ตรัง - นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ถึงจุดอิ่มตัว กลับบ้านฟื้นนาร้างทำ “สวนไม้ดอกเมืองหนาว” ที่สวยงามบานสะพรั่งใหญ่สุดในภาคใต้ โดยไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงเมืองเหนือ ทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาแห่ชมกันเป็นจำนวนมาก
ที่แปลงไม้ดอกเมืองหนาว “สวนลุงเวศน์” ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 8 ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง ช่วงนี้จะหนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว ทั้งจากในพื้นที่ และจังหวัดใกล้เคียงที่จูงลูกจูงหลาน คู่รัก คนในครอบครัว และเพื่อนฝูง พร้อมแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีสันต่างๆ เพื่อเดินทางมาเที่ยวชม และถ่ายรูปกับไม้ดอกเมืองหนาว โดยไม่ต้องเดินทางไกลถึงเมืองเหนือ ซึ่งจะต้องเสียเวลาเดินทาง และเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก
ทั้งนี้ ทางสวนยังได้เนรมิตประดับตกแต่งสถานที่ให้มีมุมถ่ายรูป มุมนั่งเล่น และมุมดื่มกาแฟ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมด้วยท้องทุ่งนาหมื่นศรี ถิ่นปลูกข้าวแหล่งใหญ่ของ จ.ตรัง ที่ขณะนี้ชาวนากำลังทำการปลูกข้าว และบางแห่งยังอยู่ระหว่างการไถคราด จึงมีนกกระยางมาอาศัยอยู่ให้ชมกันเป็นจำนวนมาก ทางด้านนักท่องเที่ยวต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เห็นแล้วสวยงามประทับใจมาก
นายประเวศน์ ภู่สุวรรณ เจ้าของสวนลุงเวศน์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้พื้นที่นี้เป็นพื้นที่นารกร้าง โดยซื้อมาเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว ซึ่งแรกๆ มีจำนวนไม่เท่าไหร่ เพราะไม่ได้ตั้งใจจะทำสวนอะไร แต่ต่อมาเริ่มมีชาวบ้านทยอยขายที่ดินมาให้เพิ่มขึ้น จนตอนนี้รวมประมาณ 50 ไร่แล้ว ประกอบกับตนเอง และครอบครัว ซึ่งก่อนหน้านี้ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เกิดความรู้สึกอิ่มตัว เลยคิดว่าที่ดินผืนนี้ควรนำมาทำอะไรให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน
จึงตัดสินใจทำเป็นแปลงไม้ดอกสวยงาม เพื่อให้ผู้คนเข้ามาเที่ยวชมกัน เพราะใน จ.ตรัง ยังหาจุดเช็กอินได้ค่อนข้างยาก จึงตัดสินใจปรับพื้นที่เป็นสวนไม้ดอกนานาชนิด รวมทั้งไม้เมืองหนาว จำนวน 15 ไร่ หวังให้เป็นแลนมาร์กหรือจุดท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ จ.ตรัง โดยที่ไม่จำเป็นต้องขึ้นไปท่องเที่ยวทางภาคเหนือ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการปลูกไม้ดอกนั้นยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับทีมงาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกหลานใน ต.นาหมื่นศรี อันเป็นสถานที่ตั้งของแปลงไม้ดอก จึงต้องค่อยๆ ทำกันไป
สำหรับไม้ดอกเมืองหนาวที่นำมาปลูกในสวนมีหลายชนิด เช่น ไม้ดอกมากาเร็ต ชนิดสีม่วง และสีชมพู ทั้งสายพันธุ์ในเมืองไทย และจากประเทศญี่ปุ่น แต่สายพันธุ์ที่เหมาะสำหรับภาคใต้ที่สุดมาจาก จ.เชียงราย โดยใช้เวลาในการปลูกนับตั้งแต่แยกหน่อ เพาะกล้า จนเติบใหญ่ประมาณ 3 เดือนครึ่ง ก่อนที่จะออกดอกให้เชยชมประมาณ 45 วัน ซึ่งถือเป็นไม้ดอกที่ปลูกยากมาก เพราะต้องใช้ทั้งทักษะ ความรู้ ความสนใจ และความละเอียดในการทำแปลง รวมทั้งการให้ปุ๋ยดูแลบำรุงรักษา เพราะภาคใต้ปีนี้มีความชื้นสูงมาก
นอกจากนั้น ยังมีการปลูกไม้ดอกซีโลเซีย หรือดอกสร้อยไก่ญี่ปุ่น ขณะเดียวกัน กำลังเตรียมปลูกไม้ดอกเวอร์บีน่า หรือดอกลมหนาว ลิ้นมังกร คอสมอส รวมทั้งไม้ประดับอื่นๆ อีกมากมาย ตลอดจนเร่งสร้างมุมน้ำตกที่สวยงาม เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566
อย่างไรก็ตาม หลังจากเปิดตัวสวนลุงเวศน์มาได้ไม่ถึง 10 เดือน ปรากฏว่าได้รับความสนใจ หรือมีกระแสการตอบรับที่ดีมากพอสมควรเลย มีผู้เข้าชมประมาณวันละ 1 พันกว่าคน โดยเฉพาะในวันหยุด หรือวันเสาร์ และอาทิตย์ จะมีกลุ่มนักท่องเที่ยวจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา และสตูล รวมทั้งผู้คนในภาคใต้ด้วยกัน เช่น พัทลุง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ซึ่งสามารถเดินทางมายัง จ.ตรังได้สะดวก ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลมาก แถมยังมีค่าใช้จ่ายน้อย โดยไม่ต้องไปไกลถึงภาคเหนือ รวมทั้งนักท่องเที่ยวบางส่วนจากภาคกลางด้วย เพราะขณะนี้น่าจะเป็นสวนไม้ดอกเมืองหนาวที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้
ในอนาคตกำลังปรับปรุงเป็นแปลงไม้ดอกสวยงามเพิ่มขึ้นอีก 8 ไร่ พร้อมกับกิจกรรรมแอดเวนเจอร์ รวมทั้งเครื่องเล่นต่างๆ นอกจากนั้น ยังมีพื้นที่ที่ยังคงให้ชาวบ้านซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินเดิม มาทำนาปลูกข้าวอยู่อีกประมาณ 30 ไร่ โดยไม่ต้องเสียค่าเช่าใดๆ เพื่อให้คงความเป็นธรรมชาติต่อไป
สำหรับผู้ที่สนใจจะมาเยือนยัง “สวนลุงเวศน์” มีอัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่เก็บคนละ 50 บาท ส่วน เด็กที่มีส่วนสูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร เก็บคนละ 20 บาท