ศูนย์ข่าวภาคใต้ - ศุลกากรสะเดาสั่งอายัดรถบรรทุกน้ำมัน 8 คัน เรียกเจ้าของบริษัทรับทราบข้อกล่าวหาในความผิด พ.ร.บ.ศุลกากร แจ้งระงับการปฏิบัติพิธีการศุลกากรแบบไร้เอกสาร หลังบริษัทขอใช้เส้นทางในประเทศขนน้ำมันดีเซล 320,000 ลิตร จากมาเลเซียไปขายใน สปป.ลาว แต่หลังจากผ่านด่านสะเดาแล้วกลับไม่ไปส่งจริงตามที่แจ้ง คนวงในแฉเป็นหนึ่งในวิธีการขนน้ำมันเถื่อนมาขายในไทย ชี้ได้กำไรคันละ 4 แสนบาท
วันนี้ (21 ก.พ.)นายเผดิมเดช มั่งคั่ง นายด่านศุลกากร อ.สะเดา จ.สงขลา ได้ทำการอายัดรถบรรทุกพ่วงที่ใช้ในการบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง จำนวน 8 คัน พร้อมทั้งได้มีหนังสือแจ้ง บริษัทที่มีสำนักงานตั้งอยู่ที่ ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างให้รถบรรทุกพ่วงทั้ง 8 คัน มารับทราบข้อกล่าวหาในความผิด พ.ร.บ.ศุลกากร แจ้งระงับการปฏิบัติพิธีการศุลกากรแบบไร้เอกสาร
สำหรับการสั่งดำเนินการในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ม.ค.66 นายอุทัย ดวงสูงเนิน นายด่านศุลกากร จ.บึงกาฬ ได้มีหนังสือแจ้งมายังนายด่านศุลกากร อ.สะเดา จ.สงขลา ว่า ตามที่นายด่านศุลกากร จ.บึงกาฬ ได้รับแจ้งจากนายด่านศุลกากร อ.สะเดา จ.สงขลา ถึงเรื่องที่บริษัทดังกล่าวได้ขอเคลื่อนย้ายสินค้าผ่านแดน จำนวน 8 ฉบับ ซึ่งเป็นการนำน้ำมันดีเซลจากประเทศมาเลเซีย รวม 320,000 ลิตร เพื่อไปส่งประเทศ สปป.ลาวตามใบขนสินค้าผ่านแดน เลขที่ A 003 26532 00097 ถึง A 013 26512 00269 จำนวน 8 ฉบับ เพื่อผ่านด่านศุลกากร จ.บึงกาฬ ไป สปป.ลาว ยังไม่มีการสำแดงจากบริษัทแต่อย่างใด และครบกำหนด 30 วัน ตามกำหนดของ พ.ร.บ.ศุลกากร ที่เกี่ยวกับสินค้าผ่านแดน หรือการ ”ทรานส์ซิส” เส้นทางแล้ว จึงขอให้ศุลกากร อ.สะเดา จ.สงขลา ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ศุลกากรต่อไป
หลังจากที่นายด่านศุลกากร อ.สะเดา จ.สงขลา ได้รับเอกสารจากนายด่านศุลกากร จ.บึงกาฬ จึงได้ส่งจดหมายแจ้งให้เจ้าของบริษัทดังกล่าวให้รับทราบข้อหาระดับการปฏิบัติพิธีการศุลกากรแบบไร้เอกสาร และใช้เวลาในการติดตามยึดรถบรรทุกน้ำมันที่เป็นรถพ่วง มีการบรรทุกน้ำมันได้คันละ 40,000 ลิตร มาเป็นของกลาง ซึ่งหลังจากยึดมาพบว่า ไม่มีน้ำมันในรถทั้ง 8 คันแล้ว เพื่อรอให้ด่านศุลกากร จ.บึงกาฬ ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ศุลกากรต่อไป
ผู้เชี่ยวชาญในวงการน้ำมัน ระบุว่า การนำน้ำมันดีเซลจากประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีราคาขายส่งลิตรละ 14 บาท โดยแจ้งทำทัณฑ์บน หรือการขอทรานส์ซิสเส้นทาง เพื่อส่งขายประเทศ สปป.ลาว แต่ได้นำน้ำมันทั้งหมดขายในประเทศไทย ซึ่งน้ำมันดีเซลในประเทศไทยมีราคาลิตรละ 35 บาท เป็นวิธีการหนึ่งของขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนข้ามชาติที่ทำกันมานาน โดยมีการให้ผลประโยชน์เจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งที่ต้นทางและที่ปลายทาง
สำหรับวิธีการ คือ การนำน้ำมันที่ซื้อมาในราคาถูกขายในประเทศไทยเป็นน้ำมันเถื่อนในราคาลิตละประมาณ 25 บาท จะมีกำไรลิตรละ 10 บาท รถบรรทุกน้ำมัน 1 คันบรรทุกได้ 40,000 ลิตร จะได้กำไร 400,000 บาท หลังจากที่ขายน้ำมันให้ลูกค้าแล้วจะนำรถเปล่าวิ่งไปด่านศุลกากรปลายทาง เพื่อส่งเอกสารให้ประทับตราว่ามีการส่งออกไป สปป.ลาวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีภาพจากกล้องวงจรปิดในการผ่านด่านเข้า สปป.ลาวเป็นหลักฐาน โดยมีการจ่ายผลประโยชน์ให้เจ้าหน้าทีรัฐ 90,000 บาทต่อ 1 คันรถบรรทุก ซึ่งเรื่องการค้าน้ำมันเถื่อนข้ามชาติเป็นขบวนการที่ทำกันมานาน แต่ครั้งนี้ที่มีปัญหา แหล่งข่าวระบุว่า อาจจะมาจากความขัดแย้งในหมู่เจ้าหน้าที่
นายเผดิมเดช มั่งคั่ง นายด่านศุลกากร อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นต้านทางในการออกเอกสารใบผ่านทางให้แก่บริษัทปฏิเสธที่จะให้รายละเอียด กล่าวเพียงว่า เป็นหน้าที่ของศุลกากรบึงกาฬในการแจ้งความเอาผิดต่อบริษัทที่ทำผิดข้อตกลง เพราะด่านศุลกากรบึงกาฬ เป็นผู้เสียหาย