ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คนร้ายโหด! ใช้มีดแทงไม่ยั้งหนุ่มใหญ่ขณะกำลังขึ้นรถหน้าห้างดังกลางเมืองภูเก็ตหลังซื้อของเสร็จ ชิงสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง บาดเจ็บสาหัส เสียชีวิตที่โรงพยาบาล หลังก่อเหตุคนร้ายเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้างก่อนหลบหนี ล่าสุด มอบตัวแล้ว อ้างนึกว่าเป็นคู่อริ
เมื่อเวลา 06.45 น.วันนี้ (29 ต.ค.) พ.ต.ท.สากล ไกรนรา สว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธทำร้ายร่างกายประชาชน ขณะกำลังจะขึ้นรถเก๋ง บริเวณริมถนนหน้าห้างแห่งหนึ่ง ถนนฮ่องซิมผาย อ.เมือง จ.ภูเก็ต จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และชิงทรัพย์สินหลบหนีไป โดยผู้บาดเจ็บมีพลเมืองดีนำส่ง รพ.วชิระภูเก็ต แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.สราวุธ ชูประสิทธิ์ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ตนำชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ภูเก็ต รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
โดยจุดที่คนร้ายก่อเหตุอยู่ริมถนนสายใกล้กับประตู 1 และ 2 ของห้าง และห่างจากตลาดเกษตรเทศบาลนครภูเก็ตประมาณ 100 เมตร พบรถเอสยูวียี่ห้อฮอนด้าซีอาร์วี สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ขง 7773 ภูเก็ต จอดอยู่ริมถนน ด้านข้างรถมีรถเข็นสินค้าจอดวางอยู่ บริเวณท้ายรถถูกเปิดออก ภายในมีข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ จำนวนหนึ่ง ที่พื้นถนนบริเวณฝั่งประตูคนขับมีคราบเลือดเป็นจำนวนมาก บนถนนใกล้กองเลือด พบมีดปอกผลไม้ด้ามสีดำ โค้งงอเปื้อนคราบเลือดตกอยู่ 1 ด้าม เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนคนเจ็บที่ถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายและไปเสียชีวิตที่ รพ. ทราบชื่อคือ นายเจริญ แป้นเงิน อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111/18 ม.4 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต สภาพศพเบื้่องต้น ถูกของมีคมแทงเข้าบริเวณหน้าอก และท้อง จำนวนหลายแผล
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์วินาทีที่คนร้ายก่อเหตุไว้ได้ทั้งหมด โดยเหตุเกิดเวลา 06.30 น. นายเจริญ กำลังเข็นรถออกจากห้าง ตรงมาที่บริเวณท้ายรถ นำสินค้าที่ซื้อมาใส่รถ ขณะที่นายเจริญ กำลังขนของขึ้นรถ ได้มีคนร้ายเข้ามาประชิดตัว ทำทีเข้ามาพูดคุยกับนายเจริญ
ต่อมา นายเจริญ เดินมาที่ประตูรถด้านคนขับ คนร้ายได้ปรี่ตามมาใช้อาวุธมีดพกสั้นกระหน่ำแทงเข้าบริเวณลำตัวประมาณ 15 ครั้ง และได้กระชากสร้อยทองคำหนัก 1 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ และกระเป๋าสะพายของนายเจริญ หลังจากนั้นคนร้ายได้วิ่งหลบหนีไปในห้าง แต่คนร้ายได้ทำสร้อยคอทองคำและกระเป๋าสะพายของผู้ตายตกบริเวณที่เกิดเหตุ คนร้ายได้ไปเพียงพระเลี่ยมทองหนัก 1 สลึงเท่านั้น
สำหรับคนร้ายที่ก่อเหตุ สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำ สวมกางเกงขายาวสีดำ สวมหมวกแก๊ปสีดำ สวมแมสก์ปิดบังใบหน้า หลังก่อเหตุคนร้ายได้เข้าไปภายในห้างเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและได้วิ่งออกทางประตูด้านหลังของห้าง หลบหนีไป โดยชุดสืบสวนได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในห้าง เพื่อขยายผลรูปพรรณของคนร้ายแล้ว
ต่อมา มีรายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน และหลังจากนั้น เมื่อเวลา 12.00 น.ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต นำโดย พ.ต.ท.นฤบดินทร์ ปังหลีเส็น รอง ผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ต.ทัพไท ลีลานนท์ สว.สภ.เมืองภูเก็ต นำตัว นายปัณ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี อาชีพกราฟิกดีไซน์ บ้านอยู่ ถ.เจ้าฟ้า ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงนายเจริญ แป้นเงิน อายุ 49 ปี และเสียชีวิตที่ รพ.ขณะกำลังเข็นรถบรรทุกสินค้าออกจากห้างโกรเซอรี่ ภูเก็ต มายังรถเอสยูวีฮอนด้าซีอาร์วี สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ขง 7773 ภูเก็ต ที่จอดอยู่ริมถนนอ๋องซิมผ่าย ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองหน้าห้างดังกล่าว แล้วชิงสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ และกระเป๋าสะพายอีก 1 ใบ
แต่คนร้ายทำสร้อยคอทองคำและกระเป๋าสะพายตกอยู่ที่เกิดเหตุ ได้ไปเพียงพระเลี่ยมทอง 1 องค์ ก่อนวิ่งหลบหนีเข้าไปในห้างเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและหลบหนีไป โดยชุดสืบสวนสามารถแกะรอยจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่นายปัณ ใช้หลบหนี
เบื้องต้น นายปัณให้การรับสารภาพเป็นคนก่อเหตุทำร้ายนายเจริญ จนเสียชีวิต แต่เป็นการเข้าใจผิดคิดว่าผู้ตายเป็นคู่อริเก่า แต่เมื่อลงมือไปแล้วจึงสำนึกผิดและได้เข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.สราวุธ ชูประสิทธิ์ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ที่ สภ.เมืองภูเก็ต จากนั้นชุดสืบสวนได้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดเกิดเหตุและเส้นทางที่ใช้หลบหนี ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.สราวุธ ชูประสิทธฺ์ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต กล่าวว่า หลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้เข้ามามอบตัวพร้อมให้การสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา ตนเองได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับชายไทยไม่ทราบชื่อสกุลจริง (ชื่อเล่น ตานิด) ในเรื่องการขับรถแถวถนนขวาง ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยได้มีปากเสียงกันรุนแรง ตนได้มีความคับแค้นเป็นอย่างมาก ต่อมา ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนขี่รถ จยย.มาที่ตลาดเกษตร ถ.อ๋องซิมผ่าย ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 100 เมตร ตนได้สังเกตเห็นผู้ตายหน้าตาคล้ายกับตานิด ตอนแรกตนเชื่อโดยสนิทใจว่าเป็นตานิด จึงได้ติดตามผู้ตายไป เมื่อถึงที่เกิดเหตุตนจึงได้เข้าไปสอบถามผู้ตายว่าใช่ ตานิดหรือไม่ ผู้ตายตอบปฏิเสธ ผู้ตายไม่ใช่ ไม่รู้จักคนชื่อตานิด แต่อย่างใด ทำให้ผู้ต้องหาเกิดความโกรธ และได้ใช้อาวุธมีดที่เตรียมมากระหน่ำแทงผู้ตายและได้หลบหนีไป โดยผู้ต้องหาระบุด้วยว่าไม่ได้เอาทรัพย์สินของผู้ตายไปแต่อย่างใด โดยเอาไปทิ้งไว้ด้านข้างห้างดังกล่าว เมื่อผู้ต้องหากลับถึงบ้านเกิดสำนึกผิดและคิดว่าน่าจะเป็นการเข้าใจผิด จึงได้เดินทางมายัง สภ.เมืองภูเก็ตเพื่อมอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาตามกฎหมาย
