ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “กัน จอมพลัง” พร้อมด้วย “ทนายโนบิ” ลงพื้นที่ จ.สงขลา ช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกนายหน้าหลอกนำที่ดินไปขายเสียหายกว่า 60 ล้าน หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรมแม้จะถูกออกหมายจับแล้ว แต่ผู้ต้องหายังลอยนวลอยู่ในพื้นที่
วันนี้ (6 ต.ค.) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” พร้อมด้วย นายกฤษฎา โลหิตดี หรือทนายโนบิ ได้เดินทางลงพื้นที่อำเภอสะเดา จ.สงขลา เพื่อให้การช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียหายที่ถูกนายหน้าหลอกเอาที่ดินไปจำนองขายฝากและขายให้นายทุน ต้องสูญเสียที่ดินไป 10 ไร่ รวมมูลค่า 60 ล้านบาท
โดยได้เดินทางไปยังพื้นที่หมู่ 2 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อพบกับครอบครัวหีมโหด ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ถูก นางรัชนี ทองวง หรือเก๋ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนาทวี หลอกให้โอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่เป็นที่ดินมรดกกว่า 10 ไร่ ในช่วงปี 2564 ที่มีมูลค่าความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท
โดยเรื่องนี้เริ่มจาก นางรัชนี ที่เป็นนายหน้าค้าที่ดิน ได้เข้ามาตีสนิทกับครอบครัวของผู้เสียหาย และทราบว่าครอบครัวนี้มีที่ดินจำนวนมากและมีมูลค่าสูง จึงออกกลอุบายว่า เอกสารที่ดินที่เคยช่วยเหลือในการแบ่งแยกที่ดิน และการโอนที่ดินมรดกจากบิดามาให้ น.ส.อัญชลี หีมโหด และ น.ส.อรอนงค์ หีมโหด สองพี่น้อง โดยหลอกว่าทางสำนักงานที่ดินขอโฉนดที่ดินคืน เพื่อไปขอเลขโฉนดที่ดินใหม่ จึงทำให้ครอบครัวของผู้เสียหายเชื่อ จึงส่งมอบโฉนดที่ดินทั้งหมดไปทำการแก้ไขเลขโฉนดที่สำนักงานที่ดินอำเภอสะเดา จ.สงขลา
โดยครอบครัวนี้ได้เซ็นหนังสือมอบอำนาจและเซ็นเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ นางรัชนี นำไปจดจำนองและขายให้นายทุนของตนเองที่มีความสนิทชิดเชื้อกัน และนายทุนทั้งหมดก็เป็นพี่น้องและเป็นกลุ่มเครือญาติหรือเป็นคนรู้จักกันอย่างใกล้ชิด และยังเป็นเครือญาติของนักการเมืองท้องถิ่นด้วย
และคณะของ “กัน จอมพลัง” ยังได้เดินทางไปตรวจสอบที่ดินประมาณ 10 ไร่ของผู้เสียหาย ที่ถูกขายต่อไปยังกลุ่มนายทุน ซึ่งพบว่าได้มีการนำป้ายมาปักเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของในที่ดิน
โดยทางนายกฤษฎา โลหิตดี หรือทนายโนบิ ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่ระบุไว้บนป้าย และได้พูดคุยพร้อมแจ้งไปยังปลายสายว่า ทางผู้เสียหายได้ให้ตนไปร้องขอความคุ้มครองพื้นที่แห่งนี้จากทางศาล และศาลได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวในพื้นที่นี้แล้ว และร้องขอให้ผู้ที่อ้างว่าถือกรรมสิทธิ์ให้รื้อถอนป้ายออก โดยผลการพูดคุยสรุปว่าจะไปพูดคุยกันในชั้นศาล
ต่อมาทางคณะของ “กัน จองพลัง” พร้อมด้วยครอบครัวของผู้เสียหาย ได้เดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรสะเดา จ.สงขลา เพื่อเข้าพบกับ พ.ต.อ.บรรเทิง เหล่าเจริญ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสะเดา เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ
กัน จอมพลัง บอกว่า หลังจากที่ครอบครัวนี้ถูกนายหน้าที่ดินที่เป็นคนกว้างขวางในพื้นที่หลอกเอาที่ดินมรดกไปขายแล้วเชิดเงินหนีไป และในวันนี้ได้ให้ทางทนายโนบิ ไปร้องศาลขอคุ้มครองชั่วคราวในที่ดินทั้งหมดแล้ว และยังได้นำครอบครัวของผู้เสียหายมาพบกับท่านผู้กำกับ เพื่อให้เร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุที่มีหมายจับอยู่แล้ว ซึ่งได้รับคำตอบว่าจะเร่งดำเนินการจับกุมให้โดยเร็ว รวมทั้งสอบสวนขยายผลว่าจะมีผู้ร่วมในการกระทำความผิดครั้งนี้อีกหรือไม่ โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่
ส่วนทางผู้เสียหายคือ น ส.อรอนงค์ หีมโหด บอกว่า ก่อนหน้านี้ได้ไปปรึกษากับ นางรัชนี ในเรื่องเอกสารต่างๆ หลังจากที่บิดาเสียชีวิต เพื่อที่จะโอนที่ดินมาเป็นชื่อของพี่น้องที่เป็นทายาท และได้ดำเนินการไปจนเรียบร้อย ต่อมาช่วงปลายปี 63 นางรัชนี ได้มาขอโฉนด โดยอ้างว่า เจ้าหน้าที่ทำเอกสารผิดพลาดต้องไปออกเลขใหม่ และจะไปทำแบ่งแยกให้พี่น้องทุกคน และได้โทร.ไปถามทางเจ้าหน้าที่ที่ดินจึงทราบว่าที่ดินของครอบครัวถูกขายไปหมดแล้ว นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังแจ้งว่า นางรัชนี ได้พาน้องสาวไปทำสัญญาเช่าที่ดินตัวเองในราคาเดือนละ 90,000 บาทด้วย
ส่วนทางด้านคดีนั้นทาง พ.ต.อ.บรรเทิง เหล่าเจริญ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสะเดา บอกว่า จะให้ความมั่นใจกับผู้เสียหาย สอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยความเป็นธรรม และจะติดตามผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้เร็วที่สุด เพราะพบว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมไปหลอกลวงประชาชนอีกหลายราย