xs
xsm
sm
md
lg

คืบหน้า! 2 มือปืนยิงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหน้าผับบ้านด่านนอกดอดมอบตัว อ้างอีกฝ่ายชักปืนก่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คืบหน้ายิงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่ผับด่านนอกชายแดนไทย-มาเลเซีย บาดเจ็บ พบผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คนเป็นเจ้าของร้าน ได้เข้ามอบตัวต่อตำรวจแล้ว อ้างอีกฝ่ายเมาขาดสติร้านปิดขอนั่งต่อเข้าไปเชิญออกก่อนทะเลาะกัน และถูกอีกฝ่ายชักปืนจะยิงก่อนจึงยิงสวนไป

วันนี้ (26 ธ.ค.) ความคืบหน้าเหตุการณ์ยิงกันบริเวณลานจอดรถข้างร้านลิเบอร์ตี้คลับ ซึ่งเป็นสถานบันเทิงในพื้นที่บ้านด่านนอก เขตเทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ทำให้ นายวีรยุทธ เรืองนุ่น อายุ 35 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ต.นาบอน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งไปเที่ยวที่ผับแห่งนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม.4 นัด เข้าบริเวณลำคอ 2 นัด หลัง 1 นัด และหน้าท้อง 1 นัด โดยภาพจากล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ขณะที่ นายวีรยุทธ วิ่งหนีตาย และถูกชาย 2 คนวิ่งถือปืนไล่ตามหลังไปติดๆ รวมทั้งคนอื่นทั้งชายและหญิงที่วิ่งตามหลังไปด้วย และเป็นหลักฐานสำคัญที่ตำรวจใช้ติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ


ล่าสุด พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.สส.ภ.9 พ.ต.อ.พิชัย กิระวานิชรอง ผบก.จว.สงขลา พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร รอง ผบก.ก.จว.สงขลา พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รอง ผบก.บก.สส.ภ.9 พ.ต.อ.ธนวัต เส้งสุย ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.บรรเทิง เหล่าเจริญ ผกก.สภ.สะเดา และ พ.ต.อ.บรรพต เดชมา ผกก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.9 ได้ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าคดีนี้

หลังจากที่เมื่อวานนี้นี้ทางตำรวจชุดสืบสวนสภ.สะเดา ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา และชุดสืบสวนภาค 9 ร่วมกันลงพื้นที่สอบสวนพยานแวดล้อม และตรวจสอบกล้องวงจรปิดหลังจากที่ยิงกัน ซึ่งเป็นภาพที่ นายวีรยุทธ วิ่งหนีตาย และถูกชาย 2 คนถือปืนวิ่งตามหลังมาติดๆ โดยทราบว่าผู้ก่อเหตุที่วิ่งถือปืนไป 2 คน คือ นายชัยรัช จุลศักดิ์ หรือหู อายุ 39 ปี เป็นชาว ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา และนายกรณรากฤศ สุริยะโซดิ หรื อเอิร์ช อายุ 33 ปี โดยทั้ง 2 คนเป็นเจ้าของผับแห่งนี้ด้วย

จึงทำการรวบรวมพยานฐานหลักฐานและขออนุมัติศาลจังหวัดนาทวี ออกหมายจับ และต่อมาศาลจังหวัดนาทวี ได้อนุมัติหมายจับทั้ง 2 คนฐาน "ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควร และร่วมกันตั้งสถานบริการ โดยไม่ได้รับอนุญาต"


ต่อมาทั้ง นายชัยรัช และนายกรณรากฤศ ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมอบตัวขอสู้คดี และแสดงความบริสุทธิ์ใจในการก่อเหตุในคดีนี้ โดย นายชัยรัช ได้นำอาวุธปืน 9 มม.ที่ใช้ยิงซึ่งอ้างว่าใช้ยิงตอบโต้มามอบให้ตำรวจด้วย ส่วน นายกรณรากฤศ นำอาวุธปืน 9 มม.ซึ่งอ้างว่าใช้ในการก่อเหตุแต่ยังไม่ได้ยิงมามอบให้ตำรวจเช่นกัน

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังยึดอาวุธปืนพกสั้นแบบกึ่งอัตโนมัติขนาด .45 และกระสุนปืนขนาด .45 จำนวน 2 นัด ซึ่งเป็นปืนของ นายวีรยุทธ คนที่ถูกยิงซึ่งทำตกไว้ในที่เกิดเหตุ


พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เปิดเผยว่า มูลเหตุของคดีนี้จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นเจ้าของผับแห่งนี้ทราบว่า มาจากคนเจ็บพร้อมเพื่อนอีก 1 คน ได้มานั่งดื่มกินที่ร้านจนกระทั่งร้านปิดบริการ แต่ นายวีรยุทธ ต้องการนั่งต่อจึงได้เชิญให้ออกจากร้าน ทำให้ นายวีรยุทธ ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาอย่างหนักจนขาดสติไม่พอใจ จนเกิดการทะเลาะกันขึ้น และอ้างว่าอีกฝ่ายชักอาวุธปืนออกมาจะยิงก่อนจึงต้องยิงตอบโต้ไป โดยผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าของร้านทั้ง 2 คนรับสารภาพว่าร่วมกันก่อเหตุยิงในคดีนี้จริง

“ส่วน นายวีรยุทธ คนเจ็บทราบว่าขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว ส่วนผับแห่งนี้ทราบว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการขอใบอนุญาตเปิดสถานบริการ จึงได้แจ้งข้อหาร่วมกันตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย” ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา กล่าว

อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง
๐ เดือด! นักเที่ยวราตรีชักปืนวิ่งไล่ยิงหน้าผับด่านนอก จ.สงขลา เจ็บสาหัส 1 ราย


กำลังโหลดความคิดเห็น