สุราษฎร์ธานี - หนุ่มเดนมาร์กสุดเซ็ง ทิ้งบ้านไปทำธุระที่ต่างประเทศ กลับมาเข่าแทบทรุด ถูกคนร้ายเข้าไปขโมยทรัพย์สิน และทำลายบ้านหรูจนพังเสียหายกว่า 3 ล้านบาท ล่าสุด ทางตำรวจเกาะสมุย จับกุมคนร้ายได้แล้ว 1 คน ยึดของกลางมาได้ส่วนหนึ่ง
จากกรณี นายไบรอัน มิเชล แอนเดรเซ็น อายุ 43 ปี สัญชาติเดนมาร์ก พร้อมด้วยภรรยาชาวไทย อยู่บ้านเลขที่ 44/70 หมู่ 1 ตำบลแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.เกาะสมุย ว่า ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนอาศัยช่วงที่ตน และ ภรรยาไม่อยู่บ้าน เดินทางไปทำธุระที่ต่างประเทศเข้าไปขโมยทรัพย์สิน ประกอบด้วย ทีวี 1 เครื่อง เครื่องปรับอากาศ 4 เครื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านทั้งหมด ถูกถอด ทรัพย์สินในห้องในครัว ห้องรับแขก จักรยานเสือภูเขา 1 คัน เครื่องมือช่างและทรัพย์สินอื่นๆ หลอดไฟ สายไฟถูกถอดรื้อออกไปหมด รวมทรัพย์สินที่สูญหาย และความเสียหาย เช่น ฝ้าเพดาน กระจกหน้าต่าง ประมาณ 3 ล้านบาท
หลังจากรับแจ้ง พ.ต.อ.พงษ์ขจร สุกกสังค์ ผกก.สภ.เกาะสมุย ได้สั่งการให้ให้ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ วิบุตร รอง สว.สส. ร.ต.อ.องอาจ ทองนาค รอง สว.สส. ร.ต.อ.ศิรวัฒน์ พิพิธเดชะพงศ์ รอง สวป. ร.ต.ต.กิตติศักดิ์ บุญศรี รอง สวป เร่งสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนได้เบาะแสคนร้าย และสามารถจับกุมตัวไว้ได้ 1 คน คือ นายวรกร หรือแว็ด รัตนรักษ์ อายุ 42 ปี ภูมิลำเนาตำบลแม่น้ำ และติดตามของกลางมาได้จำนวนหนึ่ง เช่น แท็งก์น้ำ รถจักรยานเสือภูเขา เเละโต๊ะไม้
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายณรงค์ฤทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) ภูมิลำเนาตำบลแม่น้ำ เช่นกัน ได้ร่วมกันใช้รถจักรยานยนต์เข้าไปก่อเหตุขโมยทรัพย์สินในบ้านดังกล่าวจริง โดยได้ทยอยถอดอุปกรณ์ออกจากบ้านที่เกิดเหตุพร้อมนำไปใช้บ้าง ไปขายบ้าง ซึ่งในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์ รับของโจร
พ.ต.อ.พงษ์ขจร กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 5 ธ.ค. นายณรงค์ฤทธิ์ จะขอเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน
ด้าน ร.ต.อ.พิเชษฐ์ วิบุตร รอง สว.สส.ที่นำกำลังออกติดตามกลุ่มคนร้าย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับบ้านของผู้เสียหายอยู่บนภูเขา ภายในซอยบ้านแม่น้ำซอย 1 หมู่ 1 ตำบลแม่น้ำ ซึ่งการเดินทางขึ้นไปยังบ้านผู้เสียหาย ทางขึ้นค่อนข้างลำบาก เป็นถนนลูกรัง และขึ้นภูเขาสูงชัน และห่างไกลชุมชน รถธรรมดาของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถขับขึ้นไปได้ ต้องใช้รถโฟร์วีลขึ้นเท่านั้น
ส่วนกลุ่มผู้ต้องหาที่เข้าไปขโมยทรัพย์สินที่บ้านดังกล่าวได้ เนื่องจากคนร้ายเป็นคนในพื้นที่ และรู้ว่าผู้เสียหายไม่อยู่บ้าน จึงทยอยเคลื่อนย้ายนำทรัพย์สินไปจำหน่ายอย่างใจเย็น
