี้บรรยากาศเริ่มคลี่คลายแล้ว แต่ต้องประเมินกันวันต่อวัน โดยจะเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลักในการให้บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งวันนี้ทางผู้ประท้วงได้เปิดให้เรือได้วิ่งเข้าออกได้แล้ว โดยเฉพาะเรือที่ไม่เกี่ยวข้องนั้น แต่ถึงอย่างไรในวันที่ 3 มี.ค.นี้ ทางผู้ประกอบการต้องมีการวางแผนอีกครั้ง เพราะนักท่องเที่ยวต้องเดินทางกลับ หลายคนมาจากต่างประเทศ ต้องเดินทางต่อด้วยสายการบิน ทำให้ต้องวางแผนการเดินทางให้ทันท่วงที
เนื่องจากผู้ประท้วงยื่นขอเสนอว่า หากไม่ได้คำตอบที่พอใจจะปิดอีกครั้งในวันที่ 4 มี.ค.นี้ ซึ่งเตรียมแผนไว้รองรับแล้ว เพื่อไม่ให้การท่องเที่ยวขลุกขลัก พร้อมฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเร่งแก้ปัญหาโดยเร็ว พร้อมเชื่อว่าเขาคงเดือดร้อน อยากให้สถานการณ์จบลงด้วยดี มีความสุขกันทุกฝ่าย การท่องเที่ยวจะได้กลับมาปกติเหมือนเดิม