พัทลุง - ผู้ปกครองนักเรียนเข้าให้ปากคำที่สำนักงานอัยการจังหวัดพัทลุงเพิ่ม ด้านผู้การพัทลุงสั่งเร่งไล่ล่าครูอมนกเขาเด็กมาลงโทษโดยด่วน แต่ล่าสุดยังไม่พบตัว คาดผู้ต้องหายังกบดานในพื้นที่
ความคืบหน้ากรณีเด็กนักเรียนรุ่นพี่ชั้น ม.3 โรงเรียนนิคมควนขนุนวิทยา หรือนิคมลานข่อย ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง เข้าร้องขอความช่วยเหลือ หลังครูชายวัย 33 ปี ชอบอมนกเขาเพื่อรีดกินน้ำเกือบ 20 ราย ซึ่งมีตั้งแต่เด็กนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 1-3 เข้าร้องต่อผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดพัทลุง แล้วประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าช่วยเหลือ และเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลในคดี หลังจากที่ผู้ปกครองระบุว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ขณะที่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (16 ม.ค.) ศาลจังหวัดพัทลุง ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาคนดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คือ นายภราดร บุญโยดม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/1 หมู่ 7 ต.เกาะเปียะ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ตามหมายจับของศาลจังหวัดพัทลุง ที่ จ.102/2566 ลงวันที่ 16 มกราคม 2566 ตามความผิดฐานกระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม พาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเพื่ออนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น
อย่างไรก็ตาม ในช่วงสายของวันนี้ (17 ม.ค.) ทางพนักงานสอบสวน สหวิชาชีพ ผู้ปกครอง เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพัทลุง และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพัทลุง ได้นำนักเรียนผู้เสียหาย จำนวน 4 ราย มาสอบปากคำที่สำนักงานอัยการจังหวัดพัทลุง โดยมีอัยการจังหวัดพัทลุงเข้าร่วมด้วย พร้อมผู้ปกครอง ส่วนผู้เสียหายอีก 1 ราย ซึ่งในขณะนี้กำลังพักอาศัยอยู่ในบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพัทลุง จะมีการนำมาสอบปากคำที่สำนักงานอัยการจังหวัดพัทลุงในวันต่อไป
พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง กล่าวว่า หลังจากที่ศาลจังหวัดพัทลุง ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหารายนี้แล้ว ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเร่งออกติดตามจับกุมผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินการตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด ในส่วนของพนักงานสอบสวนนั้นต้องมีการคัดค้านการประกันตัวอยู่แล้ว เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาจะไปข่มขู่ผู้เสียหายหรือพยาน และหลังจากนี้คงมีการออกหมายจับอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากยังมีผู้เสียหายที่ถูกกระทำอีกหลายคน จึงไม่มีประโยชน์อันใดที่ผู้ต้องหารายนี้จะหลบหนีการจับกุมของตำรวจ หากตำรวจเจอตัวจะถูกจับกุมโดยทันที การเข้ามามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมเป็นสิ่งที่ควรจะกระทำในขณะนี้
ขณะที่ก่อนหน้านี้ทางญาติๆ ในพื้นที่ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ได้ติดต่อพนักงานสอบสวน และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เพื่อขอนำผู้ต้องหาเข้ามามอบตัว แต่ต่อมาผู้ต้องหาได้ปฏิเสธในการขอเข้ามอบตัว และปิดโทรศัพท์หนี จนญาติๆ ไม่สามารถติดต่อได้ ล่าสุดชุดสืบสวน สภ.ป่าพะยอม พร้อมชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ได้ติดตามค้นหาตามสถานที่พักต่างๆ ในพื้นที่ อ.ป่าพะยอม เพราะเชื่อว่าผู้ต้องหายังคงกบดานในพื้นที่ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบตัว
