ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ศาลจังหวัดนาทวี คัดค้านการประกันตัว “นายหน้าสาว” ในคดีฉ้อโกงที่ดินของครอบครัวหีมโหด อ.สะเดา จ.สงขลา แล้วเอาไปแบ่งขายให้นายทุน และพวกพ้อง มูลค่าความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท
จากกรณี นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” พร้อมด้วย นายกฤษฎา โลหิตดี หรือทนายโนบิ ได้เดินทางลงพื้นที่หมู่ 2 อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อให้การช่วยเหลือครอบครัวหีมโหด ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ถูกนายหน้าคือ นางรัชนีย์ ทองวงค์ หรือเก๋ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนาทวี ในฐานความผิดฉ้อโกง หลังหลอกให้ทางผู้เสียหายโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่เป็นมรดกกว่า 10 ไร่ ในช่วงปี 64 และนำไปจำนองขายฝาก ก่อนขายให้นายทุน ได้รับความเสียหายรวมมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท และทางตำรวจชุดสืบสวน สภ.สะเดา สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้แล้วเมื่อวานนี้ โดยจับได้บริเวณป่าละเมาะพื้นที่หมู่ 4 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา และให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหานั้น
ล่าสุด วันนี้ (15 ต.ค.) ที่ศาลจังหวัดนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา ทางพนักงานสอบสวน สภ.สะเดา ได้ควบคุมตัว น.ส.รัชนีย์ ทองวงค์ ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกง มาฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลจังหวัดนาทวี เนื่องจากหลังรับมอบตัว แต่การสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ
ขณะเดียวกัน ทางครอบครัวของผู้เสียหายกว่า 10 ราย ได้เดินไปยื่นคำร้องคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาต่อศาลจังหวัดนาทวี โดยศาลได้เมตตามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาในคดีนี้ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้มีการคัดค้านการประกันตัว และครอบครัวของผู้เสียหายเองได้ยื่นคำร้องคัดค้านการประกันตัวเช่นกัน เนื่องจากเป็นคดีที่ก่อให้เกิดความเสียหาย มีอัตราโทษจำคุกสูง อีกทั้งมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นมีจำนวนมากเช่นเดียวกัน เกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี ก่อนเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวผู้ต้องหาไปยังเรือนจำอำเภอนาทวี เพื่อฝากขังต่อไปจนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ
ด้าน น.ส.อรอนงค์ หีมโหด หนึ่งในผู้เสียหาย ได้เป็นตัวแทนของครอบครัวหีมโหด กล่าวขอบคุณทางคณะของ “กัน จอมพลัง” ทนายโนบิ รวมทั้งสื่อมวลชนที่ให้ความช่วยเหลือครอบครัวจนจับกุมผู้กระทำความผิดมารับโทษได้ โดยในส่วนทางคดีความทางครอบครัวยังกังวลใจอยู่บ้าง เนื่องจากเชื่อว่าผู้ต้องหารายนี้ไม่ได้กระทำการด้วยตัวคนเดียวแน่ๆ เพราะทุกครั้งที่กล่าวอ้าง มักจะระบุถึงเจ้าหน้าที่รัฐ และนายทุนที่ตนสนิทตลอดเวลา ซึ่งตนคิดว่าน่าจะมีบุคคลหลายคน และจากหลายส่วนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ โดยขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และดำเนินคดีกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด
ขณะที่ทนายโนบิ เปิดเผยในส่วนของคดีความระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อเกี่ยวกับประเด็นที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นทางความเชื่อมโยงของเจ้าหน้าที่รัฐ ตลอดทั้งนายทุนที่ผู้ต้องหาอ้างถึงว่าสนิทสนม ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดหรือไม่ ซึ่งหากมีเจ้าหน้าที่รัฐ หรือบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องจะมีการขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป