ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ขนส่งจังหวัดสั่งพักใบอนุญาตคนขับแท็กซี่-แอป 30 วัน หลังมีเหตุต่อหน้านักท่องเที่ยว ปรับคนขับรถแอปอีก 2,000 บาท หลังตรวจสอบพบใช้แอปพลิเคชันที่ยังไม่ได้รับอนุญาต
จากกรณีที่มีการเผยแพร่ทางโซเชียลและสื่อต่างๆ กรณีคนขับรถรับจ้างกลุ่มหนึ่งไปล้อมรถให้บริการเรียกผ่านแอป จนมีปัญหาทะเลาะกันและมีการทุบรถคู่กรณีจนเกิดความเสียหาย และมีการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ขนส่งภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการเรียกคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย มาสอบสวนและดำเนินการการตามกฎหมาย โดยมีการปรับคนขับบริการเรียกผ่านแอปกรณีใช้แอปพลิเคชันที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ไม่ได้รับอนุญาตจากกรขนส่ง จำนวน 2,000 บาท และพักใช้ใบอนุญาต 30 วัน ส่วนคู่กรณีที่ทุบรถมีการชดใช้ค่าเสียหาย และพักใบอนุญาต 30 วันเช่นกัน
ขณะที่ พล.ต.ต.เสริมพันธ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกรณีที่มีรถยนต์รับจ้างซึ่งมีลูกค้าเรียกผ่านแอปพลิเคชันให้มารับลูกค้าที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลกมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ขณะกำลังจอดรับนักท่องเที่ยวขึ้นรถ ได้มีกลุ่มแท็กซี่ในบริเวณดังกล่าวจำนวน 3-4 คน มาล้อมรถและใช้มือทุบรถจึงเป็นเหตุให้รถยนต์ด้านหน้าบุบ ทางเจ้าของรถได้ขับรถคันที่เกิดเหตุไปแจ้งความที่ สภ.กมลา
และเจ้าหน้าที่ สภ.กมลา ได้เดินทางมาตรวจสอบยังที่เกิดเหตุและได้พบกลุ่มชายฉกรรจ์ทั้ง 3-4 คนนั้น โดยเจ้าของรถได้ชี้ตัวยืนยันคนที่ทุบรถทำให้เกิดความเสียหาย หลังจากนั้นได้มีการเจรจาพูดคุยกัน ซึ่งคนขับแท็กซี่ยอมรับว่าเป็นผู้ที่เคาะหรือทุบรถคันดังกล่าวจริง ทางผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดี ปรากฏว่า นายวิลาส ได้ยินยอมชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นเงิน 5,000 บาท และทั้ง 2 คนได้แยกย้ายกันไป
หลังจากนั้นได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จิระศักดิ์ เสียมศักดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.ชัยพฤกษ์ ผาติวรากร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกมลา และ พ.ต.ท.สาธิต หนูฤทธิ์ รองผู้กำกับการจราจร สภ.เมืองภูเก็ต ประสานไปยังขนส่งจังหวัดภูเก็ตเพื่อให้เรียกตัวคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย มาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
จากการตรวจสอบพบว่า คนขับรถที่ได้รับความเสียหายใช้แอปพลิเคชันที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากใช้แอปพลิเคชันที่ไม่ได้รับอนุญาตจากขนส่ง ทางขนส่งจังหวัดได้มีการใช้อำนาจใน พ.ร.บ.รถยนต์ ในมาตรา 21 ปรับเป็นเงินจำนวน 2,000 บาท ในข้อหาใช้รถผิดประเภท และพักใช้ใบอนุญาตขับรถจำนวน 30 วัน ส่วนคู่กรณีมีความผิดในข้อหาทำลายความสงบสุขของประชาชนในถนนหรือทางหลวง ขู่เข็ญดูหมิ่นรังแกหรือรบกวนคนขับรถหรือผู้โดยสาร ตามมาตรา 54(4) พ.ร.บ.รถยนต์ และยึดใบอนุญาตขับรถเป็นเวลา 30 วัน
พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ กล่าวต่อไปว่า ขอฝากให้ทุกคนทราบว่าการจะประกอบอาชีพอะไรก็แล้วแต่จะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายที่กำหนด ทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต จะดำเนินการต่อผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม และเพื่อให้เกิดความสงบสุข เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวให้จังหวัดภูเก็ต และเป็นการสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวด้วย
