ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตร.สภ.วิชิต จ.ภูเก็ต จับสองผัวเมียชาวเยอรมัน ทำทีมาเช่ารถยนต์จากสาวไทยในภูเก็ต ขับข้ามไปขายที่มาเลเซีย สุดท้ายไม่รอดถูกตำรวจตามรวบได้
เมื่อเวลา 15.45 น.วันนี้ (17 พ.ย.) เฟซบุ๊ก "งานสืบสวน สภ.วิชิต" ได้โพสต์ข้อความและภาพนิ่งจำนวน 2 ภาพ โดยระบุว่า จับ 2 ผัวเมียต่างชาติเช่ารถไปขาย #ลักรถไปขายมาเลเซีย โดยเมื่อวันที่ 2 พ.ย.2565 น.ส.เพชรรัตน์ มั่นคง ผู้เสียหายเข้าพบ พงส. สภ.วิชิต แจ้งว่า เป็นผู้ครอบครองรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต สีขาว ทะเบียน กย 4965 ภูเก็ต และเมื่อวันที่ 5 ก.พ.2565 เวลา 18.00 น.ได้มีนางจูเลีย ไปเปียวบาน (Mrs.Juia Poppelbaum) อายุ 34 ปี สัญชาติเยอรมัน ได้มาขอเข่ารถยนต์คันดังกล่าวกับ น.ส.เพชรรัตน์ เป็นเวลา 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.65 ถึงวันที่ 5 มี.ค.65 ในราคา 32,000 บาท โดยผู้เช่าได้จ่ายเงินให้งวดแรกรวม 9,000 บาท และได้โอนมาเพิ่มอีก 5,000 บาท รวมแล้ว 14,000 บาท ยังขาดอีกที่จะต้องชำระอีก 23,000 บาท และผู้เสียหายได้ส่งมอบรถยนต์ให้ผู้เช่าไป
ต่อมา วันที่ 12 ก.พ.65 เวลา 08.45 น. น.ส.เพชรรัตน์ ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.แจ้งว่ารถยนต์คันนี้ได้ขับรถผ่านด่านเข้าไปในประเทศมาเลเซีย และมีการติดตามอยู่ โดยได้แจ้งว่ารถยนต์คันดังกล่าวอาจเกี่ยวข้องกับการขนยาเสพติด โดย น.ส.เพชรรัตน์ จึงตรวจสอบจีพีเอส พบว่ารถดังกล่าวอยู่ในประเทศมาเลเซียแล้ว จึงพยายามติดต่อผู้เช่าเพื่อขอรับรถคืน แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงเชื่อว่าผู้เช่ามีเจตนาที่จะเบียดบังเอารถยนต์ของตนเองไป จึงแจ้งความร้องทุกข์ไว้ต่อ พงส.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมา พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องขอออกหมายจับนางจูเลีย โปปเปลบาม (Mrs.Julia Poppelbaum) อายุ 34 ปี สัญชาติเยอรมัน ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ตที่ 659/2565 ลงวันที่ 14 พ.ย.65 ในข้อหาลักทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป ร่วมกับนายโทมัส เวียต (MR.Thomas Veit) อายุ 47 ปี สัญชาติเยอรมัน ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ตที่ 660/2565 ลงวันที่ 14 พ.ย 65 เช่นเดียวกัน
จากนั้นชุดสืบสวนทราบว่า นางจูเลีย และ นายโทมัส ได้เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย และกระทำผิดในข้อหาอื่นจนถูกดำเดินคดีเสร็จสิ้นแล้ว และอยู่ในระหว่างกักตัวรอเนรเทศ จึงประสานงานเจ้าหน้าที่ ตม.เข้าจับกุมดำเนินคดี เมื่อวันที่ 16 พ.ย.65 เวลา 14.30 น.นำตัวส่งหนักงานสอบสวน สภ.วิชิต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนรถของผู้เสียหายอยู่ระหว่างการขยายผลสืบสวนสอบสวน