นครศรีธรรมราช - ตำรวจฝากขัง 2 หนุ่มพกยาบ้า-ปืนไปรอรับลูกหน้าโรงเรียนแล้วเจอ 8 ข้อหา ยังมีรายงานคลั่งยาบ้ารายวันในหลายอำเภอของนครศรีธรรมราช ผวจ.จ่องัด พ.ร.บ.สุขภาพจิตกักบริเวณ เหตุกฎหมายให้เป็นผู้ป่วย ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่สวนใครจะมารักษาดูแล ท้ายสุดไฟไหม้ฟางเงียบไปเหมือนโรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง
วันนี้ (8 ต.ค.) จากกรณีที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองปราบปราม และ สภ.ร่อนพิบูลย์ ได้เข้คุมตัวชาย 2 ราย ที่หน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งในท้องที่หมู่ 1 ตำบลควนพัง อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยผู้ขับขี่ได้พยายามหลบหนีด้วยการชนรถเจ้าหน้าที่ จนเจ้าหน้าที่ต้องใช้ยุทธวิธียิงยางรถยนต์ และชาร์จจับกุมไว้ได้ พร้อมกับยึดของกลางที่อยู่ในรถเป็นอาวุธปืนยาวขนาด .22 อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.พร้อมเครื่องกระสุน และยาบ้าอีกจำนวน 17 เม็ดนั้น
พ.ต.อ.สุทัศน์ สงสยม ผู้กำกับการ สภ.ร่อนพิบูลย์ เปิดเผยว่า ได้นำผู้ต้องหาทั้ง 2 รายฝากขังแล้ว โดยถูกแจ้ง 7 ข้อหาคือ 1.ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ 2.ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวโดยไม่ได้รับใบอนุญาต 4.ร่วมกันพาอาวุธมีด 5.มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครอง 6.เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และ 7.ทำให้เสียทรัพย์ เว้นรายรายแรกที่เป็นผู้ขับขี่นั้นมีข้อหาเพิ่มอีก 1 ข้อหาคือ ขับรถขณะมีสารเสพติดในร่างกาย
ขณะที่นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เรียกประชุมกรมการจังหวัด รวมทั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ซึ่งโดยกฎหมายหลักแล้วจะทำอะไรไม่ได้กับกลุ่มคนพวกนี้ ซึ่งถือเป็นผู้ป่วย แต่ขณะนี้ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่า ฝ่ายบ้านเมืองจะมีอำนาจตาม พ.ร.บ.สุขภาพจิต พ.ศ.2551 โดยจะต้องให้มีการคัดกรองบุคคลที่เสพยาแล้วสุ่มเสี่ยงที่จะคลุ้มคลั่ง หรือมีพฤติกรรมทำนองคลุ้มคลั่งอยู่แล้วเข้ามาอยู่ในความดูแล ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาดูพื้นที่ของค่ายอาสาสมัครรักษาดินแดนที่ 1 ของนครศรีธรรมราช เป็นที่กักตัวดูแลคนพวกนี้
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าพื้นที่นครศรีธรรมราช มีทั้งหมด 23 อำเภอ มีประชากรราว 1.5 ล้านคน ศูนย์วิทยุ 191 ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางในการรับแจ้งเหตุฉุกเฉินตลอด 24 ชม.ทั้งจังหวัดจะมีการรับแจ้งเหตุบุคคลเมายาเสพติดคลุ้มคลั่งหลายรายต่อวัน สร้างความลำบากใจให้เจ้าหน้าที่อย่างมาก
เจ้าหน้าที่ระดับสูงในจังหวัดที่เกี่ยวข้องได้ให้ข้อมูลเชิงลึกถึงสภาพปัญหาหลักคือ กฎหมายอ่อนมาก ดำเนินการเป็นรูปธรรมไม่ได้ กล่าวคือ คนก่อเหตุติดยาเสพติดถือเป็นคนป่วย ตามกฎหมายใหม่ให้พาไปรักษา แต่กลับไม่มีสถานที่รักษารองรับ เวลาคนป่วยเหล่านี้คลั่งอาละวาดขึ้นมา ตำรวจทำอะไรไม่ได้มาก เพราะเขาคือคนป่วยได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ทำอะไรมากไปตำรวจก็อันตรายเอง และญาติจ้องเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ถ้าเกิดรุนแรงไป
เมื่อเจ้าหน้าที่คุมตัวได้ แต่โรงพยาบาลก็ปฏิเสธอีก เพราะบุคลากรทางการแพทย์มานั่งเสี่ยงกับการคลั่งหรือความรุนแรงโดยไม่จำเป็น เอาเวลาไปรักษาผู้ป่วยด้วยโรคภัยไข้เจ็บดีกว่า เมื่อญาติรับคนป่วยกลับบ้านแล้วเกิดเหตุรุนแรงซ้ำแล้วซ้ำอีก เหตุการณ์ลูกฆ่าพ่อแม่ พ่อแม่จำต้องฆ่าลูกเพราะลูกคลุ้มคลั่ง มีให้เห็นบ่อยครั้ง ความรุนแรงเช่นนี้จะเกิดขึ้นอีกหากกฎหมายยังเป็นเช่นนี้
ส่วนแนวคิดของผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นต้องถามต่อว่า ใครจะมาดูแลรักษา แพทย์พยาบาล หรือ อส.ของผู้ว่าราชการจังหวัด ไฟไหม้ฟางทำนองนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว กรณีโรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง ที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ ในที่สุดหายไปโดยไม่มีผลสัมฤทธิ์เกิดขึ้นเลย
อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง
๐ รวบหนุ่มทะเลาะเมียพกยาบ้า-ปืน ขับรถจะไปรับลูกที่โรงเรียน ระแวงเมียพาลูกหนีกลับโคราช