พัทลุง - "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. แถลงข่าวกรณีคนร้ายแก๊งเงินกู้โหด จ้างวานฆ่าลูกหนี้ถึงบ้านในพื้นที่ จ.พัทลุง พบเคยต้องโทษจำคุก ก่อนออกมากระทำผิดต่อเนื่อง
จากกรณีเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยิง นายณรงค์ นิลโชติ อายุ 62 ปี เจ้าของร้านนายหัวคาราโอเกะ เสียชีวิต 1 ราย และนางวรรณดี จรเสมอ อายุ 51 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.ทะเลน้อย จ.พัทลุง ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนมากถึง 15 ปลอก ตามที่ปรากฏตามข่าว และสื่อโซเชียลนั้น
ล่าสุด วานนี้ (26 ก.ย.) กรณีดังกล่าว พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.9 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนให้เร่งติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญในครั้งนี้โดยเร่งด่วน จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ผู้เสียชีวิตมีสาเหตุโกรธเคืองอยู่กับ นางจีระวรรณ หรือเจ๊นก มูสิกรักษ์ อายุ 47 ปี ซึ่งมีอาชีพปล่อยเงินกู้นอกระบบ โดยสืบทราบว่าผู้เสียชีวิตได้กู้เงินจากนางจีระวรรณ เป็นเงินรวม 30,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 30 ต่อเดือน แต่นายณรงค์ ผู้เสียชีวิตไม่สามารถชำระค่างวด และดอกเบี้ยได้ อีกทั้งนายณรงค์ และนางวรรณดี (เป็นพยานปากสำคัญ) ซึ่งกำลังจะขึ้นให้การต่อศาล ในคดีที่บุตรชายของนางจีระวรรณ ตกเป็นผู้ต้องหาในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ต่อมา เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 22 กันยายน 2565 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้สังการให้ พ.ต.อ.ภาคิน ณ ระนอง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรพัทลุง พ.ต.อ.บรรพต เดชมา ผกก.สืบสวน 2 กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 9 พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงค์ ผกก.สืบสวนตำรวจภูธรพัทลุง พ.ต.ต.จำเริญ อินทร์แก้ว หน.ชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพลมือปืนรับจ้างผู้ร้ายสำคัญ สตช. พ.ต.อ.พงปนต ชูแก้ว ผกก.กองปราบปราม 6 ชุดสืบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ทะเลน้อย สืบสวนจังหวัดพัทลุง สืบสวนภาค 9 และตำรวจ นปพ.พัทลุง ชุด ฉก.เสือดำ กว่า 80 นาย นำหมายศาลจังหวัดพัทลุงค้น 5 จุด ในพื้นที่ ต.พนางตุง ต.นาขยาด อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
โดยได้เข้าจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย หลังศาลจังหวัดพัทลุงได้ออกหมายจับ ในคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงนายณรงค์ นิลโชติ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171 หมู่ 2 ต.นางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เสียชีวิต ส่วนนางวรรณดี จรเสมอ อายุ 51 ปี ผู้เป็นภรรยาของนายณรงค์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่ร้านนายหัวคาราโอเกะ บ้านเลขที่ 302 หมู่ 6 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ตั้งอยู่ริมถนนสายควนขนุน-ทะเลน้อย เมื่อคืนวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา
ซึ่งการเข้าค้นบ้านเลขที่ 179 หมู่ 3 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดอาวุธปืนลูกซอง พร้อมเครื่องกระสุน สมุดบัญชีรายชื่อเงินกู้นอกระบบ เงินสดกว่า 50,000 บาท ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ 2 คัน รถยนต์เก๋งอีก 1 คัน เพื่อตรวจสอบ พร้อมควบคุมตัว นางจีระวรรณ หรือเจ๊นก มุสิกรักษ์ อายุ 48 ปี เจ้าของบ้าน 1 ใน 4 ที่ศาลอนุมัติหมายจับ และเป็นนายทุนเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ในพื้นที่ ส่วนลูกสาวพร้อมแฟนหนุ่มได้ออกจากบ้านก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึง ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้ ขณะขับรถไปยังพื้นที่รอยต่อพัทลุง-นครศรีธรรมราช ก่อนนำตัวมาสอบสวน
จากสาเหตุดังกล่าวเจ้าหน้าที่สืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อสืบสวนหาผู้ก่อเหตุทั้งหมด จนสามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 4 ราย ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทลุง ประกอบด้วย 1) นางจีระวรรณ หรือนก มูสิกรักษ์ อายุ 47 ปี ผู้จ้างวานฆ่า ดำเนินคดีในความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานฆ่า และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 2) นายวิสุทธิ์ หรือเปา พรมบุญแก้ว อายุ 27 ปี ลูกเขยของนางจีระวรรณ ผู้ร่วมก่อเหตุ (คนขับ) 3) นายกฤษฎา รัตนพันธ์ อายุ 30 ปี ผู้ร่วมก่อเหตุ (คนยิง) 4) น.ส.อนุสรา หรือนุ๊ก มูสิกรักษ์ อายุ 26 ปี ลูกสาวของนางจีระวรรณ ผู้ช่วยพาผู้ก่อเหตุหลบหนี ดำเนินคดีในความผิดฐานร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวหรือไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ร่วมกันเข้าไปในเคหสถานของผู้อื่นในเวลากลางคืนโดยไม่มีเหตุอันควรโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ และร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน
จากการสืบสวนเพิ่มเติมทราบว่า นางจีระวรรณ ได้จ้างวานให้นายวิสุทธิ์ ลูกเขยของตนกับพวกใช้อาวุธปืนไปยิงนายณรงค์ และนางวรรณดี ตามวันและเวลาเกิดเหตุ จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ก่อนที่ต่อมา น.ส.อนุสรา ลูกสาวของนางจีระวรรณ จะรับตัวนายวิสุทธิ์ กลับมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านของนางจีระวรรณ และใช้ชีวิตตามปกติเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย รวมถึงขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้องในความผิดเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้ โดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หลังพบว่ามีลูกค้าที่กู้ยืมเงินนอกระบบ และเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรามากกว่า 200 ราย
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ที่สร้างความหวาดกลัวให้ประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อสร้างความอุ่นใจในการใช้ชีวิตตามปกติสุขให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมีอาชีพปล่อยเงินกู้นอกระบบ และใช้วิธีการข่มขู่ลูกหนี้ จนสร้างความหวาดกลัวในพื้นที่เป็นอย่างมาก และยังก่อเหตุฆ่าผู้อื่นได้อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย วันนี้นอกจากจะดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นแล้วนั้น ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้ โดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยจะดำเนินคดีในลักษณะต่างกรรมต่างวาระ เป็นการป้องปรามมิให้ผู้อื่นกระทำผิดในลักษณะเช่นเดียวกันนี้อีก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ชาวพัทลุงกลับคืนมาให้ได้โดยเร็ว