ตรัง - ชวนไปสัมผัสวิวทะเลหมอกและอากาศหนาวเย็นในช่วงปลายฝน-ต้นหนาวนี้ โดยไม่ต้องไปเที่ยวไกลถึงภาคเหนือ ทั้งที่ยืนอยู่บนเนินเขาในภาคใต้ ณ “วิถีตรัง” แลนด์มาร์กแห่งใหม่บนภูเขาน้ำพราย ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง
บริเวณหมู่บ้านท่ามะปราง ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เนื้อที่ประมาณ 116 ไร่ มีลักษณะเป็นเนินเขาเล็กๆ ที่แวดล้อมด้วยผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ของภูเขาน้ำพราย ใกล้ผืนป่าอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า และมีสภาพอากาศเย็นสบาย โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต่อเนื่องมาจนถึงช่วงต้นหนาว ซึ่งบ่อยครั้งที่จะได้สัมผัสกับวิวทะเลหมอกอย่างสวยงาม โดยไม่ต้องเดินทางไปท่องเที่ยวไกลถึงภาคเหนือ แถมยังมีอากาศที่ค่อนข้างหนาวเย็นจนต้องคว้าเสื้อผ้าหนาๆ มาสวมใส่ เพื่อมิให้ปากสั่น คางสั่น ทั้งที่ยืนอยู่บนเนินเขาในพื้นที่ภาคใต้
สถานที่แห่งนี้เดิมทีเป็นแปลงเกษตรแบบผสมผสานเชิงท่องเที่ยว โดยมีการปลูกทั้งยางพารา ปาล์มน้ำมัน และพืชผลหายากต่างๆ ในภาคใต้กว่า 30 ชนิด เช่น ตะลิงปลิง มะไฟกา เหรียง เนียง สะตอ ส้มหม้าว นอกจากนั้นยังมีสภาพธรรมชาติที่เหมาะต่อการเดินป่า เพื่อชมต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ รวมทั้งสายน้ำที่ไหลเอื่อยมาตามโขดหิน ลงสู่แอ่งน้ำที่ขุดเป็นสระเอาไว้ ขณะที่จุดสูงสุดของเนินเขายังเหมาะสำหรับการชมวิวที่สวยงามรอบตัวเมืองห้วยยอด ทำให้มีผู้คนจำนวนมากมาเที่ยวชมกัน
กระทั่งล่าสุด “กลุ่มวู้ดเวอร์ค” ผู้ผลิตและส่งออกยางพารารายใหญ่ของจังหวัดตรัง ซึ่งปกติจะมีการจัดประชุมสัมมนาอยู่บ่อยครั้ง แต่จะต้องไปใช้สถานที่อื่นๆ ดำเนินการ ประกอบกับนโยบายของทางบริษัทเองยังเน้นการดูแลเอาใจใส่ในด้านสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ จึงได้ตัดสินใจเข้ามาจัดซื้อที่ดินบริเวณหมู่บ้านท่ามะปรางแปลงนี้ เพื่อพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว หรือแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของจังหวัดตรัง รวมทั้งใช้จัดประชุมสัมมนา ทั้งของทางบริษัทเอง และเปิดให้บริการสำหรับหน่วยงาน หรือองค์กรต่างๆ ด้วย โดยตั้งชื่ออย่างเก๋ไก๋ว่า “วิถีตรัง”
นายวิถี สุพิทักษ์ ผู้บริหารของทางบริษัท บอกว่า มีกิจกรรมต่างๆ มากมายที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นมาทำได้บนเนินเขาแห่งนี้ เริ่มตั้งแต่เช้าตรู่กับการขึ้นมาเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์และชมพระอาทิตย์ขึ้น ยิ่งหากวันใดเกิดฝนตกในพื้นที่ยามเช้าจะได้สัมผัสวิวทะเลหมอกอย่างสวยงาม จากนั้นในช่วงกลางวันจะเหมาะสำหรับการไปเที่ยวชมธรรมชาติ ป่าเขา และลำธาร ท่ามกลางแสงแดดที่สดใส ส่วนในช่วงเย็นจะมีทั้งกิจกรรมออกกำลังกาย โดยเฉพาะการเต้นซุมบ้า พร้อมกับมุมอาหารทานเล่นเล็กๆ สำหรับรองท้อง เช่น ไส้กรอกย่าง ลูกชิ้นปิ้ง
ยิ่งใกล้พลบค่ำเท่าไหร่ แสงแดดก็จะค่อยๆ หดหายไป แต่ยังคงไว้ซึ่งแสงสีแดงสดสวย ท่ามกลางโขดหินน้อยใหญ่ที่วางอยู่ประปราย และลานหญ้ากว้าง ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเซลฟี่ หรือเก็บภาพที่สวยงาม และเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไป ขณะที่อากาศเริ่มหนาวเย็น และบางวันก็อาจจะมีวิวทะเลหมอกบางๆ ให้ยลโฉมกันด้วย ปิดท้ายด้วยบรรยากาศภาคค่ำที่เหมาะอย่างยิ่งต่อการสังสรรค์เล็กๆ ท่ามกลางแสงสี โดยอนาคตทางบริษัทเตรียมจะจัดทำกิจกรรมแคมปิ้งสำหรับบุคคลทั่วไปด้วย นอกเหนือไปจากการจัดประชุมสัมมนา และมุมพักผ่อน