จับชายสตูลพร้อมพวกชาวมาเลย์ ขึ้นเกาะตะรุเตาลอบจับ “กระจงควาย” สัตว์ป่าสงวนฯ

สตูล - เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จับชายชาวสตูลวัย 51 ปี พร้อมพวกชาวมาเลเซียรวม 5 คน ขึ้นเกาะตะรุเตา ลักลอบจับ “กระจงควาย” สัตว์ป่าสงวนฯ

วันนี้ (2 ก.พ.) นายมุมีน มาลินี นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา พร้อมกำลังร่วมกันออกลาดตระเวนป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ภายในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา

โดยขณะลาดตระเวนถึงอ่าวกระดาน พบเรือยนต์เล็กขนาด 12 เมตร จอดอยู่ผิดปกติ จึงได้แสดงตน และเข้าทำการตรวจสอบตรวจค้น ปรากฏว่าพบชายไทย 1 คน ชาวมาเลเซีย 4 คน อยู่บนเรือพร้อมด้วยกรงขังสัตว์ จำนวน 6 กรง และยังพบ “กระจง” อยู่ในกรง จำนวน 3 ตัว มีอวนดักสัตว์ใส่กระสอบ จำนวน 3 กระสอบ กรงนก จำนวน 1 กรง ใบตะเคียนเฒ่าเป็นเยื่อดักกระจง จำนวน 1 ถุง ทราบชื่อคนไทยคือ นายสุกรี หับยูโซ๊ะ อายุ 51 ปี ชาวบ้านหมู่ 1 ต.ตันหยงโป อ.เมืองสตูล และชาวมาเลเซีย ชื่อ 1.MR.MOHAMAD RAIS BIN MOHD DAUD 2.MR.HAIRULNIZAN BIN GHAZALI 3.MR.MOHD DAUD BIN ISMAIL และ 4.MR.AZIZ BIN AZMI


ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ซักถามนายนายสุกรี ได้ความว่าเข้ามาดักจับนก และกระจง บนเกาะเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา พร้อมพวกจำนวน 9 คน ซึ่งเป็นคนไทย 4 คน ยังหลบหนีการจับกุมอยู่บนเกาะตะรุเตา เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบรายละเอียดดังกล่าวข้างต้นในการเข้ามาล่าสัตว์ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ซึ่ง “กระจงควาย” เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง มีความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 และมีความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 เป็นการกระทำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

โดยนำส่งตัวทั้งหมดดำเนินคดีที่ สภ.เกาะหลีเป๊ะ ข้อกล่าวหาฐานห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามมาตรา 12 และมาตรา 89 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 [1] ฐานห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่าดังกล่าว ตามมาตรา 17 และมาตรา 89 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 [2] ฐานล่อหรือนำสัตว์ป่าออกไปหรือกระทำให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการใดๆ ตามมาตรา 19 (3) และมาตราแห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 [3] ฐานเข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ ตามมาตรา 19 (6) และมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 [4] ฐานนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใดๆ เข้าไป ตามมาตรา 19 (7) และมาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562