มรสุมคลื่นแรงชาวประมงหยุดเรือยาว หันวางอวนล้อมจับปลากระบอกริมฝั่งแหลมสมิหลา (คลิป)

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พลิกวิกฤตเป็นโอกาสภาคใต้ย่างเข้าสู่ฤดูมรสุมคลื่นแรง ชาวประมงพื้นบ้านเริ่มหยุดเรือยาว 3 เดือน หันมาวางอวนล้อมจับปลากระบอก บริเวณชายฝั่งแหลมสมิหลา เพื่อสร้างรายได้ ส่งขาย กก.ละ 150-350 บาท

จากสภาพคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยที่เริ่มมีกำลังแรง เพราะเข้าสู่ช่วงฤดูมรสุมลมตะวันออกเฉียงเหนือของภาคใต้ฝั่งตะวันออก ทำให้ขณะนี้ชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ชายฝั่ง 6 อำเภอของ จ.สงขลา ไล่ตั้งแต่ อ.ระโนด สทิงพระ สิงหนคร จะนะ เทพา และ อ.เมืองสงขลา ต้องหยุดออกเรือชั่วคราว และอาจต้องหยุดยาวราว 3 เดือน จนกว่าจะผ่านพ้นช่วงฤดูมรสุม

ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านในชุมชนเก้าเส้ง ซึ่งเป็นชุมชนชาวเลเก้าเส้ง อ.เมืองสงขลา และเป็นชุมชนชาวเลเก่าแก่ของเมืองสงขลา ได้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส หันนำอวนมาลากล้อมจับปลากระบอก บริเวณชายฝั่งตลอดแนวชายหาดแหลมสมิหลา โดยเฉพาะตรงบริเวณเวิ้งอ่าวหาดสมิหลาใกล้กับนางเงือก เพราะจะมีปลากระบอกชุกชุมตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงนี้จะมีฝูงปลากระบอกมากกว่าปกติ เพราะจะว่ายน้ำเข้ามาตามเกลียวคลื่นที่ซัดเข้าสู่ฝั่ง ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านนำอวนมาลากเพื่อล้อมจับปลากระบอก

โดยการล้อมจับปลากระบอกนั้นต้องทำคู่กัน 2 คน คนหนึ่งยืนถือเชือกอวนอยู่บนฝั่ง ส่วนอีกคนนำอวนลงไปวางกลางทะเลโดยต้องฝ่าคลื่นลมลงไป แล้วตีวงดึงอวนขึ้นมาพร้อมๆ กัน ซึ่งการลากอวนแต่ละครั้งจะได้ปลากระบอกมากบ้างน้อยบ้าง บางครั้งก็ได้ 3-4 ตัว บางครั้งก็ได้เป็นสิบๆ ตัว และจะลงไปลากหมุนเวียนกันไปแบบนี้ตลอดทั้งวัน

ส่วนปลากระบอกที่ได้จะนำไปขาย หากตัวใหญ่กิโลกรัมละ 350 บาท ส่วนตัวเล็กราคากิโลกรัมละ 150-200 บาท แต่ละคนจับได้วันละ 3-4 กิโลกรัม มีทั้งขายนักท่องเที่ยวบริเวณชายหาด และส่งขายตามท้องตลาด ส่วนใหญ่จะนำไปแกงส้ม ต้มส้ม หรือทอดเกลือ โดยเป็นปลาที่นิยมกินกัน