xs
xsm
sm
md
lg

เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 2 “อ่าวมะขาม มารีน่า” เคลียร์ปัญหาที่จอดเรือประมง เดินหน้าโครงการ วางแผนเปิดปี 68

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - บริษัท อ่าวมะขามเบย์ มาริน่า ร่วมกับบริษัทที่ปรึกษา เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นโครงการอ่าวมะขาม มารีน่า ครั้งที่ 2 พร้อมเคลียร์ปัญหาที่จอดเรือประมงพื้นบ้าน ด้วยการกันพื้นที่จอดเรือและขุดลอกร่องน้ำ ตั้งเป้าปี 68 เปิดให้บริการ


วันนี้ (29 ก.ย.) บริษัท มะขามเบย์ มาริน่า จำกัด ร่วมกับบริษัท คอนซัลแทนท์ ออฟ เทคโนโลยี จำกัด จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชน ครั้งที่ 2 โครงการท่าเรือสำราญและกีฬาอ่าวมะขาม ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.7 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อนำเสนอรายละเอียดผลการศึกษาออกแบบและการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการมาเสนอรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่และมีผู้ส่วนได้เสียกับโครงการดังกล่าว โดยมี ตัวแทนจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กลุ่มประมงพื้นบ้าน และประชาชนเข้าร่วม ณ โรงแรมเคปพันวา จ.ภูเก็ต


สำหรับโครงการท่าเรือสำราญและกีฬาอ่าวมะขาม เป็นการลงทุนโดยบริษัท มะขาม เบย์ มาริน่า จำกัด ในพื้นที่ราชพัสดุแปลงที่ ภก.308 หมู่ที่ 7 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ภายในโครงการประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ ท่าเทียบเรือสำราญและกีฬา (มารีน่าจอดเรือยอชต์) โรงแรม และพื้นที่การพาณิชย์ โดยมีเป้าหมายดำเนินการให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาจังหวัดภูเก็ตในการผลักดันและส่งเสริมการพัฒนา Marina Hub เพื่อให้ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวทางทะเลระดับโลก


การนำเสนอรายละเอียดในส่วนของโครงการท่าเรือยอชต์ ครั้งที่ 2 นี้ เป็นการนำเสนอข้อมูลรายละเอียดโครงการที่ได้มีการศึกษาเพิ่มเติมจากการนำเสนอในเวทีเปิดรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 1 ซึ่งได้มีการนำเสนอการดำเนินการในส่วนของพื้นที่บนบกและพื้นที่ในทะเล โดยพื้นที่ในทะเลนั้น เป็นท่าจอดเรือยอชต์แบบทุ่นลอย สามารถรองรับเรือยอชต์ที่มีความยาวระหว่าง 12-50 เมตร ได้ทั้งหมด 120 ลำ พร้อมบริการสาธารณูปโภคต่างๆ ในส่วนพื้นที่บนบก ประกอบด้วย การบริหารน้ำมันเรือ ระบบประปา ระบบไฟฟ้า อาคารซ่อมบำรุง พื้นที่ทำความสะอาดเรือ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้นำเสนอผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและชุมชน รวมไปถึงมาตรการต่างๆ ในการป้องกันผลกระทบที่เกิดขึ้นระหว่างการก่อสร้างและหลังการก่อสร้าง


โดยเฉพาะในส่วนของผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับชาวประมงพื้นบ้าน ที่ใช้พื้นที่ในบริเวณเดียวกับโครงการเป็นจุดจอดเรือประมง ทางโครงการได้หารือร่วมกับชาวประมงและมีการปรับโครงการให้เหมาะสมสำหรับการใช้พื้นที่ร่วมกัน โดยการกันพื้นที่บางส่วนสำหรับเป็นที่จอดเรือประมง ห่างจากชายฝั่งประมาณ 40 เมตร เรือประมงสามารถจอดได้ถึง 40-50 ลำ พร้อมทั้งมีการขุดลอกร่องน้ำเพื่อให้เรือประมงสามารถเข้าออกได้ตลอดทั้งวัน



นอกจากนี้ ทางโครงการและบริษัทที่ปรึกษายังไปศึกษาและกำหนดแนวทางข้อกังวลของนักวิชาการถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับแนวปะการังและหญ้าทะเลในการประชุมรับฟังความคิดเห็นประชาชน ครั้งที่ 1 โดยในการสำรวจพบแหล่งหญ้าทะเลอยู่บริเวณโครงการแต่ไม่สมบูรณ์และมีแนวโน้มที่เสื่อมโทรมลง ซึ่งมีสาเหตุมาจากตะกอนที่ตกทับถมในแหล่งหญ้าทะเล ซึ่งทางโครงการได้นำเสนอข้อมูลดังกล่าวไปปรึกษากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและได้กำหนดมาตรการรองรับด้านต่างๆ รวมไปถึงปลูกหญ้าทะเลทดแทนในพื้นที่ที่เหมาะสม รวมไปถึงแนวปะการังอยู่ในสภาพที่เสื่อมโทรมและเป็นซากปะการัง ซึ่งในส่วนนี้ทางโครงการจะไม่เข้าไปดำเนินการในพื้นที่ที่มีปะการัง


อย่างไรก็ตาม หลังจากรับฟังความคิดเห็นในครั้งที่ 2 แล้ว ทางโครงการและบริษัทที่ปรึกษาจะรวบรวมประเด็นต่างๆ ที่ได้รับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมลงในการศึกษารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพื่อขอความเห็นชอบจาก สผ.และคาดว่าทาง สผ.จะเห็นชอบรายงานดังกล่าวภายในปี 2566 หลังจากนั้นจะทำการก่อสร้างเป็นเวลา 2 ปี ตามแผนที่วางไว้จะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2568


กำลังโหลดความคิดเห็น