นครศรีธรรมราช - แพทย์เผยคุณปู่ตายแล้วฟื้นยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงทางการแพทย์ หลังญาติขอรับผู้ป่วยกลับบ้านจากภาวะสิ้นหวัง ไม่อนุญาตให้คนภายนอกเข้าพบคุณปู่ หวั่นอาจติดเชื้อตามมา
กรณีเหตุการณ์ตายแล้วฟื้นที่เกิดขึ้นกับ คุณปู่ประดิษฐ์ บุญทรง อายุ 86 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 หมู่ 6 ต.ควนกรด อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ช่วงสายที่ผ่านมา ที่บ้านของคุณปู่กลางสวนยางพารา ปรากฏว่าญาติไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกครอบครัว รวมทั้งผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพ เนื่องจากแพทย์ รพ.ทุ่งสง ได้เตือนว่าไม่ควรที่จะให้บุคคลภายนอกเข้าไปในพื้นที่ เนื่องจากเกรงการติดเชื้อที่อาจทำให้คุณปู่ประดิษฐ์ อาการทรุดลงอีก ทำให้ทุกคนระวังอย่างมาก และปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูลอื่นๆ อีกแล้ว เนื่องจากไม่สบายใจ และเกรงผลกระทบอื่นๆ ที่จะตามมาภายหลัง
ก่อนหน้านี้หนึ่งในหลานสาวของคุณปู่ได้ถ่ายภาพ และโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว เผยถึงสภาพอาการของคุณปู่ที่ รพ.มหาราช อยู่ในสภาพที่ต้องใส่เครื่องช่วยชีวิต ไม่ตอบสนอง พร้อมทั้งภาวนา ว่า ขอให้ปาฏิหาริย์มีจริง และ 3-4 วันให้หลัง เฟซบุ๊กของหลานคนเดิมได้โพสต์อย่างดีใจสุดขีด พร้อมทั้งภาพของคุณปู่ โดยบอกว่าตายแล้วฟื้น พร้อมระบุว่าปาฏิหาริย์มีจริง เพื่อนในเฟซบุ๊กต่างเข้ามาแสดงความยินดีจำนวนมาก
นายสุเทพ รัตนคช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.ควนกรด อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้เข้ามาติดตามข้อมูลในเรื่องนี้เช่นกัน เปิดเผยว่า มาถึงขณะนี้เหลือเชื่อ อาการของคุณปู่ปกติ ทุกอย่างกลับมาทำงานปกติ วานนี้หลังจากนำตัวออกมาจาก รพ.มหาราช หยุดทำงานหมดแล้ว ไม่สามารถให้น้ำเกลือทางเส้นเลือดได้ ตอนนี้กลับมาพูดจารู้เรื่อง จำทุกคนได้ รับประทานอาหารอ่อนได้ แต่ยังอ่อนแรงอยู่เท่านั้น ยังเชื่อว่าเป็นเรื่องที่เป็นปาฏิหาริย์ จริงๆ แล้วคุณปู่ตัวแข็งหมดแล้ว นำคุณปู่ออกจากโรงพยาบาลมาทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมหมดแล้ว เพื่อจัดการงานบำเพ็ญกุศลตามประเพณีรดน้ำศพ แต่พอเข้าวัดคุณปู่กลับฟื้น ด้วยความดีใจลูกหลานถามว่ากลับบ้านไหม คุณปู่บอกว่ากลับ หลังจากนั้นได้พาไปตรวจร่างกายที่ รพ.ทุ่งสง ยิ่งเหลือเชื่อไปอีก ทุกระบบในร่างกายกลับมาปกติ ส่วนงานศพนั้นได้ยกเลิกไปอย่างดีใจ ท่ามกลางรอยยิ้มของทุกคน
ขณะที่ นพ.สมพร สหจารุพัฒน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวผ่านทางเจ้าหน้าที่สุขศึกษา รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ว่า โดยข้อเท็จจริงนั้นยังไม่สามารถบ่งชี้ทางการแพทย์ได้ว่าผู้ป่วยเสียชีวิต เนื่องจากการขอนำตัวผู้ป่วยกลับไปนั้น ผู้ป่วยยังไม่เข้าข่ายการเสียชีวิตตามลักษณะการบ่งชี้ทางการแพทย์ โดยบุคลากรทางการแพทย์ได้ดำเนินการไปตามความประสงค์ของญาติที่จะขอนำตัวกลับบ้าน ซึ่งขณะที่ออกไปนั้นยังไม่ได้เสียชีวิต เข้าใจว่าผู้ป่วยเกิดภาวะคุ้นเคยกับเครื่องช่วยหายใจ หลังจากถอดออกไปร่างกายอาจปรับตัว เมื่อไม่มีเครื่องกลไกการหายใจอาจหยุดไประยะหนึ่ง เมื่อถึงจุดหนึ่งสมองจะสั่งการให้ระบบจะกลับมาทำงานอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าทางวิชาการทางการแพทย์นั้น การตายแล้วฟื้นไม่เคยมีปรากฏ ส่วนกรณีของคุณปู่นั้น หากมีอาการดีขึ้นขอแสดงความยินดี ลูกหลาน ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการติดเชื้อ เนื่องจากร่างกายของคุณปู่ยังอ่อนแอมาก