xs
xsm
sm
md
lg

นวัตกรรมใหม่! “คั่วกาแฟด้วยโอ่ง” ได้เมล็ดสวยและสุกพร้อมกัน หอมอร่อยถูกปากนักชิม (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตรัง - กลุ่มผู้ปลูกกาแฟเทือกเขาบรรทัด จ.ตรัง ร่วมกับ มทร.ศรีวิชัย คิดค้นการ “คั่วกาแฟด้วยโอ่ง” นวัตกรรมชิ้นแรกของไทย ทำให้ได้เมล็ดกาแฟที่สวยและสุกพร้อมกันหมด แถมยังหอมอร่อยถูกปากนักชิม

กลุ่มผู้ปลูกกาแฟเทือกเขาบรรทัด อ.นาโยง จ.ตรัง ซึ่งเกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของเกษตรกร จำนวน 52 ราย เพื่อช่วยกันพลิกฟื้น “กาแฟเขาช่อง” สายพันธุ์โรบัสต้า ต้นแบบกาแฟคนตรังที่มีคุณภาพมาอย่างยาวนานนับ 100 ปีแล้ว ให้หวนคืนกลับมาอีกครั้ง โดยการนำกาแฟไปปลูกแซมในสวนยางหรือพื้นที่ว่างต่างๆ กระทั่งล่าสุดเริ่มให้ผลผลิตได้ประมาณปีละ 3-4 ตัน และสามารถนำมาแปรรูปเป็นกาแฟคั่ว รสชาติอร่อย คุณภาพดั้งเดิม ขณะนี้มีตลาดทั้งในและต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะร้านอาหาร ร้านกาแฟทั่วไป และบรรดานักชิมจากทั่วประเทศ


ทั้งนี้ ทางกลุ่มจะรับซื้อเมล็ดกาแฟสดจากเกษตรกร เพื่อนำมาอบแห้งในตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการนำมาใช้ในพื้นที่ภาคใต้ เพราะมีฝนตกชุกตลอดทั้งปี ก่อนที่จะนำไปกะเทาะเปลือกออก และคัดเอาเมล็ดกาแฟที่เสียทิ้งไป จะทำให้เหลือเฉพาะเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพ และสามารถเก็บไว้ได้นานนับปี โดยทางกลุ่มจะนำเมล็ดกาแฟอบแห้งเหล่านี้มาแปรรูปสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ตามออเดอร์ของลูกค้า ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีจะใช้การคั่วด้วยกระทะ ถึงแม้วิธีการนี้จะรวดเร็ว แต่ได้เมล็ดกาแฟที่ไม่ค่อยหอมละมุน แถมบางครั้งอาจจะถึงไหม้ด้วยซ้ำไป

ดังนั้น ด้วยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย (มทร.) จึงได้ศึกษาวิจัยเพื่อทดลองทำการ “คั่วกาแฟด้วยโอ่ง” นวัตกรรมชิ้นแรกของไทย ปรากฏว่าได้ผลดีกว่าการคั่วด้วยกระทะ แต่ยังไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร เนื่องจากโอ่งที่นำมาใช้มีขนาดเล็ก สามารถคั่วกาแฟได้ครั้งละน้อยๆ และยังต้องใช้วิธีการหมุนด้วยมือ เพื่อให้ความร้อนกระจายไปทั่วทั้งโอ่ง จึงมีการพัฒนาให้โอ่งมีขนาดใหญ่ขึ้น และใช้วิธีการหมุนด้วยมอเตอร์ แถมยังมีการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิไปด้วย รวมต้นทุนประมาณ 4 หมื่นบาท แต่ทำให้สะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น


นายสุวิทย์ โพชสาลี ประธานกลุ่มผู้ปลูกกาแฟเทือกเขาบรรทัด เล่าถึงกระบวนการทำงานของกาแฟคั่วโอ่งว่า คล้ายๆ กับไก่อบโอ่ง เริ่มจากวอร์มอุณหภูมิความร้อนให้อยู่ที่ 160 องศาเซลเซียสเสียก่อน จึงใส่เมล็ดกาแฟลงไปในโอ่งได้ จากนั้นตัวโอ่งก็จะเริ่มหมุนด้วยความเร็ว 30-35 รอบต่อนาที เมื่อผ่านไปราว 15 นาที เมล็ดกาแฟเริ่มมีเสียงแตกตัวดังแป๊กๆ หรือที่เรียกกันว่าแบบคั่วอ่อน จากนั้นอีก 15 วินาทีก็จะแตกตัวเป็นแบบคั่วกลาง และหากเพิ่มเวลาไปอีกจะแตกตัวเป็นแบบคั่วเข้ม ทั้งนี้ แล้วแต่ความชอบของลูกค้าที่อยากได้กาแฟรสชาติแบบไหน

วิธีการคั่วโอ่งแบบใหม่นั้น จะทำให้ได้เมล็ดกาแฟที่สวยและสุกพร้อมกันหมด จนแทบไม่มีเมล็ดกาแฟที่เสียเลย และวิธีการนี้ยังสามารถคั่วกาแฟได้ถึงครั้งละ 700 กรัม ซึ่งเพียงพอต่อออเดอร์ของลูกค้าที่สั่งเข้ามาในแต่ละรอบ แต่หากใช้วิธีการคั่วกระทะแบบเดิมๆ จะต้องทำกันหลายครั้ง และผลผลิตในแต่ละครั้งมีคุณภาพไม่แน่นอน ดังนั้น นวัตกรรมกาแฟคั่วโอ่ง นอกจากจะส่งผลให้การทำงานสะดวก และรวดเร็วแล้ว เมล็ดกาแฟที่ได้ออกมายังหอมอร่อยถูกปากนักชิม จนมีราคาซื้อขายถึง กก.ละ 600 บาท สมกับเป็น “กาแฟเขาช่อง” อายุ 100 ปีอย่างแท้จริง







กำลังโหลดความคิดเห็น