xs
xsm
sm
md
lg

โต้ดรามา! คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ม.อ. ยันครอบครัว “น้องวีน” จนจริง เผยส่งอาจารย์เข้าตรวจสอบแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) โต้ข่าวดรามา “น้องวีน” จนทิพย์ เผยส่งอาจารย์เข้าไปตรวจสอบแล้วพบทางบ้านจนจริง ชี้การเปิดรับบริจาคไม่น่าจะเป็นประเด็นที่จะไม่รับเข้าศึกษาต่อแต่อย่างใด

วันนี้ (25 ม.ค.) ที่ห้องประชุมคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้มีการจัดพิธีบันทึกข้อตกลงโครงการพัฒนาระบบอัจฉริยะสำหรับแลกเปลี่ยนและประยุกต์ใช้ข้อมูลทางด้านสุขภาพ เพื่อยกระดับบริการทางสาธารณสุข สำหรับสถานพยาบาลขนาดต่างๆ ใน จ.สงขลา หรือ Hospital Information Exchange : HIE

โดยเป็นความร่วมมือระหว่างคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา และองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ซึ่งการจัดทำระบบในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนทุนการดำเนินงานจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

สำหรับพิธีลงนามในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธาน รศ.นพ.เรืองศักดิ์ ลีธนาภรณ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และ รศ.ดร.วศิน สุวรรณรัตน์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่


นอกจากนั้น ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีลงนามในครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกับทาง รศ.นพ.เรืองศักดิ์ ลีธนาภรณ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เกี่ยวกับประเด็นของ “น้องวีน” หรือนายกันตภณ เต่าจันทร์ อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนปัญญาวุธ จ.พัทลุง ที่สอบผ่านการทดสอบรอบพิเศษเข้าศึกษาต่อที่คณะแพทยศาสตร์ แต่ปรากฏเป็นกระแสดรามาในสังคมเกี่ยวกับเรื่องการเปิดรับบริจาคหาทุนเรียน และหลายคนมองว่าครอบครัวนี้จะจนทิพย์หรือไม่ รวมทั้งกระแสข่าวว่าทางมหาวิทยาลัย หรือคณะอาจจะไม่รับเข้าศึกษาต่อนั้น

รศ.นพ.เรืองศักดิ์ ลีธนาภรณ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยว่า ต้องแยกเป็นประเด็นๆ ไป โดยน้องวีน สอบได้จริง ซึ่งมาจากความรู้ความสามารถของน้อง และสกิลการเป็นหมอมี และผ่านการทดสอบมาตามขั้นตอน ไม่ได้ลัดขั้นตอนใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งถือว่าเป็นผู้มีความสามารถที่จะเข้ามาเป็นนักเรียนแพทย์ได้

ส่วนประเด็นเรื่องจนจริงหรือไม่นั้น ต้องบอกว่าจนจริง ไม่ได้แค่อ่านหรือฟังคำบอกเล่าของใครมา แต่ทางคณะแพทยศาสตร์ได้ส่งทีมอาจารย์ลงพื้นที่ไปพบกับเด็ก และครอบครัว รวมทั้งสอบถามจากญาติ คนใกล้ชิด และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่ ซึ่งมีข้อมูลหลักฐานยืนยันได้ว่าครอบคัวของน้องวีน จนจริงๆ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และหากต้องมาเรียนแพทย์ก็คงจะไม่มีกำลังทรัพย์ที่เพียงพอ ซึ่งทั้งหมดเรื่องความจนยืนยันได้ว่าเป็นข้อมูลจริง


คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวอีกว่า ในส่วนเรื่องการเปิดรับบริจาคนั้นไม่น่าจะเป็นประเด็นที่จะไม่รับเข้าศึกษาต่อแต่อย่างใด ซึ่งน้องวีนและครอบครัว เมื่อรู้ว่าสอบได้ก็ดีใจมาก และเชื่อว่าเมื่อรู้ว่าสอบติด และต้องเรียนแพทย์ จึงอาจจะมีความกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย และอาจจะไม่มีเงินไปเรียน จึงพยายามขวนขวายหาหนทาง ซึ่งสิ่งที่ทำไม่ได้เป็นการโกหกหลอกลวง และสิ่งที่น้องวีนและครอบครัวพูดก็เป็นความจริง

ขณะที่ในเรื่องเงินทุนการศึกษานั้น ทางคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีบุคลากร และองค์กรภายนอกที่คอยสนับสนุนทุนการศึกษาให้นักศึกษาแพทย์ตั้งแต่ปี 1 ถึงปี 6 อีกทั้งยังมีทุนการศึกษาจากมูลนิธิโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อีกส่วนหนึ่งที่จะมอบให้นักศึกษาที่เรียนดี ประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ด้วย ซึ่งกรณีของน้องวีน หรือนักศึกษาคนอื่นๆ ที่มีปัญหาเรื่องค่าเล่าเรียนนั้น ทางคณะแพทยศาสตร์มีกระบวนการที่จะเข้าไปช่วยเหลือนักศึกษาเหล่านี้อยู่แล้ว

คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า จากข้อมูลล่าสุดที่ได้ส่งทีมอาจารย์เข้าพบน้องวีน และครอบครัวที่บ้านพักนั้น คาดว่าน้องวีน น่าจะมาเข้าศึกษาต่อที่คณะแพทย์ ซึ่งน้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเรียนมาตั้งแต่ต้น และคาดว่าน้องวีน คงจะไม่ล้มเลิกความตั้งใจนี้

สำหรับการยืนยันสิทธิเข้าศึกษาต่อที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จะมีขึ้นในวันที่ 7-8 ก.พ.นี้ และจะมีการพิจารณาพร้อมกับประกาศผลผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในวันที่ 11 ก.พ.นี้






กำลังโหลดความคิดเห็น