กระบี่ - ชาวบ้านคลองแรด อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือในสิทธิที่ดินทำกินของบรรพบุรุษ หลังถูกเจ้าหน้าที่ป่าชายเลนโค่นล้มต้นปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 17 ไร่ทิ้ง เผยทำประโยชน์มา 3 ชั่วอายุคน
วันนี้ (14 ก.พ.) นางสายใจ สกุลสวน อายุ 58 ปี ชาวบ้านหมู่ 5 บ้านคลองแรด ต.แหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ได้รวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับที่ดิน จำนวน 17 ไร่ จัดทำคำฎีกา เดินทางจากจังหวัดกระบี่ นำฎีกาไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง เพื่อให้เจ้าหน้าที่นำความขึ้นกราบบังคมทูล ถวายฎีกาต่อในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่สำนักพระราชวัง เพื่อขอความเป็นธรรมและขอพระราชทานความช่วยเหลือในสิทธิที่ดินทำกินของบรรพบุรุษ หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ป่าชายเลนโค่นล้มต้นปาล์มทิ้งรวมเนื้อที่ 17 ไร่ ทั้งที่ได้ทำกินมากกว่า 3 ชั่วอายุคน
นายราเซน จันทร์อ่อน ทนายความ เปิดเผยว่า เมื่อเดือนพฤษภาคม 2564 เวลาประมาณ 03.00-07.00 น เจ้าหน้าที่ป่าชายเลน นำรถแบ็กโฮเข้ารื้อถอน ทำลายต้นปาล์มน้ำมัน พื้นที่จำนวน 17 ไร่ เป็นของครอบครัวนายภพ สกุลสวน อายุ 56 ปี สามี และนางสายใจ สกุลสวน อายุ 58 ปี ภรรยา ชาวบ้านหมู่ 5 บ้านครองแรด ต.แหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่า พื้นที่ดังกล่าวบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลน ทั้งที่ครอบครัวของนายภพ ได้ทำกินมา 3 ชั่วอายุคน กว่า 100 ปี โดยปรับเปลี่ยนปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมันมาต่อเนื่อง
ที่ผ่านมา ทางครอบครัวนายภพ ได้ยื่นขอความเป็นธรรมต่อผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน แต่เรื่องเงียบ ไม่คืบหน้า จนเป็นเหตุให้นายภพ สกุลสวน เสียใจมากที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือ จึงเกิดความเครียด สิ้นหวังหมดกำลังใจ ตรอมใจจนเสียชีวิตในวันที่ 7 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบข้อมูลการถือครองที่ดินของนายภพ สกุลสวน เดิมเป็นของนายเฟื่อง เนื้ออ่อน เป็นตาของภรรยา ซึ่งนายเฟือง เนื้ออ่อน ได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว มาก่อน พ.ศ.2485 ซึ่งเป็นการครอบครองและทำประโยชน์มาก่อนที่จะมีประกาศให้เป็นเขตป่าไม้ถาวร ประกาศเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ และประกาศให้เป็นเขตป่าชายเลน นายเฟือง ได้ทำประโยชน์ในที่ดินทำกินโดยการทำนามาอย่างต่อเนื่อง และประมาณปี 2530 ได้เปลี่ยนมาเป็นสวนปาล์มน้ำมัน และได้ปลูกปาล์มน้ำมัน ซึ่งผู้เสียหายได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อจากนายเฟื่อง และได้ชำระภาษีบำรุงท้องที่ รวมถึงได้จดทะเบียนเกษตรกร และทำกินในที่ดินตลอดมาจนถึงปัจจุบัน และไม่มีสภาพเป็นป่า
นอกจากนี้ ที่ดินติดกันล้อมที่ดินของผู้เสียหายมีที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง มีถนน และไฟฟ้า มีทะเบียนบ้าน เป็นชุมชนมีราษฎรอยู่อาศัยหลายครัวเรือน และทำกินกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน