ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เกิดอุบัติเหตุรถกระบะชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ที่จอดอยู่ริมถนนในที่มืด ทำให้ครอบครัว อส.อำเภอสะเดา พ่อแม่เสียชีวิตคาที่ และลูก 2 คนเป็นเด็กหญิงอายุ 7 ปี กับเด็กชายอายุ 4 ปีบาดเจ็บสาหัส พบเส้นนี้มักจะเกิดอุบัติเหตุเช่นนี้เป็นประจำ
วันนี้ (24 ก.ย.) ร.ต.อ. สายชล สุภาพเจริญกุล รองสารวัตรสอบสวน สภ.สะเดา จ.สงขลา รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนท้ายกับรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนกาญจนวนิช ขาเข้าด่านพรมแดนสะเดา พื้นที่หมู่ 2 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา
หลังจากลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับหน่วยกู้ชีพไม้ขม และหน่วยกู้ชีพสำนักขาม พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ผน 8441 สงขลา ชนท้ายกับรถบรรทุกเทรลเลอร์ ซึ่งบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ทะเบียนหน้า 60-0152 กรุงเทพมหานคร ทะเบียนหลัง 79-2174 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่บริเวณไหล่ทาง
โดยสภาพรถกระบะด้านหน้ามุดเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถบรรทุกเทรลเลอร์เกือบครึ่งคัน และมีผู้เสียชีวิตคาที่ 2 ราย ประกอบด้วย นายหัสบดี ทนงาน อายุ 35 ปี คนขับ ซึ่งเป็นสมาชิกอาสารักษาดินแดนของอำเภอสะเดา อีกรายเป็นผู้หญิงยังไม่ทราบชื่อ ซึ่งเป็นภรรยาของ นายหัสบดี ถูกอัดก๊อบปี้ติดอยู่ในรถ และยังมีผู้บาดเจ็บสาหัสอีก 2 ราย เป็นเด็กหญิงอายุ 7 ปี กับเด็กชายอายุ 4 ปี ซึ่งเป็นลูกของทั้ง 2 คน โดยเฉพาะเด็กชายซึ่งนั่งอยู่ในตักแม่
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะเกิดเหตุครอบครัวนี้กำลังเดินทางกลับบ้านที่บ้านด่านนอก ต.สำนักขาม อ.สะเดา ปรากฏว่าได้ไปชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ที่จอดอยู่ริมถนน เนื่องจากสภาพจุดเกิดเหตุมืด และทัศนวิสัยในการมองเห็นจากไฟรถต่ำ เมื่อมาถึงบริเวณที่รถบรรทุกเทรลเลอร์จอดอยู่จึงไม่ทันสังเกตเห็นทำให้เบรกไม่ทันชนท้ายอย่างแรง
หลังเกิดเหตุตำรวจกำลังอยู่ระหว่างติดตามตัวคนขับรถบรรทุกเทรลเลอร์คันนี้มาสอบสวนและแจ้งข้อหาดำเนินคดี
สำหรับเส้นทางถนนกาญจนวนิช ช่วงระหว่าง อ.สะเดา กับบ้านด่านนอก ชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่ผ่านมามักจะมีอุบัติเหตุรถชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ที่จอดอยู่ริมถนนเป็นประจำ ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต เพราะรถบรรทุกบางคันจะจอดรออยู่ริมถนนระหว่างไปรับส่งสินค้าที่บ้านด่านนอกชายแดนไทย-มาเลเซีย
ซึ่งตำรวจ สภ.สะเดา ได้ออกตรวจเป็นประจำ แต่ยังมีรถเทรลเลอร์บางคันที่ยังฝ่าฝืนจอดอยู่ริมถนนหรือตามไหล่ทาง จนเป็นเหตุให้รถที่วิ่งผ่านไปมาชนท้ายขึ้นอีกครั้ง
