ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชุดปราบปรามการโจรกรรมรถตำรวจภูธรภาค 9 ลงพื้นที่รับเรื่อง รวบรวมหลักฐาน และผู้เสียหายที่ถูกหลอกเช่ารถ พบมีผู้เสียหายกระจายใน 8 จังหวัดในภาคใต้ บางรายเป็นคนกลางเครียดถึงขั้นช็อกเสียชีวิตเพราะหารถคืนไม่ได้ บางรายต้องเสียเงินค่าไถ่รถคืนเกือบ 4 ล้าน เพราะไปช่วยเช่ารถจากชาวบ้าน
วันนี้ (15 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามการโจรกรรมรถตำรวจภูธรภาค 9 หรือชุด ปจร. ลงพื้นที่พบกับชมรมผู้ประกอบการรถเช่าหน้าสนามบินหาดใหญ่ จ.สงขลา ที่ได้รับความเดือดร้อนถูกหลอกเช่ารถไปจำนำในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มากกว่า 50 คัน ต้องสูญเงินค่าเช่านับล้านบาท และในจำนวนนี้มีรถที่สูญหายยังตามคืนมาไม่ได้อีกราว 10 คัน
โดยในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามการโจรกรรมรถตำรวจภูธรภาค 9 ได้มารับเรื่อง และรวบรวมเอกสารหลักฐาน และผู้ประกอบการรถเช่าที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด ซึ่งเบื้องต้นได้เข้าแจ้งความตำรวจไว้แล้วประมาณ 13 ราย รวมทั้งในวันนี้ยังมีผู้ประกอบการรถเช่าอีกจากหลายจังหวัดในภาคใต้ เช่น พัทลุง ปัตตานี ที่ถูกหลอกเช่ารถ และมามอบหลักฐาน พร้อมกับให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วย
โดยหลังจากนี้จะเร่งสรุป และรายงานให้ทางผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา ได้รับทราบ เพื่อสั่งการเร่งรัดให้ทางพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับการหลอกเช่ารถไปจำนำ หากไม่มาจะออกหมายจับตามขั้นตอนของกฎหมาย ทั้งในส่วนนายหน้าที่มาติดต่อเช่ารถ ซึ่งมีตัวตนชัดเจนอยู่แล้ว และโดยเฉพาะ นายมูหัมหมัดอามิน สาลาจะ อายุ 42 ปี ชาว จ.ยะลา ที่ถูกซัดทอดว่าเป็นคนหลอกให้มาเช่ารถ แต่กลับเอาไปจำนำ โดยออกอุบายว่าเช่าไปใช้ในราชการลับของ กอ.รมน.
ซึ่งคดีนี้เข้าข่ายความผิดข้อหายักยอกทรัพย์ และฉ้อโกง ซึ่งยอมความได้ และยังเข้าข่ายข้อหาลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย ซึ่งยอมความไม่ได้ ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานว่าเข้าข่ายข้อหาใด และในจำนวนผู้เสียหายที่ได้มาพบ และให้ข้อมูลกับชุดปราบปรามโจรกรรมรถตำรวจภูธรภาค 9 เพิ่มเติมในวันนี้ เป็นหญิงสาวที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว และถูกนายมูหัมหมัดอามิน ติดต่อให้หารถเช่าให้ เนื่องจากเป็นนักธุรกิจที่กว้างขวางในพื้นที่ โดยอ้างว่านำรถไปใช้ในราชการลับในโครงการของ กอ.รมน.
โดยเธอกับสามีได้เป็นผู้ทำสัญญาเช่ารถจากชาวบ้านมาให้ นายมูหัมหมัดอามิน ราว 20 คัน ปรากฏว่ารถได้ถูกนำไปจำนำต่อทั้งหมด และต้องไปไถ่รถคืนให้ชาวบ้าน เสียเงินไปเกือบ 4 ล้านบาท เพราะเป็นคนทำสัญญาเช่ากับชาวบ้านโดยตรง และยังมีรถอีก 4 คัน ที่ยังตามคืนมาไม่ได้
ด้านนายศักดิ์ชาย แสงเพชร หรือ ส.จ.เจ้ง หนึ่งในผู้ประกอบการรถเช่าที่เสียหาย บอกว่า หลังจากที่ทางชมรมผู้ประกอบการรถเช่าหน้าสนามบินหาดใหญ่ จ.สงขลา ออกมาตีแผ่เรื่องนี้ ปรากฏว่าไม่ใช่เฉพาะผู้ประกอบการรถเช่าใน จ.สงขลา เท่านั้นที่เดือดร้อน แต่ยังมีผู้ประกอบการรถเช่าในอีกหลายจังหวัดของภาคใต้ ทั้ง จ.พัทลุง นครศรีธรรมราช กระบี่ ภูเก็ต ปัตตานี ยะลา และ จ.นราธิวาส ที่ประสานมาทางชมรมว่าถูกหลอกในรูปแบบเดียวกัน และปลายทางรถทุกคันถูกเช่าไปให้นายมูหัมหมัดอามิน ที่อ้างว่าเช่าไปใช้ในราชการลับของ กอ.รมน. โดยนำรูปที่ถ่ายกับบุคคลสำคัญในรัฐบาลมาแอบอ้างเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ขณะนี้ตัวเลขของรถที่ถูกหลอกไปจำนำเท่าที่รวบรวมได้มีเกือบ 100 คัน บางส่วนตามคืนมาได้ บางส่วนก็ยังหาไม่พบ
ที่หนักสุดมีนายหน้าคนหนึ่งซึ่งเป็นคนกลางที่ถูกนายมูหัมหมัดอามิน หลอกให้ไปเช่ารถมาให้ซึ่งอยู่ที่ จ.ระนอง เครียดถึงขั้นช็อกเสียชีวิต เพราะรถที่ไปเช่ามาถูกนำไปจำนำ และไม่สามารถติดตามรถมาคืนให้เจ้าของได้ ต้องรับผิดชอบเต็มๆ แต่ไม่สามารถติดต่อนายมูหัมหมัด อามิน ได้ จึงเครียดหนักจนช็อกเสียชีวิต
นายศักดิ์ชาย กล่าวอีกว่า ทางผู้ประกอบการรถเช่าจึงต้องการให้ทางพนักงานสอบสวนเร่งรัดคดี โดยออกหมายเรียก และออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการหลอกเช่ารถ ตามที่ได้แจ้งความไว้แล้ว เนื่องจากขณะนี้พบว่ายังคงมีการหลอกเช่ารถไปจำนำอยู่อีก แม้จะปรากฏเป็นข่าวแล้วก็ตาม เพราะตัวการใหญ่คือ นายมูหัมหมัดอามิน ยังลอยนวลอยู่
อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง :
๐ แฉแก๊งหลอกเช่ารถเอาไปจำนำต่อใน จชต. เผยปีนี้มีมากกว่า 50 คัน สูญหายไปถึง 10 คัน
