นครศรีรรมราช - “ไตรรงค์ สุวรรณคีรี” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เคลื่อนไหวทางการเมืองร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุหารือกับนายกฯ เร่งแก้ไขการทุจริตคอร์รัปชันในระบบราชการ เปรียบเปรยสุดแสบสร้างเขื่อนจริง 50 อีก 50 อยู่ในพุงหมา
วันนี้ (18 ธ.ค.) นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้จัดให้มีการประชุมสมาชิกพรรคในเขตตัวเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งคาดว่าจถูกจัดแบ่งเขตเลือกตั้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้งให้เป็นเขตเลือกตั้งที่ 1 ของนครศรีธรรมราช จากทั้งหมด 9 เขตเลือกตั้ง โดยมีผู้ที่เสนอตัวจะเลือกตั้งที่มาให้กำลังใจ ประกอบด้วย นายพงษ์สินธ์ เสนพงศ์ นายสุรเชษฐ์ มาศดิตถ์ พี่ชายของ คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ ที่ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ นายวิฑูร กรุณา ซึ่งคาดว่าเป็นผู้สมัครในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช
ส่วนในเขตเลือกตั้งที่ 1 ได้เริ่มกิจกรรมสรรหาตัวแทนประจำสาขาพรรคในการจัดทำขั้นตอนการประชุม และจัดทำไพรมารีโหวต สรรหาตัวผู้สมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตเลือกตั้งนี้ โดยคาดว่าผู้ที่จะเป็นว่าที่ผู้สมัครคือ นายพูน แก้วภราดัย บุตรชายของ นายวิทยา แก้วภราดัย ซึ่งได้ทำการเมืองในพื้นที่มาช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว ซึ่งขั้นตอนเป็นไปอย่างเรียบร้อย สำหรับการรวมสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติในเขตเลือกตั้งนี้มีสมาชิกจำนวนมากเข้าร่วมจนล้นห้องประชุมเก้าอี้ที่จัดเตรียมไว้ไม่เพียงพอ
ขณะที่ นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้กล่าวเปิดใจถึงการจัดตั้งพรรคขึ้นมาบนความร่วมมือของทุกฝ่าย เพื่อหวังให้ทุกฝ่ายมารวมกันเพื่อร่วมกันสร้างชาติ พร้อมกันนั้น ยังได้เปิดใจถึงเส้นทางการเมือง เหตุการณ์ในพรรคประชาธิปัตย์ และสาเหตุในการตัดสินใจลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อมาถึงจุดวิกฤตสำคัญของพรรคคือรองหัวหน้าพรรคที่ต้องคดีข่มขืน แต่กลับไม่มีความรับผิดชอบใดๆ จนถึงขณะนี้ และพร้อมที่จะเดินหน้าร่วมกับทุกฝ่ายในการร่วมกันบนฐานคิดคือปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และซื่อสัตย์ต่อประชาชน
แต่สีสันในงานนี้ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกคาดหมายว่าจะเป็นแกนนำคนสำคัญของพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ปรากฏตัวและปราศรัยให้สมาชิกพรรคฟังอย่างออกรส โดยได้หยิบยกงานวิชาการจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่เพิ่งตีพิมพ์มีการวิพากษ์ถึงแนวโน้มทางการเมืองของโลกที่กำลังเข้าสู่วิกฤตที่เรียกว่าประชาธิปไตยกำลังจะตายหรือการตายของประชาธิปไตยกำลังเกิดขึ้นจากความสิ้นศรัทธาในระบบนี้จากหลายปัญหา และปรากฏการณ์เช่นนี้กำลังเกิดขึ้นในหลายประเทศไม่เว้นแม้แต่ในอเมริกา
นายไตรรงค์ ยังระบุด้วยว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยที่น่าเป็นห่วงคือ การทุจริตที่เกิดขึ้นในทุกระดับ เช่น การสร้างเขื่อน เอาเข้าจริงงบประมาณอยู่ในเขื่อน 50 เปอร์เซ็นต์ อีก 50 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในพุงหมา ตนเองกับนายกรัฐมนตรีได้มีการพูดคุยหารือกันในเรื่องของการหยุดการทุจริตคอร์รัปชันที่จะต้องทำให้ได้ พร้อมทั้งระบุว่าในความเป็นรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย เมื่อรู้ว่ามีการทุจริต รู้ทั้งรู้แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ หากจะใช้ไม้แข็งกับรัฐมนตรีบางคนตัวใหญ่ๆ ทั้งนั้น มันก็จะพากันถอนวงล้มรัฐบาลอีกนี่คือจุดอ่อนของระบอบนี้