พัทลุง - ชายพัทลุงคลุ้มคลั่งก่อเหตุเผาบ้านในพื้นที่ ต.แหลมโตนด อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ก่อนใช้มีดปลายแหลมจี้ป้าเป็นตัวประกันนาน 6 ชั่วโมง ต้องตามพี่ชายจากสตูลมาช่วยกล่อมจึงยอมปล่อยตัว อ้างทำไปเพราะถูกญาติโกงที่ดิน
วันนี้ (17 ม.ค.) พ.ต.อ.สการียา ยูโซ๊ะ ผกก.สภ.ควนขนุน พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง นายตำรวจที่เกี่ยวข้องกว่า 50 นาย ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุวางเพลิงเผาบ้านชาวบ้านที่อยู่ติดกันกับบ้านญาติของตนเอง และเมื่อมีกลุ่มชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ช่วยกันดับเพลิงไว้ได้
จากนั้นชายคลุ้มคลั่งคนดังกล่าวได้เดินมาบ้านของญาติอีกคน และใช้มีดปลายแหลมจี้บังคับญาติซึ่งเป็นป้าตัวเองเป็นตัวประกัน ขณะที่ป้าของตนเองนอนดูโทรทัศน์อยู่ชั้นล่างของบ้าน 2 ชั้นหลังดังกล่าว จากนั้นได้บังคับป้าพาขึ้นไปบนชั้นที่ 2 และปิดประตูไม่ให้เข้าไปชั้นบน หากมีใครเข้าไปจะใช้มีดปาดคอป้าตัวเองให้ตาย โดยเหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 186 หมู่ที่ 2 ต.แหลมโตนด อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้นสภาพใหม่
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ชาวบ้านได้ร่วมกันดับเพลิงจนสงบ และทราบว่าผู้ก่อเหตุรายนี้ คือ นายอรรถชัย แสงศรี อายุ 32 ปี สำหรับเหตุผลที่ นายอรรถชัย ได้ก่อเหตุในครั้งนี้นั้น เจ้าตัวบอกว่าญาติได้นำที่ดินของตนมาแบ่งปันกัน ส่วนป้าของนายสมศักดิ์ ที่ถูกจี้เป็นตัวประกันทราบชื่อคือ นางจำนง คงแก้ว อายุ 78 ปี
โดยต่อมาทางญาติ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้พยายามตะโกนพูดกับ นายอรรถชัย ให้ปล่อยตัวประกันแล้วมาพูดจากันแต่ไม่เป็นผลนานกว่า 6 ชั่วโมง ก่อนทางญาติได้โทรศัพท์ติดต่อ นายเกรียงศักดิ์ แสงศรี อายุ 33 ปี ผู้เป็นพี่ชาย ซึ่งพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.สตูล ให้มาช่วยเกลี้ยกล่อมน้องชาย
จนกระทั่งในเวลาประมาณ 18.30 น. นายเกรียงศักดิ์ กได้เดินทางจาก จ.สตูล มาที่เกิดเหตุ และพูดจากเกลี้ยกล่อมให้น้องชายปล่อยตัวประกัน หลังจากใช้เวลาในการเกลี้ยกล่อมประมาณ 30 นาที นายอรรถชัย ได้เปิดประตูและปล่อยตัว นางจำนง ผู้เป็นป้า ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว นางจำนง ส่งโรงพยาบาลควนขนุน เนื่องจากร่างกายอ่อนเพลีย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นายอรรถชัย ผู้ก่อเหตุลงมาจากห้อง โดย นายอรรถชัย ได้กอดพี่ชายพร้อมร้องบอกว่า ผมขอโทษ ที่ทำลงไปเพราะป้าและญาติได้ฮุบมรดกที่ดินพวกผมไปหมด ก่อนเจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลควนขนุน เพื่อตรวจสภาพร่างกายในเบื้องต้น รวมทั้งการตรวจหาสารเสพติดในตัวของ นายอรรถชัย
หลังจากนั้น จะได้นำตัวไปดำเนินการตามความผิดฐานวางเพลิง บุกรุก และกักขังหน่วงเหนี่ยวต่อไป รวมทั้งจะได้เร่งสืบสวนสอบสวนเบื้องหลังการก่อเหตุของ นายอรรถชัย ในครั้งนี้ว่ามีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และเจ้าตัวถูกญาติโกงที่ดินจริงหรือไม่
