xs
xsm
sm
md
lg

ป้อนข้าวได้เพียง 2 คำ! สะเทือนใจหนูน้อย 4 ขวบนั่งอยู่ในรถกับพ่อที่เสียชีวิตไปแล้วทั้งวัน คิดว่าพ่อหลับ ปลุกยังไงก็ไม่ตื่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สุดสะเทือนใจ! เด็กหญิงหนูน้อยวัย 4 ขวบ นั่งอยู่ในรถกับพ่อที่เสียชีวิตไปแล้วทั้งวันโดยไม่ทราบ หลังจากที่มาส่งที่โรงเรียน และป้อนข้าวให้ได้เพียง 2 คำ โดยคิดว่าพ่อหลับไป พยายามปลุกหลายครั้งแต่ไม่ตื่น คาดหัวใจวายเฉียบพลันเพราะเป็นโรคหัวใจด้วย

วันนี้ (12 ต.ค.) เมื่อเวลา 19.00 น. พ.ต.ท.วิโรจน์ อินทรเพชร สารวัตรสอบสวน สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์ ซึ่งจอดอยู่ริมถนนภายในซอย 17 ถนนราษฎร์อุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ หลังจากลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ร่วมกับหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีท่งเซียเซี่ยงตึ้งหาดใหญ่ พบรถยนต์กระบะมิตซูบิชิไทรทัน 4 ประตู สีดำ ทะเบียน ฎว 2072 กรุงเทพมหานคร ซึ่งยังจอดติดเครื่องยนต์อยู่ โดยจอดอยู่ใกล้กับประตูทางเข้านักเรียนชั้นอนุบาล โรงเรียนพลวิทยา

ภายในรถตรงที่นั่งคนขับ มีร่างของผู้ชายนอนเสียชีวิตอยู่ในลักษณะเอนเบาะนอนราบไปข้างหลัง ทราบชื่อคือ นายภาษิต นครขวาง อายุ 41 ปี มีภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 70/192 หมู่ 11 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี สภาพศพเริ่มแข็งทื่อ เสียชีวิตมาแล้วหลายชั่วโมง แต่ไม่มีร่องรอยของการถูกทำร้าย คาดว่าอาจจะเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว หรือไม่ก็หัวใจวายเฉียบพลัน และภายในรถยังมีจานข้าววางอยู่ข้างตัวด้วย พร้อมกับกระติกน้ำ


ที่สะเทือนใจคือมีลูกสาว 2 คนของผู้ตาย ซึ่งเรียนอยู่ที่โรงเรียนพลวิทยา ยังอยู่กับพ่อที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุด้วย โดยคนโตอายุ 11 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.6 และคนเล็กอายุ 4 ปี เรียนอยู่ชั้นอนุบาล คนโตนั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจ และอยู่ในอาการขวัญเสีย ส่วนคนเล็กซึ่งยังไม่ประสีประสา แทบไม่รู้ว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว คิดว่าพ่อยังนอนหลับอยู่ และที่ทำให้ทุกคนยิ่งสะเทือนใจมากขึ้นไปอีก เพราะจากการสอบถามลูกสาวคนเล็ก พอจะจับใจความได้ว่า พ่อนอนหลับมาตั้งแต่เช้า ขณะกำลังป้อนข้าวได้ 2 คำ และพยายามปลุกพ่อหลายครั้งแต่พ่อไม่ตื่น และนั่งอยู่กับพ่อในรถตลอดทั้งวัน เพื่อรอให้พ่อตื่น ไม่ได้ลงไปโรงเรียน แม้จะปวดฉี่แต่ก็ไม่กล้าลงจากรถ จนกระทั่งช่วง 1 ทุ่ม ซึ่งมีฝนตกหนัก และมีเสียงฟ้าร้อง หนูน้อยตกใจเปิดประตูลงจากรถเพื่อที่จะวิ่งไปหาพี่สาวในโรงเรียน และไปเจอกับคุณครูพอดี ทุกคนจึงทราบเรื่อง

ด้านคุณครูปริญญา แก่นจันทร์ ซึ่งเป็นครูสอนชั้นอนุบาล และเป็นคนที่วิ่งมาดูที่รถเป็นคนแรก และพบว่าคุณพ่อของเด็กๆ เสียชีวิตอยู่ภายในรถ บอกว่า ตอนนั้นราว 1 ทุ่ม เห็นน้องวิ่งมาบนถนนเพื่อไปหาพี่สาวที่นั่งรอพ่ออยู่ในโรงเรียน และบอกว่าพ่อนอนหลับอยู่ในรถตั้งแต่เช้า ปลุกไม่ตื่น จึงคิดว่าน่าจะไม่ใช่เรื่องปกติแล้ว จึงมาดูที่รถพบว่าพ่อนอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถ

โดยก่อนหน้านี้คุณครูพยายามโทรศัพท์ไปหาพ่อแล้ว เพราะปกติตอนประมาณ 3 โมง จะมารับลูกที่โรงเรียนแล้ว แต่วันนี้มารับช้า แต่ตอนโทร.ไปลูกสาวคนเล็กรับสาย แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง บอกแค่ว่าพ่อหลับอยู่ ซึ่งตอนที่พี่สาวนั่งรอพ่ออยู่ที่โรงเรียนจนกระทั่งค่ำ ครูก็อยู่เป็นเพื่อนตลอดเพื่อรอจนกว่าพ่อจะมารับ


ส่วนน้องที่เป็นพี่สาวบอกว่า ในช่วงเช้าพ่อได้ขับรถมาส่งพวกตนที่โรงเรียนตอนประมาณ 7 โมงกว่าๆ โดยมาส่งตนก่อนที่หน้าโรงเรียน และวนไปส่งน้องที่ชั้นอนุบาลที่อยู่ด้านหลัง และปกติพ่อจะป้อนข้าวให้น้องทุกวันก่อนที่จะเข้าโรงเรียน แต่วันนี้พ่อมารับช้ากว่าปกติมาก คิดว่าน่าจะติดธุระ รอจนกระทั่งค่ำ และน้องวิ่งมาบอกว่าพ่อนอนหลับอยู่ในรถ กระทั่งมารู้ว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว และพ่อมีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจด้วย

นอกจากนี้ จากการสอบถามคนที่รู้จักกับครอบครัวนี้ บอกว่า ทุกวันนายภาษิต จะขับรถมาส่งลูกในตอนเช้าเป็นประจำ โดยจะไปส่งลูกสาวคนโตที่หน้าโรงเรียนก่อน และจะวนมาส่งลูกคนเล็กที่ชั้นอนุบาลซึ่งอยู่ด้านหลัง และทุกครั้งจะป้อนข้าวลูกคนเล็กก่อนเสมอ ก่อนที่จะไปส่งเข้าเรียน

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุทางคุณครูได้รับตัวพี่น้องทั้ง 2 คนไปดูแลชั่วคราว เนื่องจากอยู่กับพ่อเพียงลำพัง โดยมีบ้านพักอยู่ในพื้นที่ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ ส่วนแม่ทราบว่าทำงานอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ระหว่างนี้ครูจะดูแลหนูน้อยทั้ง 2 คนไปก่อน จนกว่าแม่จะกลับมา และดูว่ามีญาติพี่น้องอยู่ในพื้นที่หรือไม่ ส่วนศพของนายภาษิต จะส่งไปชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตอีกครั้งที่โรงพยาบาลหาดใหญ่




กำลังโหลดความคิดเห็น