นครศรีธรรมราช - เยาวชน 16 ปี ชาวนครศรีธรรมราช ร้องขอความช่วยเหลือ หลังถูกดูดเงินค่าชดเชยสูญเสียพ่อแม่ 5 แสนบาทหายเกลี้ยงบัญชี แจ้งความไว้แต่ 3 เดือนยังไม่คืบหน้า ดิ้นรนสืบหาจนพบปลายทางรับจ้างเปิดบัญชี
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่นครศรีธรรมราช กรณีคลิปนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้โพสต์เผยแพร่ขอความช่วยเหลือเนื่องจากเงินในบัญชีธนาคารของตนเองหายไปอย่างไร้ร่องรอยกว่า 500,000 บาท ซึ่งเป็นเงินทุนการศึกษา โดยผู้สื่อข่าวได้ติดตามข้อมูลเรื่องนี้จนพบว่าผู้เสียหายรายนี้คือ น ส.กนกวรรณ เรืองฤทธิ์ อายุ 16 ปี มีน้าชายคือ นายปรีชา ซ้ายอ่อน อายุ 33 ปี และ น.ส.สุณิสา เวหน อายุ 33 ปี น้าสะใภ้คอยประสานงานให้ความช่วยเหลือ
นาฝ ส.กนกวรรณ เรืองฤทธิ์ ซึ่งเป็นผู้เสียหายโดยตรงได้ให้ข้อมูลว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 หลังจากไปเปิดแอปธนาคารเจ้าของบัญชีเพื่อใช้งาน ปรากฏว่าเงินที่มีอยู่กว่า 500,000 บาท หายไปจนหมดเหลือเพียง 850 บาท ด้วยความตกใจจึงบอกน้าชาย และเมื่อมาตรวจสอบดูพบว่าเงินถูกโอนออกจากบัญชีไปเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2565 จำนวนถึง 14 ครั้งในวันเดียว รวมเป็นเงิน 510,100 บาท โดยไม่มีการแจ้งเตือนอะไร มีร่องรอยเพียงถูกเข้าไปแก้ไขวงเงินการโอนต่อวันจาก 100,000 บาท ไปเป็น 1,000,000 บาท
หลังจากทราบเรื่องเมื่อวันที่ 9 พ.ย.65 วันรุ่งขึ้นคือวันที่ 10 พ.ย.65 จึงรีบไปแจ้งความซึ่งจนถึงขณะนี้เป็นเวลา 3 เดือนแล้วยังไม่มีความคืบหน้า สำหรับเงินทั้งหมดที่หายไปนั้นเป็นเงินที่ได้จากบริษัทประกันภัยเป็นค่าชดเชยในอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ทั้งพ่อและแม่ของตนเองถูกชนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทั้งคู่ ส่วนตัวเองนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส นอนโรงพยาบาลถึง 1 เดือน
ขณะที่ นายปรีชา ซ้ายอ่อน และ น.ส.สุณิสา เวหน น้าชายและน้าสะใภ้ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลังจากแจ้งความแล้วได้ไปที่ธนาคารได้อายัดบัญชีปลายทาง ปรากฏว่าเงินได้ถูกโยกออกไปหมดแล้ว เหลือแค่บัญชีเปล่าๆ และเมื่อตนเองได้ช่วยกันสืบหาข้อมูลผ่านทางโซเชียลมีเดีย พบว่า เจ้าของบัญชีมีตัวตนได้พูดคุยผ่านช่องแชต เขายอมรับว่าได้รับจ้างเปิดบัญชีจริงปลายทางเป็นบัญชีม้า ทั้งหมดถูกเก็บหลักฐานและเอามาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ยอมรับว่าเขาไม่มีความเชี่ยวชาญไม่รู้จะทำอย่างไรเช่นกัน จึงพยายามออกมาแจ้งเตือนและขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สิ่งสำคัญในขณะนี้คือ ทางธนาคารพยายามโยนว่าเป็นความผิดของเจ้าของบัญชีเองที่มีการโอนเงินออกไป ทั้งที่เจ้าของบัญชีไม่ได้ทำอะไรเลย และยินดีให้มีการตรวจสอบ ทุกอย่างพร้อมให้ตรวจสอบ แต่ทางธนาคารและทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดำเนินการอะไรจนขณะนี้ และยังบอกด้วยว่าได้มีผู้ที่ช่วยเหลือติดตามหาไอพีอินเทอร์เน็ตปลายทางที่มีการแก้ไขบัญชีและโอนเงินพบว่าอยู่ในกรุงเทพมหานคร และพัทยา ชลบุรี แต่เครื่องมือถือของหลานอยู่ที่ปากพนัง ซึ่งไม่มีใครเลยที่รู้จักกันอยู่ที่นั่น ชื่อบัญชีปลายทางไม่มีใครรู้จัก เจ้าของบัญชีที่สามารถสืบหาเองและติดต่อไปได้ยังยืนยันว่ารับจ้างเปิดบัญชี
นายปรีชา ยังระบุด้วยว่า วงเงินนี้ถือว่าโชคดีในระดับหนึ่งที่มีการจัดแบ่งบัญชี จากค่าชดเชยเยียวยาการเสียชีวิตของพ่อแม่ของเขาได้มาจำนวน 2.9 ล้านบาทเศษ ได้แบ่งออกมา 500,000 บาท เพื่อเก็บไว้เป็นทุนการศึกษา ธนาคารเป็นคนจัดการให้ทุกอย่าง แม้แต่การให้เปิดแอปพลิเคชันใช้งาน ส่วนที่เหลือนั้นได้เก็บไว้ในบัญชีที่ไม่ได้มีแอปพลิเคชันยังอยู่ครบ ทุกคนในครอบครัวต้องพยายามช่วยเหลือหลานเพื่อเร่งให้มีการดำเนินการเรื่องนี้ แต่ยังหาความคืบหน้าไม่ได้เลย จึงเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย
