ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เรือบรรทุกน้ำมันที่ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นบริเวณชายหาดแหลมสมิหลา ยังไม่สามารถกู้เรือลากจูงออกจากฝั่งได้ เนื่องจากยังมีคลื่นลมแรงเป็นอุปสรรค ขณะที่ตัวเรือถูกคลื่นซัดเข้ามาอยู่ติดริมชายหาด แต่ยังทรงตัวได้ดี
ความคืบหน้าเหตุการณ์ “เรือภัทรพัณณ์” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ มีขนาด 2,037 ตันกรอส ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นบริเวณชายหาดปลายแหลมสนอ่อน แหลมสมิหลา อ.เมืองสงขลา ซึ่งอยู่ใกล้กับปากร่องน้ำทะเลสาบสงขลาเมื่อวานนี้ แต่ภายในเรือไม่มีน้ำมัน สาเหตุมาจากสมอเรือขาด
ล่าสุด วันนี้ (19 ธ.ค.) ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปติดตามสภาพเรือลำนี้ พบว่า ถูกคลื่นซึ่งมีกำลังแรงซัดเข้ามาอย่างต่อเนื่องจนตัวเรือมาติดอยู่ริมหาด แต่ตัวเรือยังอยู่ในสภาพดี ตั้งตรง ไม่เอียง และยังมีลูกเรือประจำอยู่บนเรือตลอดเวลา เพื่อรอเวลากู้เรือ รวมทั้งเริ่มมีประชาชนที่ทราบข่าวเรือลำนี้เกยตื้น มาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก เพราะเป็นเหตุการณ์ที่หาดูยาก และเป็นเรือลำใหญ่ที่มาอยู่ติดชายฝั่ง
สำหรับแผนการกู้เรือบรรทุกน้ำมันลำนี้ โดยการลากออกจากฝั่งขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากคลื่นลมในทะเลอ่าวไทย บริเวณชายฝั่งสงขลายังคงมีกำลังแรง และเป็นอุปสรรคใหญ่ในการกู้เรือ โดยทางบริษัทเจ้าของเรือได้เตรียมแผนการกู้เรือเอาไว้เรียบร้อยแล้ว รอเพียงให้คลื่นลมสงบจึงจะเริ่มดำเนินการได้ ซึ่งน่าจะอีกหลายวัน