พัทลุง - นายอำเภอกงหรา เข้าเจรจาผู้รับเหมาถมดินกว่า 30 ราย หลังมีปัญหากับกลุ่มเกษตรกรฐานราก บ้านชะรัด ต.ชะรัด อ.กงหรา จ.พัทลุง หลังจากช่วยถมที่ดินแล้วแต่ไม่ได้เงิน อีกทั้งประธานกลุ่มได้ยืมเงินแต่ไม่ได้คืน
วันนี้ (16 ธ.ค.) ที่สำนักงานกลุ่มเกษตรกรฐานราก บ้านชะรัด เลขที่ 250 หมู่ที่ 5 ต.ชะรัด อ.กงหรา จ.พัทลุง นายสมควร ปล้องอ่อน นายอำเภอกงหรา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเดินทางเข้าไปร่วมเจรจาแก้ปัญหากรณีที่ผู้รับเหมาจำนวนมากได้รับความเดือนร้อนจากผู้ที่แอบอ้างว่าเป็นสมาชิกของกลุ่มเกษตรกรฐานราก ที่ดำเนินโครงการจัดตั้งกลุ่มช่วยเหลือเกษตรกร ที่ได้รับความเดือดร้อนจากหลายปัญหาในปัจจุบัน โดยมีสมาชิกอ้างว่า โครงการดังกล่าวทางกลุ่มได้ใช้งบประมาณช่วยเหลือกเกษตรกรฐานรากจาก ร.๙ โดยเปิดโอกาสให้สมาชิกกลุ่มเสนอโครงการเป็นอาชีพเลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงโคเนื้อ ปลูกพืชผักและผลิตปุ๋ยอินทรี ปัจจุบันมีสมาชิกกลุ่มอยู่ประมาณ 107 คน กระจายอยู่ทั่วจังหวัดพัทลุง
เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงสำนักงานเกษตรฐานราก ปรากฏว่าป้ายชื่อสำนักงานและป้ายนโยบายของกลุ่มที่มีการแอบอ้างสถาบันได้ปลดลงไปก่อนหน้านี้แล้ว และสำนักงานที่เป็นห้องแถว 3 ห้องก็ปิดประตูล็อกกุญแจ จะมีเพียงกรรมการและสมาชิก 2 คน อยู่เฝ้าสำนักงาน และชาวบ้านประมาณ 30 คน ที่เดินทางมาขอรับเงินจากเจ้าของที่ดินจ้างถมที่ในโครงการดังกล่าว และเมื่อไม่สามารถเรียกรับค่าจ้างถมดินจากใครได้ ชวนกันไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.กงหรา จ.พัทลุง
นายชญานนท์ รามศรี ผู้รับเหมาถมที่ให้สมาชิกในโครงการเกษตรกรฐานราก เผยว่า ได้รับการติดต่อจากเจ้าของที่ดินซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่ม รวมทั้งมีกรรมการกลุ่มรับรองว่าเป็นโครงการช่วยเหลือเกษตรกรของในหลวง ร.๙ ตนจึงได้ชักชวนเพื่อนที่มีรถบรรทุกดินมาช่วยกันถมที่ให้สมาชิก จำนวน 2 ราย ค่าจ้างจำนวน 8.7 แสนบาท แต่ไม่สามารถที่จะเรียกเก็บจากใครได้ เจ้าของที่อ้างว่างบประมาณโครงการอยู่ระหว่างรออนุมัติ เช่นเดียวกับผู้รับเหมารายอื่นอีกประมาณ 20 ราย ที่ยังไม่ได้รับเงินค่าจ้างจากโครงการดังกล่าว รวมค่าเสียหายประมาณ 5 ล้านบาท การที่ผู้รับเหมาเข้ามาช่วยถมที่ให้สมาชิกนั้นเพราะมีการแอบอ้างเป็นโครงการของสถาบัน มีกรรมการกลุ่มรับรอง และการตกแต่งภายในสำนักงานก็จงใจให้ประชาชนเกิดความเชื่อถือ
ส่วนทางด้าน น.ส.จันจิรา เกื้อชู เจ้าของผู้จัดการร้านจำหน่ายเครื่องตัดหญ้า ในตลาดบางแก้ว อ.บางแก้ว จ.พัทลุง ได้นำหลักฐานเป็นสลิปโอนเงิน และข้อความพูดคุยทางไลน์ มาเป็นหลักฐาน มาขอพบ ร.ต.อ.ณรงค์ ฮกปาน ร้อยเวร สภ.กงหรา เพื่อแจ้งความบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ในกรณีที่ประธานกลุ่มเกษตรกรฐานราก ยืมเงินสดจำนวน 3 แสนบาท โดยอ้างว่าจะจ่ายคืนให้ภายใน 5 วัน โดยที่มีแม่ของตนที่ทำงานอยู่ในสำนักงานดังกล่าวเป็นผู้ประสานให้และไม่ได้ทำหนังสือสัญญาแต่อย่างใด มีเพียงข้อความพูดคุยในไลน์และสลิปการโอนเงินไว้เป็นหลักฐาน แต่ไม่สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ เนื่องจากไม่ใช่เป็นเรื่องฉ้อโกง เป็นการยืมเงินเมื่อยืมแล้วไม่คืน ก็ไปหาทนายความฟ้องเองได้ โดยมีหลักฐานเป็นแชตในไลน์และสลิปโอนเงินเป็นหลักฐาน
นายสุชน เหล็มปาน ผู้รับเหมาถมที่ให้แก่สมาชิกโครงการดังกล่าว เผยว่า ถมดินให้ชาวบ้านที่อยู่ในโครงการดังกล่าว จำนวน 2 ราย ค่าใช้จ่ายประมาณ 4.8 แสนบาท เจ้าของที่ดินยังไม่สามารถเบิกเงินในโครงการให้ได้ เมื่อมีการสอบถามไปยังกรรมการกลุ่ม และนายอารัน จันทร์นุ่น ทราบว่าทำหน้าที่เป็นประธานกลุ่มเกษตรกรฐานรากบ้านชะรัด และยังได้ตามทวงเงินจากสมาชิกมาตลอดระยะเกือบ 6 เดือน ก็อ้างโน้นอ้างนี่ ล่าสุดนัดจ่ายเงินให้ในวันที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมา เมื่อยังไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้ จึงได้นัดเดินทางไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายสมควร ปล้องอ่อน นายอำเภอกงหรา กล่าวว่า ทางอำเภอได้รับเรื่องร้องเรียนมาจากชาวบ้านและกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ขอให้ตรวจสอบการดำเนินโครงการของกลุ่มดังกล่าว ก่อนหน้านี้ ลงพื้นที่ตรวจสอบสำนักงานดังกล่าว มีการถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน การตกแต่งสำนักงาน ปักธงสัญลักษณ์ในบริเวณสำนักงาน และริมถนนสายท่านช่วย-ทุ่งนาชี เป็นทางยาว สร้างความน่าเชื่อถือให้ชาวบ้านและสมาชิก
แต่ทางอำเภอได้แต่ตรวจสอบในเบื้องต้น เพื่อที่จะประสานไปยังหน่วยงานความมั่นคงได้ตรวจสอบอีกครั้ง จึงได้ข้อมูลว่าโครงการดังกล่าวไม่มีอยู่จริง เป็นการแอบอ้างเพื่อประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง และในเบื้องต้นได้ขอให้ผู้เสียหายทุกคนเดินทางไปแจ้งความ และจะสอบสวนขยายผลต่อไป ส่วนสำนักงานดังกล่าว เจ้าของบ้านที่ให้เช่าเป็นสำนักงานได้บอกเลิกสัญญาเช่าเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน และกำหนดให้ขนย้ายสิ่งของออกจากบ้านภายใน 7 วัน
ส่วน นายสมบูรณ์ วิศัลยาตระกุลกิจ อ้างว่าเป็นสมาชิกและกรรมการกลุ่มเกษตรกรฐานรากดังกล่าว ชี้แจงว่า ทางกลุ่มไม่ได้ทำผิดอะไร และกลุ่มเกิดขึ้นจากการรวมตัวของเกษตรกรผู้ที่มีประสบการณ์ทั่วจังหวัดพัทลุง ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 105 คน กรรมการจำนวน 10 คน ดำเนินงานในโครงการช่วยเลือกเกษตรกรที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจฝืดเคือง ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ทางกลุ่มจึงได้กำหนดแผนรวมกลุ่มให้มีความเข้มแข็งและช่วยเหลือกันเอง
ในเบื้องต้นได้ให้สมาชิกที่มีอยู่ประมาณ 100 กว่าคน ได้เสนอโครงการขอสนับสนุนงบประมาณผ่านทางกรรมการกลุ่ม เพื่อหาทุนไปประกอบอาชีพเลี้ยงไก่ไข่ โคเนื้อ ปลูกพืชผักและผลิตปุ๋ยอินทรี การที่จะเสนอโครงการของบประมาณ สมาชิกจะต้องเตรียมสถานที่ไว้ได้พร้อมก่อนที่จะเสนอโครงการ เพราะฉะนั้นการจ้างถมที่ก็เป็นเรื่องของเจ้าของที่ดินกับผู้รับเหมาต้องไปจัดการกันเอง เพราะทางกลุ่มไม่ได้สั่งให้ผู้รับเหมาทำงาน
ส่วนกรณีที่ผู้ที่อ้างว่าเป็นประธานกลุ่มเกษตรกรฐานราก ไปหยิบยืมเงินใครก็เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับกลุ่มแต่อย่างใด เช่นเดียวกับกรณีที่สมาชิกเสนอโครงการมานานหลายเดือนก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ต้องเข้าใจว่าการเสนอขอสนับสนุนงบประมาณต้องใช้เวลา
และอีกอย่างกลุ่มเกษตรกรฐานรากอยู่ระหว่างสร้างความเข้มแข็งให้กลุ่ม ทำเป็นโครงการนำร่องก่อนที่จะขยายออกไปทั่วจังหวัดพัทลุง จึงขอร้องให้ผู้สื่อข่าวนำเสนอข่าวให้สร้างสรรค์ ไม่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มและขอถ่ายภาพนักข่าวที่เดินทางไปถ่ายภาพทำข่าวเอาไว้ด้วย