ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เฮ! กองเรือเบ็ดทูน่าไต้หวันกลับมาแล้ว หลังหยุดเข้าภูเก็ตมานานกว่า 7 ปี เชื่อแนวโน้มดี สานฝันให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางการค้าและส่งออกปลาทูน่าในอาเซียนต่อไป ทำเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ต สร้างรายได้มหาศาลอย่างแน่นอน
วันนี้ (24 ม.ค.) ที่บท่าเทียบเรือน้ำลึก จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่จากสำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบเรือประมงทูน่า จากไต้หวันซึ่งขออนุญาตเทียบท่าขึ้นปลาทูน่า ที่จังหวัดภูเก็ต โดยเรือลำดังกล่าวสามารถจับปลาทูน่าชนิดต่างๆ ได้กว่า 50 ตัน และนับว่าเป็นกองเรือทูน่าชุดแรกที่กลับเข้ามาเทียบท่าที่จังหวัดภูเก็ต หลังหายไปนานกว่า 7 ปี
นายสิทธิพล เมืองสง ประมงจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การกลับมาของกองเรือทูน่าจากไต้หวันส่งผลดีต่อจังหวัดภูเก็ตเป็นอย่างมาก เดิมจังหวัดภูเก็ตนับว่าเป็นศูนย์กลางของกองเรือทูน่า โดยเมื่อปี 2556 จังหวัดภูเก็ตมีเรือเบ็ดราวทูน่าย้ายฐานมาจากรัฐปีนัง มาขึ้นที่จังหวัดภูเก็ตเกือบทั้งหมด เนื่องจากใกล้กับแหล่งจับปลา มีท่าเทียบเรือ มีสนามบินที่สามารถส่งออกปลาไปญี่ปุ่นได้โดยตรง มีโรงงาน มีสถานที่พักผ่อน และสถานบันเทิงของลูกเรือประมง โดยมีกองเรือประมงทูน่านำปลามาขึ้นที่จังหวัดภูเก็ตประมาณ 11,000 ตัน ทำให้มีรายได้สะพัด 1,100 ล้านบาท
แต่ในปี 2558 ประเทศไทยได้รับใบเหลืองจากสหภาพยุโรป ที่ระบุว่าประเทศไทยทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ทำให้ประเทศไทยต้องดำเนินการปรับปรุงกฎหมาย และออกพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ส่งผลให้เรือประมงทูน่าเข้ามาเทียบท่าลดลง ปริมาณขนถ่ายปลาทูน่าเหลือเพียง 158 ตัน เงินหมุนเวียน 15 ล้านบาทเท่านั้น
สำหรับการกลับมาของกองเรือทูน่าในครั้งนี้ เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อจังหวัดภูเก็ต และจะทำให้ภูเก็ตก้าวขึ้นสู่การเป็นฮับของทูน่า หรือศูนย์กลางการค้าขายและส่งออกปลาทูน่าในอาเซียนต่อไป ตามแผนพัฒนาของจังหวัดภูเก็ตได้ ซึ่งปีนี้มีเรือทูน่าเข้ามาขึ้นปลาแล้ว 4 ลำ และมีแนวโน้มว่าเรือทูน่าจะเข้ามาเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน เพราะจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีความพร้อม ทั้งเรื่องของการขนส่ง มีท่าเทียบเรือประมงที่อนุญาตให้เรือประมงต่างชาตินำสัตว์น้ำขึ้นท่าเรือได้เลย มีสนามบินนานาชาติบินตรงไปประเทศที่มีการบริโภคทูย่ารายใหญ่ เช่น ญี่ปุ่น อเมริกา ซึ่งนิยมใช้ปลาสดในการปรุงอาหาร เพราะฉะนั้นปลาที่ส่งออกไปจะต้องเป็นปลาที่สด มีคุณภาพ
นอกจากนั้น จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดพังงา ยังมีโรงงานแปรรูปทูน่ามากถึง 8 โรงงาน สามารถรองรับปลาทูน่าได้ถึง 300 ตัน จังหวัดภูเก็ตยังมีอู่เรือ คานเรือรองรับเรือทูน่าที่ต้องการซ่อมบำรุง ที่สำคัญ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตไม่มีผู้มีอิทธิพลที่จะบีบบังคับเรียกค่าคุ้มครองจากเรือทูน่า สิ่งเหล่านี้จะเป็นทางเลือกที่สำคัญที่ทำให้เรือประมงทูน่ากลับมาขึ้นปลาที่จังหวัดภูเก็ต เชื่อว่าในปีนี้จะมีเรือกลับมาจำนวนมาก ซึ่งจะสร้างงานและสร้างรายได้ให้จังหวัดภูเก็ตมากขึ้น แม้จะยังไม่ดีเท่าปี 2556 แต่เชื่อว่าจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
นายสิทธิพล กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันการเข้ามาของกองเรือทูน่ายังมีอุปสรรคอยู่บ้าง เนื่องจากขณะนี้เรือไม่สามารถเข้าไปจอดที่ท่าเทียบเรือขององค์การสะพานปลาได้ เนื่องจากร่องน้ำตื้น ทำให้ต้องมาขึ้นปลาที่ท่าเทียบเรือน้ำลึกแทน ซึ่งการมาเทียบท่าที่ท่าเรือน้ำลึกมีปัญหาเรื่องของความไม่พร้อมของสถานที่ เพราะเป็นที่โล่ง ซึ่งเรื่องนี้จะนำเสนอปัญหาไปทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไป เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้ามาขึ้นปลาทูน่าของกองเรือเบ็ดราวทูน่า เชื่อว่าถ้าสามารถแก้ปัญหาสิ่งเหล่านี้ได้ การจะก้าวขึ้นเป็นฮับด้านทูน่าของจังหวัดภูเก็ตมีความเป็นไปได้อย่างแน่นอน