พังงา - ตำรวจพังงาโชว์ฝีมือแกะรอยตามรวบคนร้ายก่อเหตุกระชากสร้อยคอคุณยาย อายุ 74 ปี จนตกเก้าอี้หัวกระแทกพื้น ได้สร้อยคอนาก พร้อมพระเครื่องมูลค่า 25,000 บาท นำไปขายเอาเงินไปใช้หนี้หลังตกงานจากโควิดระบาด
จากเหตุการณ์ เมื่อเวลา 15.25 น. วันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ นางสัญญา ยกเชื้อ อายุ 74 ปี นั่งอยู่ที่ร้านกาแฟริมถนน หน้าบ้านเลขที่ 49 ม.1 ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา มีคนร้ายเป็นชายไทย อายุ 35-40 ปี สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ ขับรถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน จอดรถริมถนน เข้ามาทางด้านหลังผู้เสียหาย และเรียกผู้เสียหายว่า “ยาย” เมื่อผู้เสียหายหันไปดู คนร้ายก็กระชากสร้อยคอนากของผู้เสียหาย โดยดึงสร้อยเพียง 1 ครั้ง สร้อยคอก็ขาดหลุดติดมือของคนร้ายไป ส่วนผู้เสียหายตกจากเก้าอี้หัวทิ่มลงพื้น จากนั้นคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางบ้านในตลาดทุ่งมะพร้าว ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณเท้า และข้อมือมีอาการปวดเมื่อย ทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปประกอบด้วย สร้อยคอนากน้ำหนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้น ราคา 15,000 บาท พระเครื่อง 3 องค์ รวมมูลค่าทรัพย์สิน 25,500 บาท
ล่าสุด เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ (11 ต.ค.) ที่ สภ.ท้ายเหมือง พล.ต.ต.ณฐกรญ์ กาญจนาภรณ์ ผบก.ภ.จว.พังงา พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมคิด บุญรัตน์ รอง ผบก.ภ.จว.พังงา พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ่งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.พังงา ร่วมแถลงข่าวจับกุมตัวนายมงคล ปรีชฎา อายุ 36 ปี ชาว ต.ลำภี อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา พร้อมด้วยของกลาง พระเครื่อง 3 องค์ รถจักรยานยนต์ และชุดเสื้อผ้าที่สวมใส่วันก่อเหตุ ขณะสร้อยคอนากผู้ต้องหาให้การว่านำไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองพังงา เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้เงินมา 14,000 บาท แล้วนำไปชำระหนี้หมดแล้ว ขณะที่ทางร้านทองได้แจ้งว่าได้ส่งไปหลอมที่โรงหลอมในพื้นที่ กทม. แล้ว
โดยหลังจากเกิดเหตุทางชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพังงา และชุดสืบสวน สภ.ท้ายเหมือง ได้ลงพื้นที่ติดตามสืบสวนมาโดยตลอด โดยการแกะรอยจากกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี ซึ่งพบว่ารถคนร้ายหายไปในช่วงบ้านบกปุย ต.ลำภี อ.ท้ายเหมือง คาดว่าคนร้ายรายนี้น่าจะอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง และในช่วงเที่ยงวันนี้เจ้าหน้าที่ได้พบรถจักรยานยนต์ที่มีลักษณะตรงกันกับคันที่ใช้ก่อเหตุที่บริเวณข้างบ้านเลขที่ 54 ม.1 ต.ลำภี อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา และได้พบ นายมงคล ปรีชฎา จากการสอบถาม นายมงคล ได้ยอมรับว่าตนเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในวันเวลาที่เกิดเหตุจริง เพราะต้องการหาเงินมาใช้หนี้หลังจากตกงานจากสถานการณ์โควิด-19