นครศรีธรรมราช - ชาวสวนยางพารากังวลเต็มไปด้วยปัญหาหนัก ทั้งราคาร่วง-โรคอุบัติใหม่ ไม่เชื่อแนวคิด รมว.เกษตรผลิตเซ็กซ์ทอย ถาม “มีอยู่ทุกบ้านหรือ” แนะสร้างความยั่งยืน
วันนี้ (25 ก.พ.) ที่สหกรณ์กองทุนสวนยางยูงทอง ต.ท่าดี อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นสหกรณ์เพื่อการผลิตยางพาราแผ่นดิบ และแผ่นรมควันของสมาชิก ช่วงเช้าที่ผ่านมาผู้จัดการ และเจ้าหน้าที่สหกรณ์ยังคงรอรับน้ำยางพาราจากสมาชิกเพื่อเข้าสู่กระบวนการผลิตเช่นทุกวัน สำหรับสถานการณ์ในวันนี้ พบว่ามีปริมาณน้ำยางพาราสดเข้าสู่สหกรณ์เพียงราว 150-200 กิโลกรัมต่อวันเท่านั้น จากเดิมที่เคยมียอดสูงสุดที่ประมาณ 2 พันกิโลกรัม หรือ 2 ตัน ทำให้สหกรณ์แห่งนี้ต้องลดต้นทุนการผลิต จากเดิมมีระบบรมควันยางพารา ต้องยุติส่วนนี้เหลือเพียงยางพาราแผ่นดิบเท่านั้น ก่อนที่จะนำไปส่งขายตลาดกลางพารานครศรีธรรมราช และในต้นเดือนมีนาคม 2566 จะต้องหยุดการผลิตไว้ก่อน เนื่องจากไม่มีปริมาณน้ำยางพาราจากสมาชิกจากภาวะใบร่วง โรคระบาดที่การยางเรียกว่า “โรคอุบัติใหม่” จำเป็นต้องหยุดกรีดไว้ก่อน
นายบุญมาก บุญเต็ม ผู้จัดการสหกรณ์กองทุนสวนยางยูงทอง ระบุว่า ปัญหาในเวลานี้เกิดขึ้นกับชาวสวนยางรอบด้าน ทั้งราคาที่ทรุดหนักลงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าพื้นที่ยางจะลดลง เกษตรกรหันไปปลูกไม้ผลอื่นมากขึ้น เช่น ทุเรียน ปัญหาโรคระบาดอุบัติใหม่ที่กำลังลุกลามไปอย่างต่อเนื่อง ใบยางพาราร่วงก่อนเวลา ช่วงเวลากรีดสั้นลง ยางเข้าสู่ตลาดน้อย แต่ราคาลดลงมันก็น่าแปลกใจ อีกทั้งปริมาณการใช้ยางเพิ่มขึ้น การแก้ไขปัญหายังไม่สามารถจับต้องเป็นรูปธรรมได้ แนวคิดรับเบอร์วัลเลย์ก็ยังเป็นแค่แนวคิด ไม่มีหลักประกันว่าจะเกิดขึ้นได้
ส่วนแนวคิดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องเซ็กซ์ทอยนั้นไม่มีความยั่งยืน ถามว่ามีกันทุกบ้านหรือไม่ ปริมาณยางพารามีเท่าไหร่ แก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร แต่สิ่งที่มีความยั่งยืน และมีผลการศึกษารองรับ เช่น เป็นส่วนผสมการทำถนน กลับไม่ได้มีการดำเนินการ หลักคิดสำคัญควรแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ที่ผ่านมากี่ปีมาแล้ว กี่การเลือกตั้งแล้ว เราเลือกคนเพื่อไปแก้ปัญหา แต่ท้ายที่สุดชาวสวนยางพารายังคงติดกับดักความยากจนจากปัญหารอบด้านที่ไม่ได้จัดการแก้ไข