xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านร้องนายทุนรุกลำรางสาธารณะถมดินปิดทางน้ำ จังหวัดพังงาสั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงด่วน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พังงา - เจ้าหน้าที่อำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบนายทุนรุกลำรางธารสาธารณะ ถมดินปิดทางน้ำ หลังมีชาวบ้านร้อง 3 ปี ไม่มีอะไรคืบหน้า ล่าสุด จังหวัดพังงามีหนังสือด่วนแจ้งให้หน่วยงานลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง


วันนี้ (1 มี.ค.) น.อ.เพชรัตน เทียนจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักประสานภารกิจรักษาความมั่นคงภายใน จ.พังงา นายอาทิตย์ เพ็ชร์กุล ปลัดอำเภอศูนย์ดำรงธรรม อ.ตะกั่วป่า นายผจญ กิตตินนทิกร เจ้าพนักงานตรวจท่าปฏิบัติการเจ้าท่าพังงา นายมนตรี สาลิกา นายช่างรังวัดชำนาญงาน ปฏิบัติราชการแทน เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา สาขาตะกั่วป่า นายสุรชัย เตี๋ยวสกุล กำนันตำบลตำตัว นายปรีชา สงวนทรัพย์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางไทร และเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 425 เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพังงา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแนวเขตลำธารสาธารณประโยชน์ คลองบางปริก พรุแห้ง และ พรุหวาย ม.2 ต.ตำตัว อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา

หลังจากได้มีชาวบ้านร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมอำเภอตะกั่วป่า เพื่อให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีนายทุนใช้เครื่องจักรเข้าไปถมพื้นที่คลอง ซึ่งมีพฤติกรรมเข้าข่ายการกระทำผิดเกี่ยวกับสิ่งล่วงล้ำลําน้ำ และบุกรุกที่สาธารณประโยชน์ ซึ่งมีแหล่งน้ำธรรมชาติจากน้ำตกบางปริก ไหลมาต่อเนื่องผ่านพื้นที่พิพาทไปท่อลอดถนนทาง หลวงแผ่นดินสุราษฎร์ธานี ตะกั่วป่า ซึ่งก่อสร้างเมื่อประมาณปี 2507 พร้อมทั้งมีการออก น.ส.3 ก. ซึ่งอยู่ติดกับที่ดินพิพาทด้านขวา ระบุข้างเคียงเป็นคลองบางปริก 35 ระบุข้างเคียงเป็นลำธารสาธารณประโยชน์ ทั้งๆ ที่เป็นพื้นที่เดียวกัน นอกจากนี้ จากสภาพความเป็นจริง มีแหล่งน้ำลักษณะเป็นคลองไหลจากขวาไปซ้ายผ่านด้านล่างของที่ดินพิพาทต่อเนื่องไปถึง ท่อลอดถนนตามข้างต้น แต่ไม่ปรากฏในเอกสารที่ดินพิพาทแต่อย่างใด


ในการตรวจสอบครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงานไม่สามารถชี้แนวเขตคลองบางปริกที่ชัดเจนได้ เนื่องจากมีการไถปรับเปลี่ยนสภาพพื้นที่ไปจากเดิม นอกจากนี้ นางจงกล จงเฟื่องปริญญา ผู้ร้องได้ยื่นเอกสารภาพถ่ายทางอากาศที่ผลิตจากกรมแผนที่ทหารบริเวณพื้นที่พิพาทปี 2527 พ.ศ.2538 พ.ศ.2542 พ.ศ.2545 พ.ศ.2553 และ พ.ศ.2558 ให้เจ้าหน้าที่ได้พิจารณาตรวจสอบ

จากภาพถ่ายทางอากาศดังกล่าวปรากฏมีลักษณะคล้ายแหล่งน้ำอยู่ในพื้นที่พิพาทบริเวณด้านล่างจากขวาไปซ้าย ซึ่งในเอกสารที่ดินพิพาท น.ส.3 ก. ไม่ปรากฏมีแหล่งน้ำตามภาพถ่ายดังกล่าวแต่อย่างใด โดยครั้งนี้ทางหน่วยงานที่ลงพื้นที่ได้มีการตรวจสอบคลองตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง พร้อมจะให้เจ้าหน้าที่ที่ดินตะกั่วป่ามีการสอบแนวเขตรังวัดพื้นที่ใหม่ทั้งหมดตามคำร้องเรียนของชาวบ้าน

นางจงกล จงเฟื่องปริญญา ชาวบ้านตำตัว กล่าวว่า หลังมีกลุ่มนายทุนใช้แบ็กโฮถมดินและทำลายต้นยางพาราของตนเองประมาณ 30 ต้น และมีการออก น.ส.3 กินเข้าไปในที่ครอบครอง และมีการถมคลองเต็มพื้นที่ จนทำให้ตนเองได้รับความเดือดร้อน เมื่อฝนตกจะเกิดน้ำท่วมขังในที่ของตนเอง และมีการขุดดินถมคลองสาธารณะจนทำให้น้ำระบายไม่ทันซึ่งเกิดปัญหาตนเองในฐานะผู้เดือดร้อนได้มีการไปขอภาพถ่ายทางอากาศของทหาร ซึ่งแผนที่ทางอากาศระบุว่า บริเวณดังกล่าวที่มีการร้องเรียนเป็นลำคลองสาธารณะ จนทำให้น้ำบริเวณดังกล่าวเน่าเสียมีสีดำ จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสรุปตรวจสอบให้แล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อจะได้ลดปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านต่อไป


ล่าสุด จังหวัดพังงา ได้มีหนังสือจังหวัดพังงา ด่วนที่สุด แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีร้องเรียนกรณีปัญหาการแย่งสิทธิครอบครองที่ดินและการรุกล้ำที่สาธารณะ 1.ในขณะตรวจสอบกรณีตามข้อร้องเรียน พบว่า มีสภาพเป็นคลองบางปริก มีแหล่งน้ำธรรมชาติจากน้ำตกบางปริก ไหลมาต่อเนื่องผ่านพื้นที่พิพาทไปท่อลอดถนนทางหลวงแผ่นดิน สุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า แล้วลงสู่แม่น้ำตะกั่วป่า ตามข้อร้องเรียนจริง 2.ให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพังงา ดำเนินการตรวจสอบระวางที่ดินว่า พื้นที่พิพาทดังกล่าวเป็นคลองบางปริกหรือไม่อย่างไร และรายงานให้จังหวัดพังงาทราบโดยด่วน 3.ให้สำนักงานที่ดินจังหวัดพังงา สาขาตะกั่วป่า ดําเนินการตามอํานาจหน้าที่ในการพิจารณาเพิกถอนหรือแก้ไขการออกหนังสือรับรองการทําประโยชน์ น.ส.3 ก.ให้มีสภาพตรงกับความเป็นจริง และรายงานให้อําเภอตะกั่วป่าทราบโดยด่วน


กำลังโหลดความคิดเห็น