ปลัดกระทรวงยุติธรรมตรวจพื้นที่หาดเลพัง ชี้เป็นของขวัญให้คนทั้งโลก

ภูเก็ต - ปลัดกระทรวงยุติธรรม ตรวจพื้นที่ 178 ไร่หาดเลพัง หาดลายัน ชี้เป็นของขวัญให้คนทั้งโลกที่จะได้สัมผัสพื้นที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ของ จ.ภูเก็ต

วันนี้ (27 ม.ค.) นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ นายวัลลภ นาคบัว รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดี DSI ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล ลงพื้นที่หาดเลพัง-หาดลายัน ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เนื้อที่ 178 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ DSI รับเป็นคดีพิเศษ และดำเนินคดีสิ้นสุดในชั้นศาลฎีกา ตัดสินให้พื้นที่นี้กลับมาเป็นสาธารณสมบัติของประเทศ

นางพงษ์สวาท กล่าวว่า นโยบายของกระทรวงคือ อำนวยความยุติธรรม และ บริหารความยุติธรรม พื้นที่นี้เป็นความสำเร็จของหลายหน่วยงานที่ร่วมกันทวงกลับคืนมาเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เป็นพื้นที่ที่มีมูลค่าและมีคุณค่ากับประชาชน ต่อจากนี้กระทรวงยุติธรรมจะบูรณาการการทำงานร่วมกันกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และ อบต. โดยภายในกระทรวงมีหน่วยงานเข้ามาขับเคลื่อนในพื้นที่นี้คือ DSI และกรมบังคับคดี ที่เข้ามาดูแลประชาชนในการทวงคืนพื้นที่


ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวต่อว่า จากนี้ไปการทำงานของหน่วยงานจะไม่ยึดตามขั้นตอนปกติ เพราะบางคดีหมดอายุความไป เพราะฉะนั้น การพูดคุยเชิงบูรณาการเป็นนโยบายสำคัญ และหลังจากลงพื้นที่แล้วจะกลับไปพูดคุยกัน ในบางเรื่องหากใช้ระเบียบไม่ได้จะใช้มาตรการทางบริหารที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาตรงนี้

"ไม่ง่ายในการทำงานในพื้นที่ที่มีทั้งแรงกดดัน และแรงเสียดทาน เพราะว่าการแก้ปัญหาแต่ละเรื่องต้องรู้เลยว่าเมื่อลงไปทำจริงๆ ต้องมีขั้นตอนมากมาย ต้องชื่นชม DSI ที่ลงมาทำตรงหาดเลพัง หาดลายัน จนสามารถนำประโยชน์มาสู่ส่วนรวม และประโยชน์ประชาชนได้" นางพงษ์สวาท ระบุ


ขณะที่ พ.ต.ท.ประวุธ เผยว่า วันนี้ดีใจที่เปิดพื้นที่แห่งนี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของภูเก็ตได้ สมัยก่อนชาวต่างชาติที่จะเข้ามาใช้พื้นที่ต้องเสียเงินให้ผู้อ้างสิทธิครอบครอง และปัจจุบันจะเห็นว่า นักท่องเที่ยวสามารถมาใช้พื้นที่ชายหาดได้ น่ายินดีที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นความสวยงามของจังหวัดภูเก็ต และในเวลานี้ที่เราเปิดประเทศ พื้นที่หาดเลพัง หาดลายันจะเป็นของขวัญให้ประเทศไทย และเป็นของขวัญสำหรับคนทั้งโลกที่จะได้สัมผัสพื้นที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ของ จ.ภูเก็ต


ด้าน พ.ต.ต.สุริยา กล่าวว่า ในการดำเนินคดีกลุ่มความผิดทางทรัพยากรธรรมชาติ ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปลายทางคือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ดีเอสไอมีความท้าทายคือการสร้างความเข้าใจกับประชาชน ผู้บุกรุก หรือผู้ลงทุนให้เข้าใจบทบาทที่เราต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ประการสำคัญคือทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีหน้าที่ออกเอกสารสิทธิที่ดิน ต่อมาเมื่อเราเริ่มดำเนินคดีควบคู่กับการบูรณาการกับทุกภาคส่วน ทำให้บทบาทหน่วยงานต่างๆ เริ่มมีความชัดเจน เนื่องจากดีเอสไอเริ่มดำเนินคดี และมีผลสำเร็จ สถานการณ์ดีขึ้น แต่หากว่าเราเพิกเฉยจะมีการบุกรุกไปเรื่อยๆ


ดีเอสไอเป็นหน่วยปฏิบัติและต้องบูรณาการไปพร้อมกับการบังคับใช้กฎหมาย ต้องโปร่งใส รวดเร็ว ตรวจสอบได้ โดยหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบต้องเดินไปพร้อมกับเรา เป้าหมายไม่ใช่จับเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ใช่ดำเนินคดีกับนายทุน หรือประชาชนที่เข้าไปบุกรุก เป้าหมายหลักคือเอาพื้นที่ป่ากลับคืนมาเป็นของแผ่นดิน เพราะฉะนั้น ผลงานไม่ใช่สถิติคดีที่ฟ้องแล้วศาลมีคำพิพากษา ผลสำเร็จคือติดตามผลของคำพิพากษาว่าที่ดิน ป่าไม้ได้คืนกลับมาเป็นของรัฐหรือไม่ หลายคดีเราบอกว่าสำเร็จ แต่ยังไม่ได้ผืนป่ากลับมา เพราะฉะนั้นจุดมุ่งหมายสูงสุดต้องเข้าใจตรงกัน