ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “รมว.พิพัฒน์” พร้อมคณะทำงานลงพื้นที่ติดตามผลักดันโครงการก่อสร้างสะพานเชื่อม 2 ตำบล วิชิต-ฉลอง ผ่านคลองมุดง พร้อมดัน "ท่าเทียบเรือยอชต์วิชิต” จุดชมวิวเขาขาด สร้าง Landmark ใหม่ สร้างความสะดวกการเดินทางของประชาชน แก้ปัญหารถติด
เมื่อเร็วๆ นี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่พร้อม นายวงศกร ชนะกิจ คณะทำงานรัฐมนตรี และเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย จ.ภูเก็ต ซึ่งได้ประสานให้ดูความเป็นไปได้ใน 2 โครงการในเขตพื้นที่รอยต่อ ต.วิชิต-ต.ฉลอง พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมทางหลวงชนบท เทศบาลตำบลวิชิต ท่องเที่ยวและกีฬา จ.ภูเก็ต เป็นต้น เพื่อผลักดันให้เกิดขึ้นในพื้นที่
โครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมวิชิต-ฉลอง เป็นโครงการที่จะก่อสร้างสะพานเชื่อมการคมนาคมระหว่าง ต.วิชิต กับ ต.ฉลอง โดยฝั่งวิชิตเริ่มต้นที่ใกล้กับจุดชมลิง คลองมุดง ข้ามคลองมุดงไปเชื่อมกับฝั่งฉลองที่บริเวณใกล้กับร้านอาหารหมอมุดง ตามแบบแปลนเดิมสะพานจะมีขนาดกว้างประมาณ 8 เมตร ยาวประมาณ 280 เมตร ทั้งนี้ เพื่อให้การเดินทางของประชาชนสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
นายวงศกร กล่าวว่า ถ้าเรามีสะพานข้ามคลองมุดง ออกแบบให้สวยงามข้ามจากฝั่งวิชิตไปฉลอง จะเป็นประโยชน์ให้ชุมชนอย่างยิ่ง การคมนาคมสะดวก แก้ไขปัญหารถติดได้มาก สามารถทำเป็นจุด Landmark จุดเช็กอิน และจัดงานถนนคนเดินในโอกาสต่างๆ ได้
นายวงศกร กล่าวอีกว่า ยังมีอีกหนึ่งโครงการที่ต้องการจะผลักดันให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ต.วิชิต คือ โครงการท่าเทียบเรือยอชต์วิชิต ซึ่งพื้นที่จุดชมวิวเขาขาด ตั้งอยู่ใกล้กับตัวสะพานข้ามคลองมุดงนั้นมีลักษณะอยู่ในบริเวณอ่าว คลื่นลมสงบ สามารถต่อยอดโครงการสร้างเป็นท่าเทียบเรือยอชต์ เป็นจุดจอดเพื่อชาร์จระบบไฟ เติมน้ำมัน น้ำจืด และยังอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยว สามารถรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพกำลังซื้อสูง หากสามารถดึงลูกค้ากลุ่มนี้เข้ามาในชุมชนในจังหวัดภูเก็ต จะเป็นการเพิ่มเม็ดเงินให้จังหวัดเป็นอย่างมาก สร้างงานสร้างอาชีพ สร้างรายได้เพิ่มให้ชุมชนอีกด้วย
โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องตั้งงบประมาณศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) เพื่อหาจุดที่เหมาะสมของโครงการ ถือว่ามีความเป็นไปได้ที่ 2 โครงการในเขตรอยต่อ ต.วิชิต-ฉลอง จะเกิดขึ้นจริงหากได้รับงบประมาณในการสนับสนุน และจะเป็นการสร้างรายได้ให้จังหวัดภูเก็ต สร้างความสะดวกสบาย แก้ปัญหารถติดในชุมชน ขยายถนนรองรับตัวสะพานให้สัญจรได้คล่องตัว เกิดจุด Landmark สวยแห่งใหม่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาท่องเที่ยวจับจ่ายใช้สอยในจังหวัดภูเก็ตต่อไป