xs
xsm
sm
md
lg

ผ่าสนามเลือกตั้งเมืองตรัง “ประชาธิปัตย์” มั่นใจจะกู้ศักดิ์ศรีบ้านเกิด “นายหัวชวน” ให้กลับคืนมาได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โดย.. ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล จังหวัดตรัง หรือ "ทับเที่ยง" เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งทะเลสวยงาม และเกาะแก่งที่เหมาะแก่การพักผ่อนและดำน้ำดูปะการัง เมืองที่โด่งดังในการจัดงาน "วิวาห์ใต้สมุทร" ในช่วงวันวาเลนไทน์ และมีอาหารขึ้นชื่ออย่าง "หมูย่าง" และต้นตำรับ "เค้กลำภูรา" ที่เชิดชูหน้าตาของเมืองทับเที่ยงแห่งนี้

ในส่วนเรื่องการเมืองนั้น จังหวัดตรังคือ มาตุภูมิของ "ชวน หลีกภัย" ประธานสภาผู้แทนราษฎร อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ทุกคนยอมรับในความซื่อสัตย์สุจริต เป็นนักการเมืองมือสะอาดคนหนึ่งของประเทศไทย

ในการเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านๆ มา สนามเลือกตั้งของ จ.ตรัง “พรรคประชาธิปัตย์" ไม่เคยเสียที่นั่งให้แก่พรรคการเมืองอื่นเพราะชื่อชั้นของ "นายหัวชวน" เป็นเครื่องหมายการค้า ที่ประชาชนยอมรับ ดังนั้น ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะส่งใครลงสนาม ประชาชนชาวตรังก็ยินดีที่จะกาบัตรให้เป็นผู้แทนโดยไม่มีข้อกังขา แต่ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ในเขตเลือกตั้งที่ 1 ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งของ "นายหัวชวน" ถูกนักเลงดีจากพรรคพลังประชารัฐ "นิพนธ์ ศิริพันธ์" ที่เป็นอดีตรอง ผวจ.ตรัง ปาดหน้า "หมอสุกิจ“ นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ส.ส.หลายสมัยจากประชาธิปัตย์ เข้าป้ายชนิดลอยลำเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี ที่สร้างความปราชัยให้แก่ “ประชาธิปัตย์" ในสนามเมืองหมูย่างแห่งนี้

เลือกตั้งในปี 2566 จ.ตรัง เพิ่มเขตเลือกตั้งจาก 3 เขตเป็น 4 เขต โดยเขต 1 “ประชาธิปัตย์" ถอด "นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์" ออก แล้วส่ง “นพ.ตุลย์กานต์ มักคุ้น“ คนใกล้ชิดคนในครอบครัว "หลีกภัย" ลงแทน ซึ่งในเขตนี้ “พลังประชารัฐ" ส่ง “กิตติพงษ์ ผลประยูร“ อดีตที่ดินจังหวัดตรังลงแทน “นิพันธ์ ศิริธร“ ที่ไม่ไปต่อในการเลือกตั้งครั้งนี้

เขต 2 ประชาธิปัตย์ส่ง "สาทิตย์ วงศ์หนองเตย" เสี่ยตาลลงป้องกันตำแหน่งกับ “ทวี สุระบาล“ จากพลังประชารัฐ
เขต 3 ประชาธิปัตย์ส่ง "สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ“ ลงป้องกันตำแหน่งกับ "พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ เรืองนัฐพงษ์“
เขต 4 ประชาธิปัตย์ โดย “โกหนอ สมชาย โล่สถาพรพิพิธ“ หักด่านคนในตระกูล "หลีกภัย" ไม่ส่ง "สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล“ เลขานุการประธานสภาฯ "ชวน หลีกภัย" ซึ่งเคยเป็น ส.ส.เขตนี้ แล้วส่ง "กาญจน์ ตั้งปอง" ซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่น สายเลือดใหม่ลงในเขตนี้แทน โดยอ้างว่า “สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล" มีคะแนนในการทำโพลไม่ผ่าน และเป็นเหตุให้ “สมบูรณ์" ลาออกจาก "ประชาธิปัตย์" และลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 4 สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่หวังส่ง "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เป็นนายกรัฐมนตรี สมัยที่ 3 ส่วน “พลังประชารัฐ ส่ง "พล.ต.ต.บรรลือ ชูเวทย์" อดีตผู้การจังหวัดตรัง ลงแข่ง

ในขณะที่พรรคภูมิใจไทย ซึ่งขุนพลภาคใต้ "พิพัฒน์ รัชกิจประการ" รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ประกาศชัดว่าจะขอแบ่ง ส.ส.ในภาคใต้ 16 ที่นั่งนั้น ได้เปิดตัวผู้สมัครใน จ.ตรังที่แน่ชัดแล้ว 2 เขต ได้แก่ “นพ.รักษ์ บุญเจริญ" ในเขต 1 เพื่อต่อสู้กับ นพ.ตุลกานต์ มักคุ้น ที่มีดีกรีเป็นหมอเหมืนกัน

และส่ง "ดิษธัชนิน ภาคอิฐคน์" ลงในเขตเลือกตั้งที่ 4 เพื่อสู้กับ "กาญจน์ ตั้งปอง" จากประชาธิปัตย์ และ "สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล" จากรวมไทยสร้างชาติ

ที่ต้องจับตามองคือ "ดิษธัชนิน" ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่เป็นหลานชายแท้ๆ ของ “โกหนอ” สมชาย โล่สถาพรพิพิธ ซึ่งถูกมองว่า ครั้งนี้คือผู้ที่เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งตัวจริงของประชาธิปัตย์ในจังหวัดตรัง หาใช่ "กิจ หลีกภัย" ที่เคยเป็นแม่ทัพในการดูแลการเลือกตั้งใน จ.ตรัง เหมือนที่ผ่านๆ มา ซึ่งคนในเขตเลือกตั้งที่ 4 จับตามองกันว่า ในที่สุดแล้ว ระหว่าง "หน่อจากไผ่กอเดียวกัน" อย่าง "ดิษธัชนิน" กับ "กาญจน์ ตั้งปอง" ที่เป็น "ไผ่นอกกอ" ผู้มากบารมีอย่าง "โกหนอ" จะสนับสนุนผู้สมัครฝ่ายไหนให้ได้เป็น ส.ส.

และที่สำคัญ ในเขตเลือกตั้งที่ 4 ซึ่ง “สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล" คนสนิทของ "นายหัวชวน" และเป็นอดีต ส.ส.เขตนี้ ไม่เคยแพ้ในการเลือกตั้ง ซึ่งเชื่อว่ายังได้รับแรงหนุนจากคนในตระกูลหลีกภัย โดยเฉพาะ "กิจ หลีกภัย" ที่เป็นพี่ใหญ่ของตระกูล

ดังนั้น ในการเลือกตั้งทั้ง 4 เขตของเมืองหมูย่าง เขต 4 เป็นอีกเขตหนึ่งต้องต้องจับตา เพราะอาจจะพลิกผัน และทำให้ "ประชาธิปัตย์" ไม่สามารถยกจังหวัดอย่างที่มีการประกาศไว้ก่อนหน้านี้

รวมทั้งเขตเลือกตั้งที่ 1 ที่ประชาธิปัตย์ส่ง "นพ.กานต์ มักคุ้น" ลงสมัครในเขตนี้ ซึ่งประชาธิปัตย์เชื่อมั่นในผลงานที่ผ่านมาว่า เป็นที่รู้จักของคนในเขตเลือกตั้ง จากการเป็นหมอ ที่ดูแลประชาชนด้านสาธารณสุขมาโดยตลอด แต่ก็ประมาท "กิตติพงษ์ ผลประยูร" ผู้สมัครจากพลังประชารัฐไม่ได้เช่นกัน เพราะสถานการณ์ของเมืองหมูย่าง ณ วันนี้ บารมีแห่งความเป็นคนซื่อสัตย์ของ "นายหัวชวน" ไม่สามารถที่จะมัดใจคนตรังเหมือนกับในอดีต ซึ่งต้องยอมรับความจริงอย่างไม่ต้องอายว่า การเมืองของคนใต้ไม่ได้แตกต่างกับการเมืองของภาคอื่นๆ ที่คำตอบสุดท้ายของการเลือกตั้ง คือ “เงินไม่มากาไม่เป็น”

ที่สำคัญ “รวมไทยสร้างชาติ” มีแผนในการส่งผู้สมัครในเขตเลือกตั้งที่ 1 ที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น ที่มีนามสกุล “หลีกภัย” นามสกุลเดียวกับ “นายหัวชวน” ลงสมัครในเขตนี้ ซึ่งคงจะมีสีสันมากขึ้นในสนามเลือกตั้งของเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดตรัง

ด้านเขตเลือกตั้งที่ 3 ซึ่งเป็นพื้นที่ของ ส.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ซึ่งเป็นลูกสาวของ "โกหนอ" สมชาย โล่สถาพรพิพิธ จึงเป็นเขตปลอดภัยที่สุดของ “ประชาธิปัตย์” ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะคู่แข่งในแต่ละพรรคยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ “ส.ส.สุณัฐชา” เขตนี้ “กูรูทางการเมืองเมืองหมูย่าง” ฟันธงว่า ผ่าน

ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 2 ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของ “เสี่ยตาล” สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ครั้งนี้ก็ยังคงต้องขับเคี่ยวกับ “ทวี สุระบาล” คู่ปรับทางการเมืองตลอดกาลของเสี่ยตาล

สำหรับ “เสี่ยตาล” ประสบการณ์ทางการเมืองไม่ต้องถามถึง และยังมีทีเด็ดทีขาดและกลเม็ดเด็ดพราย ที่ถ้าเป็นนักมวย คู่ต่อสู้จะน็อกให้แพ้คาเวทีไม่ง่าย แต่ในเรื่องของการเมือง ถ้า “ทวี สุระบาล” ทำการบ้านมาดี ก็จะกลายเป็น “มวยถูกคู่” ที่สู้กันได้ แต่กูรูทางการเมืองยังให้น้ำหนักที่ “เสี่ยตาล” ว่าจะยังรักษาที่มั่นไว้ได้

แต่อย่างไรก็ตาม จากการพูดคุยกับ “นายกชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นขุนศึกของประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งพื้นที่ภาคใต้ ยังพูดด้วยความเชื่อมั่นว่า การเลือกตั้งปี 2566 แตกต่างกับการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 แน่นอน เพราะปี 2562 ถ้าเป็นมวย “ประชาธิปัตย์” เป็น “มวยเรื้อเวที” แถมยังไม่ได้ซ้อม ไม่มีการเตรียมพร้อมและเตรียมตัว

แต่การเลือกตั้งในปี 2566 “ประชาธิปัตย์” เตรียมพร้อมมาก่อนการเลือกตั้งเป็นปี ถ้าเป็นมวยก็ “ซ้อมถึง” และ “บำรุงอย่างดี” เชื่อมั่นว่าสนามเลือกตั้งเมืองตรัง “ประชาธิปัตย์” จะกู้ศักดิ์ศรีคืนมาโดยกวาด ส.ส.ทั้ง 4 เขตอย่างแน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น