xs
xsm
sm
md
lg

อิทธิพล “หมูเถื่อน” ทำหมูไทยราคาร่วง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทัศนะ โดย.. สมคิด เรืองณรงค์

ช่วงนี้ราคาหมูไทยกำลังเป็นกราฟขาลง สวนทางต้นทุนการผลิตที่เป็นขาขึ้น เห็นแล้วหวั่นใจเหลือเกินว่าเกษตรกรไทยจะยืนหยัดและเดินต่อไม่ไหว ยิ่งได้เห็นเกษตรกรรายเล็กๆ ออกมาส่งสัญญาณดังๆ ไปยังรัฐบาล พร้อมชี้เป้าทางออก-ทางแก้ปัญหาให้ภาครัฐช่วยพวกเขาด้วยแล้ว ยิ่งน่าเห็นใจและอดไม่ได้ที่ต้องตั้งคำถามไปยังเจ้าหน้าที่รัฐว่าทำอะไรกันอยู่ เหตุใดจึงไม่เร่งแก้ปัญหา หรือต้องรอให้สายเกินแก้ รอให้แย่แล้วค่อยมาอ้างว่าแก้ไม่ทัน ซึ่งมันฟังไม่ขึ้น

นายภักดี ชูขาว ผู้เลี้ยงสุกรรายเล็กใน จ.พัทลุง ระบายผ่านสื่อว่า ขณะนี้บรรดาผู้เลี้ยงสุกรรายเล็ก-รายย่อยทั่วภาคใต้นับพันรายกำลังประสบปัญหาขาดทุนหนักมาก จากประเด็นสำคัญคือ การรุกรานของหมูเถื่อน ทั้งที่มาในสภาพ “หมูกล่อง” จากยุโรปและอเมริกาใต้ รวมถึง “หมูร้อน” เป็นกองทัพมดมาทางตะเข็บชายแดน หมูเถื่อนเหล่านี้ประดังประเดเข้าสู่ประเทศไทย และกำลังแผ่ “อิทธิพลมืด” กดราคา “หมูไทย” ให้ร่วงไม่เป็นท่า โดยหมูเถื่อนที่ชำแหละเป็นซากแล้วขายกันอยู่ที่ระดับ 40-50 บาท/กก. ขณะที่ต้นทุนการผลิตหมูไทยอยู่ที่ประมาณ 90 บาท/กก. แม้จะประกาศราคาขายหน้าฟาร์มต่ำกว่าทุนที่ 88 บาท/กก. ยอดซื้อก็ยังหายไป ส่งผลให้เกษตรกรไทยต้องแบกรับภาระต้นทุนการเลี้ยงต่อ เพราะหมูต้องกินอาหารทุกวัน ขณะที่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อาหารหลักของหมูมีราคาพุ่งไปถึง กก.ละ 13.65 บาทแล้ว จากปกติที่ควรจะเป็นคือ 10 บาทกว่าๆ และเมื่อถึงจุดหนึ่งก็จำเป็นต้องขายและแน่นอนว่าต้องขายในราคาขาดทุน

วันนี้หมูเถื่อนที่ลักลอบเข้ามาขายในภาคใต้ของไทยกำลังอาละวาดอย่างหนัก ตัดราคาหมูไทยยับเยิน ประเด็นคือปัญหา “หมูเถื่อน ไม่ใช่เรื่องใหม่” แต่มันเข้ามาระรานหมูไทยไม่ต่ำกว่า 1 ปีแล้ว แม้จะเห็นการจับกุมได้บ้างเป็นครั้งคราว รวมทั้งที่ประโคมข่าวกันว่า “ฝังทำลายหมูเถื่อน 7 แสนกิโลกรัมมากสุดในประวัติศาสตร์” แต่หลักฐานคาตาที่หมูไทยถูกขายตัดราคาดังที่ปรากฏในปัจจุบันนั้น ยังคงตอกย้ำว่าปริมาณหมูเถื่อนในประเทศไทยยังสูงอยู่มาก สิ่งที่รัฐจับกุมได้นั้นอาจเป็นเพียง 5% ของปริมาณหมูเถื่อนที่กระจายขายอยู่ทั่วไทยเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 95% ยังลอยนวลและเริงร่าอยู่ในตลาด เอาเปรียบเกษตรกรไทยและทำร้ายสุขภาพผู้บริโภคชาวไทยได้โดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม

“คนทำมาหากินสุจริต” ไม่ควรต้องพ่ายให้มิจฉาชีพเพียงเพราะ “รัฐใส่ใจไม่พอ”

แม้ปัจจุบันประเทศไทยกำลังอยู่ในโหมดหาเสียงเลือกตั้ง แต่ละพรรคการเมืองชูนโยบายเอาใจฐานเสียงกันอยู่ รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงอาจมีภารกิจเพื่อพรรคของตน แต่เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องโดยตรง อย่างกรมศุลกากร และกรมปศุสัตว์ ซึ่งเป็นข้าราชการที่ไม่ต้องข้องเกี่ยวกับการหาเสียง จึงควร “ปฏิบัติหน้าที่” อย่างเต็มที่ วางแผนการจับกุมเป็นขั้นเป็นตอนอย่างรอบคอบรัดกุม ดังที่นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ “เดินหน้าปราบหมูเถื่อนจริงจังต่อเนื่อง และป้องกันอย่าให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต” อย่างน้อยระยะเวลากว่าปีที่ทำการสืบสวน-สอบสวนกันมา ควรต้องจับกุม “ตัวบงการ” ได้แล้ว ซึ่งน่าจะหยุดขบวนการมิจฉาชีพกลุ่มนี้ลงได้ และน่าจะช่วยให้สถานการณ์หมูเถื่อนไม่บานปลายมาจนถึงขั้นนี้

ได้แต่หวังจะเป็นอีกเสียงเล็กๆ ที่ส่งถึงเจ้าหน้าที่รัฐทั้ง 2 กรม รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร ที่จะต้องผนึกกำลัง ผสานความร่วมมือมห้ครอบคลุมและรู้เท่าทันการทำงานของขบวนการหมูเถื่อนที่มีเครือข่ายโยงใยทั่วประเทศ ก่อนที่เกษตรกรคนเลี้ยงหมูจำต้องยกธงขาว ปล่อยหมูเถื่อนคืบคลานเข้ายึดพื้นที่ประเทศของเรา ... โปรดอย่าให้คนทำมาหากินสุจริตต้องพ่ายแพ้วิชามารและประเทศต้องดำดิ่งลงไปสู่หายนะที่ใหญ่กว่านี้เลยครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น