xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านช่วยกันทำ “เหนียวต้ม” ร่วมประเพณีแข่งโพนชักพระเดือน 11 จ.ตรัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตรัง - ชาวบ้านทุกเพศ ทุกวัยช่วยกันทำ “เหนียวต้ม” หรือ “ข้าวต้มลูกโยน” ขนมแห่งศรัทธาของชาวปักษ์ใต้กันอย่างคึกคัก เพื่อเตรียมนำไปถวายแด่พระพุทธเจ้า ในประเพณีแข่งโพนชักพระเดือน 11 จ.ตรัง

ที่วัดลำภูรา ต.ลำภูรา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ชาวบ้านในพื้นที่ ทั้งหญิงชายกว่า 50 คน ได้ชักชวนกันมาเร่งทำ “เหนียวต้ม” หรือแทงต้ม (ภาษาใต้) หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ “ข้าวต้มลูกโยน” โดยแบ่งหน้าที่กัน หากเป็นผู้สูงอายุหน่อยก็จะนั่งสอนลูกหลานให้หัดห่อใบกะพ้อ บ้างก็แบ่งกันนำข้าวเหนียวใส่ลงไปในใบกะพ้อ บางคนก็แบ่งหน้าที่กันไปผัดเหนียว บ้างก็นั่งตัดใบกะพ้อ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เพราะตั้งใจทำด้วยความศรัทธา

“เหนียวต้ม” เป็นอีกหนึ่งขนมสำคัญด้วยแรงแห่งศรัทธา ที่พี่น้องชาวภาคใต้แต่ละครัวเรือนนิยมทำกันเพื่อใส่บาตรในวันออกพรรษา อีกทั้งทำตามความเชื่อที่ว่าเป็นการทำถวายแด่พระพุทธเจ้า คราวที่พระองค์เสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และชาวบ้านทางใต้นิยมนำไปวางในเรือพระ ในประเพณีแข่งโพนชักพระ ช่วงเดือน 11 ของทางภาคใต้ ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 11 ตุลาคม 2565

โดย “เหนียวต้ม” เป็นขนมที่ทำจากข้าวสารเหนียว เอามาผัดกับหัวกะทิ น้ำตาล และเกลือ บางครั้งอาจจะใส่ถั่วด้วย เพื่อเพิ่มรสชาติให้ขนมนั้นอร่อยน่ากินมากขึ้น โดยนำมาห่อกับใบกะพ้อให้เป็นรูปสามเหลี่ยม แล้วนำไปนึ่งด้วยซึ้งหรือต้ม แล้วแต่ความนิยม


ทั้งนี้ จะมีการอาราธนาพระพุทธรูป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพระพุทธรูปปางเสด็จจากดาวดึงส์ หรือปางอุ้มบาตร ขึ้นมาประดิษฐานบนบุษบก หรือเรือพระ ที่แต่ละวัดจะหาช่างฝีมือที่มีความชำนาญ ช่วยกันตกแต่งเรือพระให้สวยงาม เพื่อนำเข้าร่วมประกวดแข่งขัน นอกจากนั้น พุทธบริษัทในละแวกวัดจะช่วยกันทั้งกำลังกาย และกำลังทรัพย์ โดยบางวัดอาจใช้เวลาตกแต่งนานเป็นแรมเดือน และใช้งบประมาณนับหมื่นนับแสนบาทเลยทีเดียว

ปัจจุบันได้มีการดัดแปลงจากเรือ มาเป็นรถหรือล้อเลื่อน เพื่อความสะดวกในการชักลากมาตามถนนหนทาง แล้วนิมนต์พระภิกษุในวัดนั้นๆ ขึ้นนั่งประจำเรือพระ จากนั้นจะมีการลากพระเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อให้ชาวพุทธได้ออกมาร่วมกันทำบุญ และถวายต้ม โดยจะมีพุทธศาสนิกชน และศิษย์วัดเดินตามมาด้วย พร้อมกับบรรเลงเครื่องดนตรีประโคมไปตลอดทาง มีทั้งทับโพน กลอง ฆ้อง โหม่ง ฉิ่ง และฉาบ พร้อมด้วยนางรำหน้าขบวน


พระครูกิตติญาณวิมล เจ้าอาวาสวัดลำภูรา บอกว่า กิจกรรมลากเรือพระของ จ.ตรัง ห่างหายไปตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 โดยเมื่อปี 2563 เป็นปีล่าสุดที่ได้ร่วมกิจกรรมลากพระของ จ.ตรัง และวัดลำภูรา ได้รางวัลที่ 1 ในการประกวดเรือพระ ปีนี้จึงไม่ได้ส่งเรือพระเข้าประกวด เพียงแต่ลากไปโชว์ที่ลานเรือพระ ซึ่งบรรยากาศการลากพระจะสนุกสนาน เพราะชาวบ้านให้ความสำคัญกับวันสำคัญทางพุทธศาสนาดังกล่าวมาก

ทั้งนี้ ก่อนวันลากเรือพระ ชาวบ้านจะมารวมตัวกันเพื่อทำข้าวต้มลูกโยน เพื่อใช้สำหรับทำบุญตักบาตรเทโว แจกให้ชาวบ้านที่มาทำบุญเรือพระ และแขวนบนเรือพระตามความเชื่อ โดยวัตถุดิบที่นำมาทำเหนียวต้ม หรือข้าวต้มลูกโยน ชาวบ้านจะนำมาช่วยงาน ทั้งข้าวเหนียว มะพร้าว ใบกะพ้อ ถั่ว ซึ่งการรวมตัวของชาวบ้านเพื่อทำเหนียวต้ม นอกจากเป็นงานบุญแล้ว ยังเป็นการเสริมความสามัคคีของชาวบ้านอีกด้วย






กำลังโหลดความคิดเห็น