ตรัง - ชาวบ้านหมู่ 3 ต.นาโยงใต้ อ.เมืองตรัง หลาย 10 ชีวิตเดือดร้อนหนักโดนปิดทางเข้าออก ทั้งที่ใช้สัญจรมากว่า 10 ปีแล้ว กระทั่งล่าสุด ต้องหามศพใส่รถเข็นเพื่อนำออกไปประกอบพิธีที่วัดอย่างทุลักทุเล
วันนี้ (8 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ชาวบ้านโดนปิดทางเข้าออก โดยเป็นทางที่ใช้สัญจรซึ่งใช้กันมากว่า 10 ปีแล้ว แต่ถูกกั้นด้วยรั้วลวดหนามจนไม่สามารถสัญจรได้ ขณะที่เพื่อนบ้านอีกรายยอมทุบรั้วเปิดทางยาวประมาณ 40 เมตร กว้าง 1.5 เมตร ให้พอใช้สัญจรได้ ล่าสุด มีชาวบ้านในพื้นที่เสียชีวิต ญาติต้องขนศพใส่รถเข็นออกมาอย่างทุลักทุเลเพื่อนำศพไปทำพิธีที่วัด โดยถนนที่ถูกปิดกั้นนั้นอยู่ในพื้นที่หมู่ 3 ต.นาโยงใต้ อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งมีชาวบ้านอาศัยอยู่ในพื้นที่ด้านใน จำนวน 3 หลัง รวมประมาณ 20 คน และยังมีสวนยางพารา ซึ่งชาวบ้านต้องใช้เส้นทางนี้สัญจรเป็นหลัก เพื่อเข้าไปดูแลสวนยาง กรีดยาง และบรรทุกน้ำยางออกมาขายอีกประมาณ 20 ครัวเรือน
ซึ่งเดิมที นางชอบ ขำเกลี้ยง ได้อุทิศถนนเส้นนี้ให้เป็นทางสาธารณะ และ อบต.นาโยงใต้ ได้เข้ามาพัฒนาถนนด้วยการปูหิน เพื่อให้ชาวบ้านสัญจรได้สะดวกสบาย กระทั่งต่อมา นางชอบ ได้มอบที่ดินที่เป็นสวนปาล์มน้ำมันที่อยู่ถัดออกไปจากแนวถนนให้เพื่อนบ้านรายหนึ่งซึ่งเป็นญาติกัน และได้บอกกับญาติรายดังกล่าวว่า ที่ดินซึ่งเป็นถนนนั้นตนได้อุทิศเป็นทางสาธารณะแล้ว แต่สุดท้ายเมื่อญาติได้รับที่ดินจากนางชอบ ได้ทำเสาซีเมนต์ และลวดหนามมาล้อมรอบที่ดินดังกล่าว จนสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมากว่า 6 ปีแล้ว และที่ผ่านมาได้ร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงานมาโดยตลอด แต่เรื่องเงียบหายไป
นางประมูล พรหมราช อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ 4 ต.นาโยงใต้ อ.เมือง จ.ตรัง บอกว่า ตนเองและครอบครัวได้ใช้เส้นทางนี้มา 10 กว่าปี เมื่อโดนกั้นแนวเขตต้องใช้วิธีการเดินเข้าออก หรือใช้รถจักรยานยนต์แทน ได้รับความลำบากอย่างมาก เพราะไม่มีน้ำประปาใช้ ต้องไปขนน้ำกันข้างนอก และล่าสุดที่ได้รับความเดือดร้อนหนัก เมื่อแฟนเป็นลมเสียชีวิต ต้องช่วยกันหามร่างใส่รถเข็นออกมา เพื่อนำศพไปประกอบพิธีที่วัด ซึ่งมีระยะทางไกลกว่า 1 กิโลเมตร ส่วนสาเหตุที่เพื่อนบ้านมากั้นแนวเขต ถามแล้วเขาไม่ตอบ ได้ไปร้องขอความช่วยเหลือทั้งที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง กอ.รมน.ตรัง และ อบต.นาโยงใต้ แต่เรื่องก็เงียบ ผ่านมาเป็นระยะเวลา 6 ปีแล้วยังไม่คืบหน้า วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวให้ชาวบ้านด้วย
ด้านนางชอบ ขำเกลี้ยง อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 3 ต.นาโยงใต้ อ.เมือง จ.ตรัง บอกว่า เดิมทีที่ดินผืนนี้เป็นที่ดินของตนเอง และเมื่อปี 2552 ตนได้อุทิศให้ อบต.นาโยงใต้ ด้วยวาจา ยังไม่ได้ลงลายลักษณ์อักษรเพื่อใช้เป็นทางสาธารณะ กว้าง 4 เมตร ยาวประมาณ 40 เมตร และ อบต.ได้เข้ามาดำเนินการตัดถนนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กระทั่งเมื่อปี 2559 ตนได้ยกที่ดินนี้ให้ญาติไป และได้รับปากกับตนว่าจะไม่ปิดทางแน่นอน แต่เมื่อโอนที่ดินให้เสร็จญาติตนก็มาปิดทาง เจรจากันหลายครั้งแต่ไม่ยอมเปิด จนตนเองต้องยอมทุบกำแพงรั้วบ้าน และให้พื้นที่ทำถนนสัญจร ขนาดความกว้าง 1.5 เมตร ยาวประมาณ 40 เมตร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในเบื้องต้น