ชาวน้ำผุดร่วมใจขุดลอกฝาย หลังเจอฝนตกหนักเกิดตะกอนทรายลงมาทับถม

ตรัง - ชาวน้ำผุดระดมกำลังช่วยกันขุดลอกฝาย หลังเกิดตะกอนทรายลงมาทับถม ส่งผลต่อระบบประปาภูเขา ทำให้ชาวบ้านกว่า 1,000 ครัวเรือน ไม่มีน้ำที่สะอาดใช้ และอาจกระทบไปถึงหน้าแล้งที่กำลังจะมาถึง

ที่โครงการฝายบ้านด่าน 2 หมู่ 5 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2549 ชาวบ้านในพื้นที่กว่า 20 คน ร่วมแรงร่วมใจแข็งขัน นำจอบ เสียมมาช่วยกันขุดลอกตะกอนทราย โดยประสานงานกับโครงการชลประทานตรัง นำรถแบ็กโฮ จำนวน 1 คัน เข้ามาขุดตะกอนทราย เพื่อให้ชาวบ้านได้มีน้ำประปาหมู่บ้านใช้กัน เนื่องจากฝนตกหนักเมื่อช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีปริมาณน้ำมากจนพัดเอาทรายมารวมทับถมกันสูงถึง 3 เมตร ส่งผลให้ตะกอนทรายดังกล่าวไหลเข้าไปในน้ำประปาหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านมีน้ำใช้กันไม่เพียงพอ ดังนั้น ผู้นำชุมชนจึงต้องระดมกำลังกันมาขุดลอกตะกอนทรายดังกล่าวในทุกๆ ปี

นายอิศรา จันทักษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.น้ำผุด บอกว่า เมื่อเกิดน้ำป่าไหลหลากในช่วงปลายปี จะทำให้เกิดตะกอนดินทรายพัดพามาติดอยู่ที่หน้าฝาย ส่งผลให้อ่างเก็บน้ำตื้นเขิน ไม่สามารถส่งน้ำไปใช้ยังหมู่บ้านได้ โดยเฉพาะพื้นที่ในหมู่ 5, 6, 9 ต.น้ำผุด และหมู่ 3 ต.ละมอ อ.นาโยง บางส่วน รวมเกือบ 1,000 ครัวเรือน ที่ยังคงได้รับผลกระทบอยู่ ชาวบ้านจึงช่วยกันนำจอบ เสียมมาช่วยกันขุดลอกตะกอนทรายออกมาเพื่อเปิดประตูระบายน้ำออกทั้งหมด และจัดเก็บน้ำเพื่อเตรียมรับฤดูแล้งที่กำลังมาถึงด้วย ซึ่งอยากได้ฝายถาวรเพื่อแก้ปัญหาทั้งในช่วงหน้าฝน และหน้าแล้ง แต่อาจติดอยู่ตรงที่ว่าตรงนี้เป็นเขตพื้นที่อุทยานฯ ไม่สามารถทำได้

ด้านนายจตุรงค์ เครือเตียว กำนันตำบลน้ำผุด บอกว่า กิจกรรมลอกฝายเนื่องจากน้ำหลากนั้น เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกปี ซึ่งต้องรอให้น้ำแห้งก่อนจึงจะสามารถเอาทรายออกได้ เพื่อให้น้ำสะอาด ซึ่งเป็นปัญหาของระบบประปาภูเขา เพราะใช้ระบบน้ำไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ แต่จะทำให้มีทรายไหลจากภูเขามาปิดตัวฝาย ส่งผลให้น้ำสกปรก แต่เนื่องจากชาวบ้านทุกคนต้องกินต้องใช้ในทุกๆ วัน จึงระดมกันมาช่วยขุดลอกตะกอน เพราะหากมัวรองบประมาณจะช้า และจะทำให้ในช่วงหน้าแล้งต้องเจอกับปัญหาน้ำไม่พอใช้ด้วย