ตรัง - เจ้าของร้านขายยาโบราณชื่อดังเมืองตรัง ยังคงสืบทอดขนมหวานโบราณจากเมืองจีน อายุ 60-70 ปี ซึ่งมีชื่อดูแปลกๆ ว่า “ต้มหลุกหมี” แต่ไม่ได้มีส่วนผสมอะไรเกี่ยวกับหมีเลย โดยมีรสชาติหวานหอมชื่นใจ ใช้สำหรับบำรุงร่างกายได้ทุกวัย
“โกติน” นายยงยุทธ สนั่นชาติวณิช เจ้าของร้านขายยาโบราณชื่อดัง “ยิ้นจี้ถ่อง” ในฐานะประธานชุมชนเมืองเก่าทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง ได้ออกมาโชว์ฝีมือการทำ ขนมหวานโบราณอายุ 60-70 ปี ซึ่งมีชื่อดูแปลกๆ ว่า “ต้มหลุกหมี” แต่กลับไม่ได้มีส่วนผสมอะไรเกี่ยวกับหมีเลย
โดย “ต้มหลุกหมี” เป็นอาหารชาติพันธุ์จีนฮากกา หรือชาวจีนแคะ ที่นิยมทำกินกันในครอบครัวชาวจีน มีรสชาติหวานหอมชื่นใจ คล้ายกับเต้าทึง ถือเป็นอาหารมีฤทธิ์เย็น ใช้สำหรับบำรุงร่างกายได้ทุกวัย เพราะมีส่วนผสมของเครื่องตุ๋นยาจีน 4 ชนิด ประกอบด้วย ไวซาน ยุกจุก ปักรับ และลีจือ รวมทั้งฟักเชื่อม พุทราแดง ลำไยแห้ง ไข่นกกระทา และน้ำตาลกรวด
โดยแรกเริ่มเดิมที “จีนา” นางรัตนา สนั่นชาติวณิช ซึ่งเป็นคุณแม่ของ “โกติน” เป็นผู้สืบทอดต้นตำรับ “ต้มหลุกหมี” จากเมืองจีนมาสู่เมืองตรังเป็นคนแรก ก่อนจะถ่ายทอดต่อมายังลูกชาย รวมทั้งลูกหลานและคนสนิทอื่นๆ ในตระกูล เพื่อต้องการรักษาเมนูนี้เอาไว้ ซึ่งในอดีตจะปรุงขึ้นมาสำหรับนำไปช่วยงานต่างๆ ตามแถบชนบท เช่น งานบวช งานแต่ง งานขึ้นบ้านใหม่ หรืองานศพ เนื่องจากเป็นเมนูที่กินได้ง่าย อีกทั้งยังเป็นได้ทั้งของคาวของหวาน ประกอบกับวัตถุดิบในยุคนั้นไม่แพงจึงสามารถต้มได้เป็นหม้อใหญ่ๆ เพื่อเลี้ยงคนจำนวนมากได้ทั้งงาน รวมทั้งมีผู้ทำขึ้นเพื่อขายในตลาดราคากระปุกละ 30 บาท ซึ่งภายในจะมีไข่นกกะทาใส่ให้ 1 ลูก
อย่างไรก็ตาม ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะต้นทุนที่สูงขึ้นของวัตถุดิบ จึงทำให้เมนูที่มีชื่อดูแปลกๆ อย่าง “ต้มหลุกหมี” ค่อยๆ หายไป เนื่องจากเจ้าภาพทำเพื่อเลี้ยงคนมากๆ ไม่ไหว หรือหากทำขายก็ไม่ได้กำไร จนเหลือเพียงการทำสาธิตตามงานเท่านั้น แต่โชคดีที่ “โกติน” รวมทั้งลูกหลานและคนใกล้ชิดยังพยายามสืบทอดเมนูนี้เอาไว้ จนเหลือเพียงที่เดียวในเมืองตรัง
ส่วนเคล็ดลับการปรุง จะเริ่มจากต้มเครื่องยาจีน แล้วตามด้วยฟักเชื่อม พุทราแดง ลำไยแห้ง ไข่นกกระทา ปิดท้ายด้วยน้ำตาลกรวด รวมใช้เวลาต้ม 2-3 ชม. ส่วนเคล็ดลับการชิมให้อร่อยคือ คำแรกให้กอนไข่นกกระทาก่อน ตามด้วยเครื่องตุ๋นยาจีน และน้ำหวาน จะได้ความฟินแบบครบเครื่อง
