สตูล - เกษตรกรเมืองสตูลหันปลูกผักปรับตัวสร้างจุดเด่น ชูผักสดใหม่ปลอดภัยได้คุณภาพ หลังมีการนำเข้าผักสดจากจีนเข้ามาเพิ่มมากขึ้น จนส่งผลต่อราคาผักในประเทศ
หลังจากมีการนำเข้าผักสดจากประเทศจีนกันมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีราคาที่ถูก ด้านเกษตรกรไทยยอมรับว่าส่งผลต่อราคาผักในประเทศ ซึ่งเกษตรกรเองต้องปรับตัว เหมือนเช่นเกษตรกรในพื้นที่ อ.เมือง จ.สตูล ที่เจาะกลุ่มเน้นผักคุณภาพเพื่อเป็นทางเลือก
โดยที่แปลงเกษตรกรสัมมาชีพต้นแบบ (ด้านเกษตรผสมผสาน) ของ นายบุญฤทธิ์ ละอองวิจิตร บ้านเลขที่ 360 หมู่ 4 ต.ควนขัน อ.เมือง จ.สตูล ซึ่งเป็นเกษตรกรที่ปลูกผักอินทรีย์ปลอดสารพิษ โดยผักที่ปลูกมีหลากหลายชนิดตามความนิยมในยุคปัจจุบัน เช่น ผักคะน้า กวางตุ้ง (ราคาอยู่ที่ 50-70 บาท) ผักกรีนคอส ผักกรีนโอค (กก.ละ 100 บาท) ซึ่งเป็นเกษตรกรรายขนาดกลาง ผลผลิตได้วันละ 50 กก. สร้างจุดเด่นขายตรงผ่านกลุ่มไลน์โซเชียล ซึ่งมีฐานลูกค้าในพื้นที่อยู่แล้ว ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบ แม้ราคาผักจีนที่นำเข้ามาจะถูกกว่าก็ตาม
นายบุญฤทธิ์ ละอองวิจิตร เกษตรกรปลูกผักอินทรีย์ ยอมรับว่า แม้ผักจะปลูกได้น้อย แต่ยังมีเกษตรกรส่วนหนึ่งที่สนใจที่จะปลูก ทำอาชีพเกษตรกรรมในการทำผักปลอดสารพิษให้ผู้บริโภค หากมีการนำเข้าผักจากประเทศจีน หรือที่อื่นเข้ามา ผักที่เข้ามาในปริมาณเยอะๆ จะส่งผลต่อราคาของผักในประเทศได้ ทำให้ราคาผักจะดำดิ่ง ทำให้ต้องขายในราคาต่ำ อาจจะขายออกไม่ได้เพราะมีผักต่างประเทศมาตีราคา
เกษตรกรปลูกผักอินทรีย์เห็นด้วยว่า ต้องปรับตัวคือต้องเข้าถึงลูกค้าประจำที่กินผัก ต้องทำผักของเราให้เด่นกว่าผักที่มาจากที่อื่น เช่น โปรโมตในเรื่องของความปลอดภัย ความสด อร่อยกว่าที่อื่นก็จะยิ่งดี แม้ราคาจะสูงกว่าจากที่อื่นเล็กน้อย แต่จะได้ผักที่ปลอดภัยมีคุณภาพ