xs
xsm
sm
md
lg

หลายหน่วยงานเข้าช่วยเหลือแม่พาลูกไปขายถั่วต้ม เตรียมย้ายกลับพัทลุงหลังสังคมถล่มยับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - แม่พาลูกเดินเร่ขายถั่วต้มร่ำไห้ถูกสังคมถล่มยับ เผยครอบครัวลำบาก ผัวตายพ่อตาย กลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวลูก 2 คน ทั้งบ้านมีไข่อยู่ 2 ฟองพร้อมเงิน 200 บาท วอนสังคมเห็นใจไม่ต้องการพาลูกไปลำบาก หลังคลิปแพร่ในโซเชียลต้องเลิกพาลูกเร่ขายถั่วและจะย้ายกลับไปอยู่บ้านเกิดที่ จ.พัทลุง ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ช่วยเหลือแล้วทั้งเฉพาะหน้า และเรื่องอาชีพระยะยาวเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น

จากกรณีมีผู้ใช้ติ๊กต็อกโพสต์ภาพเหตุการณ์ผู้หญิงคนหนึ่งให้ลูกชายอายุประมาณ 3 ขวบเดินเร่ขายถั่วอยู่ปากซอยถนนราษฎร์ยิน ซอย 7/1 เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นย่านร้านอาหารและสถานบันเทิง ส่วนแม่แอบนั่งรออยู่บนรถจักรยานยนต์พร้อมลูกสาวอีกคน และได้ดุด่าลูกที่เดินร้องไห้ จนชาวบ้านเห็นแล้วสงสารเด็กจึงเข้าไปคุยกับแม่ว่าเป็นลูกจริงหรือไม่ และทำไมถึงต้องเอาลูกมาเดินเร่ขายถั่วจนเกิดมีปากเสียงกันขึ้น เหตุเกิดเมื่อช่วง 4 ทุ่ม คืนวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จนทำให้กลายเป็นกระแสโซเชียล บางคนตำหนิแม่ บางคนสงสัยที่มาที่ไปของแม่ลูกว่าครอบครัวเป็นอย่างไร

ล่าสุด วันนี้ (24 พ.ย.) ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบกับครอบครับนี้ ซึ่งพักอาศัยอยู่ในบ้านเช่า ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยอาศัยอยู่ด้วยกัน 3 คนแม่ลูก แม่ชื่อกิ่ง อายุ 32 ปี น้องโชกุล ลูกชายอายุ 3 ขวบ 3 เดือน และน้องณัฏ ลูกสาวอายุ 1 ขวบ 3 เดือน และเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เนื่องจากสามีได้เสียชีวิตไปตั้งแต่คลอดลูกสาวได้เพียง 14 วัน เพราะเส้นเลือดในสมองแตก ส่วนพ่อที่คอยช่วยเหลือก็มาเสียชีวิตไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จึงต้องอยู่กับเพียงลำพัง 3 คนแม่ลูก และตอนที่ทีมข่าวไปดูที่บ้านพบว่าทั้งบ้านมีไข่อยู่เพียง 2 ฟองที่กำลังจะต้มกินกันในตอนเที่ยงและรอให้ลูกชายตื่นมาก่อนจะได้กินพร้อมๆ กัน และมีเงินติดตัวอยู่แค่ 200 บาทเท่านั้น  ในขณะที่น้องโชกุล ลูกชายสภาพจิตใจยังปกติไม่ได้หวาดกลัวแม่หรือกลัวผู้คนแต่อย่างใด แต่ยังคลอเคลียอยู่กับแม่ตามประสาเด็ก

แม่กิ่ง เล่าว่า หลังจากที่มีการปล่อยคลิปตนพาลูกไปเดินเร่ขายถั่วต้มและทะเลาะกับชาวบ้านที่ไม่พอใจเรื่องที่ตนดุด่าลูกจนถูกกระแสโซเชียลด่ายับ ตอนนี้สภาพจิตใจแย่มากตั้งแต่คืนนั้นจนถึงตอนนี้ไม่ได้ออกไปไหน ไม่ได้ขายของ ร้องไห้ตลอด เครียดมาก บางครั้งถึงขั้นพูดกับลูกชายว่าอยากไปอยู่กับพ่อไหม

ส่วนเรื่องในคลิปในคืนนั้นแม่กิ่ง เธอยอมรับว่าดุด่าและพูดจาไม่ดีกับลูกจริง เพราะลูกกวนอยากกินเฟรนช์ฟรายชีสที่ชอบ แต่บอกลูกให้ไปขายถั่วต้มที่โต๊ะลูกค้า 2 โต๊ะก่อน แต่ลูกร้องจึงเรียกให้กลับมาแต่ก็ไม่ยอมกลับ กระทั่งมีชาวบ้านคนหนึ่งเดินมาหาตนและมีปากเสียงกันตามคลิป และยอมรับว่าคืนนั้นพูดไม่ดีกับลูกจริงและขอโทษชาวบ้านที่หวังดีคนนั้นด้วยที่พูดไม่ดีออกไป

แม่กิ่ง ยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมาตนจะเป็นคนเดินเร่ขายถั่วต้มเองและจะพาลูกทั้ง 2 คนไปด้วย เพราะหากอยู่บ้านไม่มีใครดูแล แต่เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา รถจักรยานยนต์ที่ขับมาถูกรถชนบาดเจ็บทั้ง 3 คน และตนข้อเท้าเคล็ดเดินไม่สะดวก จึงให้ลูกมาเดินขายคนเดียวเพราะถ้าไม่ทำก็ไม่มีรายได้ และที่ผ่านมา ตอนที่พาลูกเดินขายถั่วต้มจะถูกคนมองและถึงขั้นพูดจาดูถูกว่า พาลูกมาหากินดึกๆ เรียกร้องความสงสาร เพราะไม่มีใครรู้ว่าครอบครัวตนลำบากแค่ไหน แต่ก็ทนมาตลอด

"ไม่อยากพาลูกไปลำบาก แต่ไม่รู้จะทำอะไร ขายได้กำไรคืนละอย่างน้อย 300 บาท แต่แทบจะไม่พอค่าใช้จ่าย ทั้งค่าเช่าบ้านเดือนละ 2,000 บาท ค่าไฟเดือนละ 400 บาท และยังมีหนี้สินและหนี้นอกระบบที่ต้องจ่ายอีกเดือนละ 3,000 บาท ยังไม่รวมค่ากินค่าอยู่ ค่านมลูก บางครั้งต้องอาศัยยายทำอาหารมาให้และญาติพี่น้องซื้อข้าวสารมาฝาก ก่อนหน้านี้ เคยมีอาชีพขายใบกระท่อมแต่พักหลังขายไม่ดีเลยมาลงทุนขายถั่วต้มแทน"

แม่กิ่ง บอกว่า หลังกลายเป็นเรื่องต้องหยุดอาชีพเร่ขายถั่วต้มและเตรียมย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านเกิดที่ จ.พัทลุงในเร็วๆ นี้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมขนย้ายข้าวของและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพราะหากอยู่ที่นี่ต่อไปน่าจะลำบากไม่รู้จะทำอะไร แต่ถ้ากลับไปอยู่บ้าน อย่างน้อยก็มีญาติพี่น้องได้พึ่งพาอาศัยและสบายใจกว่า

ต่อมาเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สงขลา และเจ้าหน้าที่กองสวัสดิการและสังคมเทศบาลเมืองควนลัง ได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมครอบครัว 3 แม่ลูกนี้แล้ว โดยเบื้องต้นได้นำเครื่องอุปโภคบริโภคและของใช้สำหรับเด็กไปให้การช่วยเหลือ รวมทั้งเตรียมช่วยเหลือเรื่องอื่นๆ ทั้งเงินสงเคราะห์เด็กและเงินช่วยเหลือฉุกเฉินเพื่อช่วยดูแลเฉพาะหน้าของทั้ง 3 แม่ลูก

นอกจากนี้ ยังแนะนำเรื่องการฝึกอาชีพหากต้องการที่จะเปลี่ยนอาชีพที่เหมาะสม เช่น ช่างตัดผม ทำเบเกอรี่ ขายกาแฟ หรือขายออนไลน์ ซึ่งไปเรียนได้ที่ศูนย์ฝึกอาชีพสตรี ที่ อ.รัตภูมิ เพราะพาลูกไปอยู่ได้ด้วยและฝึกฟรีพร้อมกับมีเบี้ยเลี้ยงรายวันและมีเงินทุนในการประกอบอาชีพ แต่แม่กิ่งยังไม่ได้ตัดสินใจในเรื่องนี้บอกแค่เพียงว่าจะย้ายกลับไปอยู่บ้านเกิดที่ จ.พัทลุงก่อน

หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สงขลา จะประสานเรื่องไปยังสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พัทลุง เพื่อให้เข้าไปติดตามช่วยเหลือดูแลครอบครัวนี้ต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น