xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มสตูลใช้นวัตกรรมการเลี้ยง “สาหร่ายขนนก” ในระบบน้ำหมุนเวียนแบบปิด จนสามารถหากินได้ตลอดทั้งปีแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สตูล - หนุ่มสตูลดีกรีปริญญาโท ใช้นวัตกรรมการเลี้ยง “สาหร่ายขนนก” หรือลาโตส อาหารพื้นถิ่นให้สามารถกินได้ตลอดทั้งปีแล้ว ในระบบน้ำหมุนเวียนแบบปิด พร้อมส่งต่อชุมชนสร้างงานและรายได้

ที่ศูนย์เรียนรู้นครรีละงูปาร์ค ตั้งอยู่ที่หมู่ 2 บ้านควนสำราญ ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล ซึ่งมี นายวศินะ รุ่งเรือง หนุ่มสตูลวัย 28 ปี ดีกรีปริญญาโท สาขาประมง ได้พาชมโรงเรือนเลี้ยงสาหร่ายขนนก หรือลาโตส ซึ่งเป็นนวัตกรรมการเลี้ยงสาหร่ายขนนกในระบบน้ำหมุนเวียนแบบปิด บนพื้นที่ 30 ไร่ แห่งเดียวใน จ.สตูล

เป็นการนำสาหร่ายในธรรมชาติผ่านการเพาะเลี้ยงแบบอินทรีย์ในระบบน้ำหมุนเวียนแบบปิด จนสามารถเลี้ยงสาหร่ายลาโตสจากพ่อแม่พันธุ์ธรรมชาติ ให้เกิดเป็นสปอร์ในโรงเรือนแบบปิดได้หลายต่อหลายรุ่น จากการลองผิดลองถูก จนขยายต้นอ่อนสู่ระบบการเลี้ยงในฟาร์ม นับเป็นความท้าทาย และมุ่งมั่นกว่าจะมาถึงวันนี้


“สาหร่ายขนนก” มีการดูแลคล้ายปะการังที่อ่อนไหวง่าย การเพิ่มคาร์บอนธาตุเพื่อการสังเคราะห์แสงในพืช อาหารจุลินทรีย์ย่อยเป็นแร่ธาตุไนโตรเจน ซึ่งการเลี้ยงจะใช้ 1 ตะกร้า มีสาหร่าย 100 กรัม ผ่านไป 2 สัปดาห์จะมีสาหร่ายเพิ่มขึ้น 300 กรัม ทำให้เราตัดแยกออก (เหมือนเก็บตัดผักบุ้งได้ตลอดทั้งปี) โดยจะส่งขายกิโลกรัมละ 200-250 บาท (ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขอมาตรฐานผลิตภัณฑ์อินทรีย์)

นอกจากนี้ ที่ศูนย์เรียนรู้นครรีละงูปาร์ค ยังร่วมกับมูลนิธิยูนูส สร้างโมเดลธุรกิจการเลี้ยงสาหร่ายขนนกในถัง เพื่อส่งต่อความรู้ให้ชุมชน เป็นการสร้างงานและรายได้ และอนุรักษ์สาหร่ายให้อยู่คู่กับชุมชน และชาวสตูลตลอดไป หลังพบว่าสาหร่ายชนิดนี้กำลังหากินได้ยากขึ้น เนื่องจาก 1 ปีมีให้รับประทานเพียง 3 เดือนแล้วเท่านั้น ที่เป็นช่วงฤดูแล้งและร้อนจัด เพราะไม่ชอบฝน


นายวศินะ รุ่งเรือง หรือน้องม่อน บอกว่า จุดเริ่มต้นของการหันมาเลี้ยงสาหร่ายขนนก หรือลาโตส เพราะความชอบกิน และเห็นว่าสาหร่ายชนิดนี้มีเฉพาะฤดูร้อนเท่านั้นที่จะหามากินได้ เชื่อว่าตลาดมีความต้องการสูง และจะทำอย่างไรให้มีผลผลิตออกมาตลอดทั้งปี อีกทั้งชุมชนมีรายได้ จึงเป็นที่มาของการตั้งศูนย์การเรียนรู้ในครั้งนี้

จุดเริ่มต้นเลี้ยงมาถึง 4 ปี ปีแรกสนุกและตื่นเต้นมากกับสิ่งที่ทำ แม้จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ มาปีที่ 2 และปีที่ 3 รู้ความต้องการของสาหร่ายชนิดนี้ และสามารถเพาะเลี้ยงเองได้ จนวันนี้สามารถให้ผลผลิตเก็บได้ทุกวันๆ ละ 20-60 กก. สร้างรายได้หลักหมื่นบาท เป้าหมายจะขยายบ่อเลี้ยงพร้อมทำงานร่วมกับมูลนิธิยูนูส สร้างอาชีพเสริมโมเดลสู่ชุมชน ต่อยอดเป็นอาชีพ รายได้เดือนที่ 3-4 สามารถหลุดทุนได้ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีบ่อตกปลา มีค่ายเรียนรู้ฟาร์มสเตย์ ครัวในฟาร์ม และศูนย์เรียนรู้อนุรักษ์ป่าชายเลนอีกด้วย


ด้านนายอดิศักดิ์ รุ่งเรือง พ่อของน้องม่อน ซึ่งมีดีกรีเป็นปราชญ์ปลานิล กล่าวว่า สำหรับการกินสาหร่ายขนนก หรือลาโตส ซึ่งมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม ทำให้ต้องกินแบบสดๆ ไม่สามารถนำไปแช่ตู้เย็นได้ และเป็นอาหารท้องถิ่นชั้นเลิศ ซึ่งทางศูนย์ฯ เห็นว่านี่คือจุดแข็ง ทำให้ผู้บริโภคที่ชื่นชอบต้องมาหากินได้ที่ จ.สตูล เท่านั้น อีกทั้งการกอนหากรู้เคล็ดลับจะกินสาหร่ายด้วยความอร่อย โดยเฉพาะสาหร่ายของที่นี่เลี้ยงแบบอินทรีย์ ไม่มีสิ่งสกปรก ก่อนรับประทานเพียงนำสาหร่ายที่ต้องการจะกินไปจุ่มน้ำ 1-2 ครั้ง ยกใส่จานราดด้วยน้ำจิ้มขี้แซะ (ที่มีส่วนผสมของถั่วป่น มะพร้าวคั่ว กะปิ และพริก) กินพอดีคำก็จะอร่อย

สำหรับสรรพคุณของ “สาหร่ายขนนก” มีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระ มีวิตามิน ไอโอดีน และกรดอะมิโนหลายชนิดที่พืชบกไม่มี






กำลังโหลดความคิดเห็น