ตรัง - เกษตรกรสาวชาว อ.ห้วยยอด จ.ตรัง หัวสมัยใหม่หันมาทำเกษตรผสมผสาน แบ่งพื้นที่ปลูก “มะพร้าวน้ำหอม” เพียงแค่ 1 ไร่เศษ แต่สร้างรายได้เสริมให้ตลอดปีอย่างงาม ขณะที่ตลาดต้องการไม่อั้น
ที่บ้านเลขที่ 68 หมู่ 5 ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง นางลัดดาวัลย์ ชะนะศรี อายุ 44 ปี ซึ่งนอกจากประกอบอาชีพทำสวนยางพารา และทำการเกษตรแบบผสมผสานเป็นอาชีพหลักแล้ว ยังแบ่งพื้นที่อีกประมาณ 1 ไร่เศษ ทำการปลูกมะพร้าวน้ำหอม รวมประมาณ 150-200 ต้น และเริ่มออกจานตั้งแต่อายุได้ 2 ปี 8 เดือน หลังจากนั้นให้ผลผลิตเรื่อยมา โดยขณะนี้อายุมะพร้าวน้ำหอมเข้าสู่ปีที่ 6 และจะมีพ่อค้าประจำมาตัดรับซื้อถึงสวนในราคาส่งลูกละ 8-10 บาท
ทั้งนี้ กำหนดรอบตัด 20 วันครั้ง ตัดได้รอบละประมาณ 400 กว่าลูก สร้างรายได้เสริมให้เดือนละ 6,000-8,000 บาท หรือปีละ 70,000 บาท ซึ่งมะพร้าวน้ำหอมไม่ต้องกังวลตลาด เพราะมีลูกค้าประจำ และให้ผลผลิตสม่ำเสมอ ส่วนราคาไม่เคยตกต่ำไปกว่านี้ ขณะที่ต้นทุนไม่มาก แค่ใส่มูลด้วงสาคู (ขี้ด้วง) และเสริมด้วยขี้ไก่แกลบ โดยไม่ต้องใส่ปุ๋ยเคมีเลย แต่จะต้องใส่เสริมด้วยเกลือปีละ 2 ครั้ง เพื่อเพิ่มความมัน และรสชาติความหวาน
นายภิญญา ปาระนะ อายุ 32 ปี ชาว ต.นาพละ อ.เมืองตรัง พ่อค้ารับซื้อมะพร้าวน้ำหอม กล่าวว่า ตนมาตัดผลผลิตเอง ทั้งนำไปเปิดท้ายขายเอง และส่งต่อให้ลูกค้าร้านอาหาร รวมทั้งร้านเครื่องดื่มในพื้นที่ โดยราคามะพร้าวน้ำหอมจะอยู่ในเกณฑ์ดีมาโดยตลอด เพราะตลาดต้องการสูง ยกเว้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งมีมะพร้าวน้ำหอมออกสู่ตลาดจำนวนมาก แม้ราคาจะตกบ้าง แต่ไม่มาก และชาวสวนไม่เคยขาดทุน เพราะหลังจากนั้นในเดือนมกราคมถึงเมษายน ซึ่งตรงกับช่วงหน้าแล้ง ราคามะพร้าวน้ำหอมจะพุ่งสูงขึ้นไปอีก และจะแพงสุดในเดือนพฤษภาคมของทุกปี จนเคยมีราคาทะลุไปถึงลูกละ 22-23 บาท
ส่วนตัวต้องการอาทิตย์ละ 6,000 ลูก บางช่วงก็พอ แต่บางช่วงไม่พอส่ง ซึ่งจะมีออเดอร์ด้วยว่าตอนนี้ต้องการเนื้อมะพร้าวน้ำหอมแบบไหน เช่น มะพร้าวน้ำหอมสำหรับเจาะเนื้อ วันละ 10 กก. และมะพร้าวกว้านอีกวันละนับ 100 ลูก เพราะตอนนี้ร้านอาหาร หรือร้านเครื่องดื่มมีการนำเสนอเมนูที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้มีเกษตรกรหันมาปลูกมะพร้าวน้ำหอมกันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยบางแปลงปลูก 50-80 ไร่
