ปัตตานี - ชาวบ้านปัตตานีพาไปดูร่องรอยของพญานาค 3 ตัว ติดอยู่ในหินกลางลำธาร ห่างจากน้ำตกทรายขาว ประมาณ 2 กม. ตามความเชื่อของบรรพบุรุษเล่าต่อกันมา เล็งพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน
วันนี้ (24 ก.ย.) ที่ลำธารติดป่าใกล้หมู่บ้านควนลังงา หมู่ที่ 4 ต.ทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี นายอาดัม บามเหมบูงา กำนันและชาวบ้านในพื้นที่ตำบลทรายขาว พาทีมข่าวลงไปพิสูจน์เรื่องราวความเชื่อที่เล่าต่อๆ กันมาของบรรพบุรุษว่า มีพญานาค 3 ตัว ติดอยู่ในหินกลางลำธาร ห่างตัวน้ำตกทรายขาว แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของ จ.ปัตตานี ประมาณ 2 กิโลเมตร
โดยโขดหินพญานาคมีตั้งแต่ตัวขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ รวม 3 ตัว อยู่ถัดกันเหมือนกำลังจะข้ามผ่านโขดหินแกรนิตขนาดใหญ่กลางลำธาร มุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกันขึ้นไปตามสันเขา จากการสำรวจโขดที่มีน้ำไหลผ่านเป็นแอ่งๆ พื้นที่ราบเรียบของโขดหินเชื่อว่าผ่านการหลอมเหลวจากความร้อน กลายเป็นหินปูนจับตัวแน่นเป็นแนวผิวแทรกอยู่เป็นรูปคล้ายลำตัว มีสีทองผสมสีเขียวไล่กันไปตามลำตัว ยิ่งดูยิ่งคล้ายเกล็ดของพญานาค
นายอาดัม บามเหมบูงา กำนัน ต.ทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เล่าว่า ลำธารแห่งนี้จะมีรอยประวัติศาสตร์ความเชื่อของบรรพบุรุษ เล่าต่อๆ กันมาว่าเป็นรอยพญานาค จากจุดตรงนี้เป็นหินแกรนิตทั้งหมด แต่ความบังเอิญนั้นจะมีรอยหินแกรนิตกลายเป็นรูปหินปูนที่เกิดความลึกจากความร้อน จากเรื่องเล่าบอกว่าพญานาคจากฝั่งทะเลได้เดินผ่านจุดนี้ เพื่อตรงไปยังตัวน้ำตกทั้งหมด 3 รอย เป็นเวลานับร้อยนับพันปี ผ่านวันเวลาธรรมชาติจากน้ำอาจจะสึกกร่อนไปบ้าง
และเนื่องจากเรื่องเล่าที่ว่าพญานาคทั้ง 3 ตัว จากทะเลเดินทางมาจะขึ้นไปบนเขาที่ตั้งของตัวน้ำตกทรายขาวนั้น จะมีรูปปั้นของหัวพญานาคอยู่แล้ว 3 หัว เวลาลูกหลานจะบวชนาค บวชพระ จะต้องมีการสระหัวที่วังหัวพญานาคที่น้ำตก จึงเชื่อกันว่า 3 หัวนั้นคือ 3 ลำตัวพญานาคตรงจุดนี้ แต่ผู้คนภายนอกยังไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับเรื่องเล่านี้มากนัก เป็นเพียงแต่เรื่องเล่าขานกันมาของคนในชุมชนที่บอกต่อๆ กันมารุ่นสู่รุ่นตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ
จนมาถึงรุ่นของพวกเราเห็นว่าเป็นรอยที่มีความผิดปกติจากหินแกรนิตในวันนี้ที่เป็นแบบนี้ แต่ไม่ใช่เพิ่งจะเป็น เพราะเป็นมาร้อยเป็นพันปีแล้ว จึงอยากฝากถึงนักท่องเที่ยว หากสนใจมาเยี่ยมมาชมตรงนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่ง เชิญชวนมาเที่ยวได้ เพราะยังเป็นลำธารมีโขดหินให้สามารถมานั่งพักผ่อนเล่นได้