xs
xsm
sm
md
lg

“วัชรพงษ์ อนันตกูล” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย หนุนภูเก็ตปกครองพิเศษ ชี้งบประมาณ "เบี้ยหัวแตกแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง" ไม่ได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “โกหม่อง วัชรพงษ์ อนันตกูล” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต เขต 1 พรรคเพื่อไทย หนุนภูเก็ตปกครองรูปแบบพิเศษ ชี้งบประมาณ "เบี้ยหัวแตก" ทำให้แก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง การจราจร-น้ำใช้-น้ำท่วม-น้ำเสียไม่ได้ กลายเป็นปัญหาซ้ำซาก

นายวัชรพงษ์ อนันตกูล หรือ "โกหม่อง" ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต เขต 1 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากประสบการณ์การเมืองที่เริ่มจากการได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภา ต่อมาในการเลือกตั้งสมัยที่ 2 นอกจากได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาแล้ว ตนยังได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนสมาชิกให้ทำหน้าที่ "ประธานสภาเทศบาลนครภูเก็ต" อีกด้วย ต่อจากนั้นในการเลือกตั้งสมัยที่ 3 ตนไม่ได้ลงเลือกตั้ง แต่ได้รับการผลักดันจากเพื่อนสมาชิก "กลุ่มคนหนุ่ม" ภายใต้การนำของ "นายกสมใจ สุวรรณศุภพนา" ให้ทำงานในหน้าที่ฝ่ายบริหาร โดยเป็น "รองนายกเทศบาลนครภูเก็ต" ดูแลกองสาธารณสุข และกองวิชาการและแผนงานการพัฒนาเทศบาลนครภูเก็ต

จากการทำงานการเมืองท้องถิ่นต่อเนื่องมาหลายสมัย ทำให้ได้เห็นว่างบประมาณของแต่ละท้องถิ่นที่จัดเก็บได้เองนั้นน้อยมาก โดยเฉพาะเมื่อมาเทียบกับความต้องการและปัญหาต่างๆ ในแต่ละท้องถิ่นที่จะต้องแก้ไข โดยแต่ละท้องถิ่นต้องรออย่างเดียวคือ ต้องรอว่าส่วนกลางจะจัดสรรงบอุดหนุนอะไรมาให้เราบ้าง ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ได้แต่คาดการณ์กันว่าจะได้รับงบอุดหนุนเท่านั้น เท่านี้ หรืออาจไม่ได้เลยก็ได้

นายวัชรพงษ์ ยังได้กล่าวต่อไปว่า บ่อยครั้งที่เราไม่ได้เป็นเงินอุดหนุนโดยตรง แต่ได้เป็นของที่ดำเนินการโดยส่วนกลางเอง ทำให้ท้องถิ่นต้องเจอปัญหา เช่น ผู้รับเหมาทิ้งงาน หรือผู้รับเหมาจะเริ่มงานตอนไหนก็เริ่มโดยไม่คำถึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนในถ้องถิ่นนั้นๆ ขณะที่ผู้บริหารท้องถิ่นไม่สามารถไปว่ากล่าวกับผู้รับเหมาที่รับงานจากส่วนกลางโดยตรงเหล่านั้นได้ มีตัวอย่างให้เห็นชัดๆ เช่น โครงการเอาสายไฟฟ้าลงใต้ดินในเขตเทศบาลนครภูเก็ต โครงการแก้ปัญหาน้ำเสีย-น้ำท่วมของเทศบาลเมืองป่าตองที่ทำไม่เสร็จสักที"

นายวัชรพงษ์ กล่าวยังได้กล่าวอีกว่า ขณะนี้ถือว่าถึงเวลาแล้วที่คนภูเก็ตต้องมาร่วมผลักดันให้ภูเก็ตมีรูปแบบการปกครองแบบพิเศษ จะเรียกว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือจังหวัดจัดการตนเอง หรืออะไรก็แล้วแต่ โดยมีผู้บริหารสูงสุดต้องมาจากการเลือกตั้ง ส่วนจะเรียกว่าผู้ว่าฯ ภูเก็ต หรือนายกฯ ภูเก็ต ก็ว่ากันต่อไป

ที่ต้องคิดอย่างนี้เพราะว่าความต้องการและปัญหาต่างๆ ของคนภูเก็ตนั้นมีมากมายและหลากหลาย แต่งบประมาณสำหรับการแก้ปัญหาและตอบสนองความต้องการของคนภูเก็ต ไม่ว่างบจากส่วนกลางที่มาจากหลายกระทรวง หรืองบในท้องถิ่นเองที่แยกย่อยเป็นท้องถิ่นรูปแบบต่างๆ มีทั้ง อบจ. เทศบาล อบต. กลายเป็นเบี้ยหัวแตก ทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างใหญ่ๆ ของภูเก็ต เช่น การจราจร น้ำบริโภค น้ำท่วม น้ำเสีย

ซึ่งปัญหาเหล่านี้นับวันจะกลายเป็นดินพอกหางหมู ที่คอยถ่วงการพัฒนาการท่องเที่ยวภูเก็ตไปสู่ระดับโลกอยู่ตลอดเวลา ผมจึงเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมีรูปแบบการปกครองที่พิเศษจากที่เป็นอยู่ ส่วนจะเป็นรูปแบบใดคนภูเก็ตต้องช่วยกันคิด ตนและพรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะสนับสนุนและผลักดันให้เรื่องนี้เกิดขึ้นจริง นายวัชรพงษ์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น