ศูนย์ข่าวภูเก็ต - พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เรียกคนขับรถตู้-แท็กซี่คู่กรณีมาสอบปากคำ ต่างฝ่ายต่างแจ้งความดำเนินคดีกัน ด้านขนส่งเตรียมเรียกประชุมทั้งจังหวัด แก้ปัญหาทะเลาะวิวาท
จากกรณีมีการแชร์คลิปการโต้เถียงกันของคนขับรถตู้รับนักท่องเที่ยว และแท็กซี่ บริเวณท่าเทียบเรือรัษฎา ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต จากนั้นคนขับรถตู้ได้ไปเปิดประตูให้นักท่องเที่ยวทั้ง 4 คนลงจากรถ และอธิบายให้นักท่องเที่ยวเข้าใจ โดยมีการแชร์คลิปดังกล่าวไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของภูเก็ตได้
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (4 ก.ย.) เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำโดย พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งคมคาย ผกก.2 บก.ทท.3 พร้อมด้วย พ.ต.ท.สาธิต หนูฤทธิ์ รอง ผกก.จราจร สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมภายในท่าเรือรัษฎา ต.รัษฎา อ.เมือง โดยมีตัวแทนของท่าเรือ และตัวแทนของบริษัทแห่งหนึ่งร่วมให้ข้อมูล พร้อมสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
และเวลาเดียวกัน ที่ สภ.เมืองภูเก็ต นายฉัตร (นามสมมติ) อายุ 45 ปี คนขับรถตู้บริการที่เข้าไปรับนักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติ 4 คนภายในท่าเรือรัษฎา ต.รัษฎา อ.เมือง หลังจากนักท่องเที่ยวได้ใช้เรียกใช้บริการผ่านแอปพลิเคชัน แต่สุดท้ายมีปากเสียงกับคนดูแลคิวรถตู้บริการหน้าท่าเรือรัษฎาได้เข้าให้ปากคำต่อ ร.ต.อ.วิชิต นกแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต โดยมี นายอัดชา บัวจันทร์ ขนส่งจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ขนส่งรับฟังการสอบสวนปากคำเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ส่วนชายเสื้อดำซึ่งเป็นคนดูแลคิวอยู่ระหว่างการเข้าให้ปากคำเช่นกัน
นายอัดชา บัวจันทร์ ขนส่งจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตนได้รับการประสานจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต หลังปรากฏคลิปดังกล่าวผ่านโซเชียลและมีการกล่าวหาว่าผู้ให้บริการรถป้ายเขียวภายในท่าเรือรัษฎาเป็นมาเฟีย ในการรับส่งผู้โดยสารหรือนักท่องเที่ยว ซึ่งในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาให้ปากคำ และตรวจสอบข้อมูล โดยอาจจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้เสียหาย ในส่วนของขนส่งจังหวัดได้เข้ามาดูว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดในข้อกฎหมายว่าด้วยรถยนต์หรือว่าด้วยขนส่งทางบกหรือไม่ อย่างไร และหากเป็นความผิดจะมีการเรียกตัวไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
"ทั้งนี้ สำหรับตัวผู้ขับรถ ถ้าเข้าข่ายความผิดในการให้ข้อมูลที่ทำให้อีกฝ่ายได้รับความเสียหาย รวมไปถึงภาพลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ตและประเทศนั้น คงต้องไปพิจารณาความผิดในการพักใช้ใบอนุญาตหรือไม่ ส่วนรถตู้ที่นำมารับนักท่องเที่ยวนั้นมีการขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย"
นายอัดชา กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้กรมขนส่งทางบกได้รับรองแอปพลิเคชันในการให้บริการรถรับจ้างแล้วในส่วนของภูเก็ตเบื้องต้น 3 บริษัท ประกอบด้วย เฮลโลภูเก็ต BonKU และ Asia CABB ส่วนของบริษัทอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ และกรณีบริษัทที่ยังไม่มีการรับรอง และมีการนำมาให้บริการจะประสานไปยังกระทรวงไอซีทีเพื่อดำเนินการปิดแอปพลิเคชันต่อไป
นายอัดชา กล่าวต่อไปอีกว่า สำนักงานขนส่งภูเก็ตจะมีการประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบถึงการใช้บริการรถโดยสารต่างๆ นอกจากนั้น จะมีการเรียกประชุมชี้แจงกับผู้ที่ขับรถรับจ้างสาธารณะ เพื่อที่จะซักซ้อมในเรื่องของการนำรถมาใช้ผ่านแอปพลิเคชัน ทุกคนจะได้ประกอบอาชีพร่วมกัน และจะได้ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกัน และทุกคนจะอยู่ตามกฎหมายของกรมการขนส่งทางบกกำหนด ปัจจุบันมีรถจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ประกอบด้วย รถป้ายเขียวจำนวนกว่า 3,000 คัน ส่วนรถแท็กซี่ประมาณ 300 คัน ส่วนรถโดยสารประจำทางและไม่ประจำทาง รวมรถทุกประเภทประมาณ 10,000 คัน ซึ่งเพียงพอต่อการให้บริการนักท่องเที่ยว
ด้าน พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งคมคาย ผกก.2 บก.ทท.3 กล่าวภายหลังลงพื้นที่ท่าเทียบเรือรัษฎา และมีการหารือร่วมกับทางขนส่งจังหวัดภูเก็ต และตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ว่า การให้บริการรถรับส่งผู้โดยสายจากท่าเทียบเรือไปยังจุดต่างๆ นั้น ทางบริษัทที่รับสัมปทานท่าเรือได้อนุญาตให้บริษัท รัษฎาวีไอพี จำกัด เป็นผู้ให้บริการรับจ้าง โดยมีกระบวนการดำเนินการเป็นขั้นตอน ส่วนรถรับจ้างสาธารณะจากภายนอกที่จะเข้ามารับนักท่องเที่ยว ซึ่งมีการติดต่อกันไว้แล้ว สามารถมารับได้ตามปกติ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ส่วนตัวที่เห็นในเบื้องต้นยังไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด
“ส่วนทางคดีนั้น ทราบว่าทางบริษัทรัษฎาฯ ได้มอบอำนาจให้ตัวแทนมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต กรณีที่มีการเผยแพร่คลิปกล่าวหาว่า เป็นแท็กซี่มาเฟีย ซึ่งทำให้เสียชื่อเสียง ขณะเดียวกัน ทราบว่าในฝ่ายของรถตู้ที่ไปรับนักท่องเที่ยวเองได้เข้าพบพนักงานสอบสวน และมีการแจ้งความร้องทุกข์เช่นกัน ซึ่งในส่วนนี้คงต้องว่าไปตามกระบวนการของกฎหมาย และสรุปเรื่องอีกทีว่าเป็นอย่างไร
เบื้องต้น จากการตรวจสอบของขนส่งภูเก็ต พบว่า ในส่วนของคิวรถ และรถตู้ที่นำมาให้บริการนั้นถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนนักท่องเที่ยวทั้ง 4 คนนั้น ขณะนี้ตำรวจท่องเที่ยวอยู่ระหว่างการติดตามตัว เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นทราบว่าพักอยู่ในพื้นที่ป่าตอง อ.กะทู้”
พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ กล่าวถึงการทำความเข้าใจกับผู้ให้บริการรถรับจ้างในภาพรวม ว่า ได้มีการหารือกับทางขนส่งจังหวัดภูเก็ต จะมีการเรียกประชุมคิวรถรับจ้างที่มีอยู่ประมาณ 40 คิวทั่วจังหวัดภูเก็ต มาพูดคุยทำความเข้าใจ ร่วมกับทางตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจภูธรภูเก็ต แต่ที่ผ่านมา เราดำเนินการมาโดยตลอด ซึ่งทางขนส่งมีการวางระบบไว้แล้ว แต่จะต้องมาสื่อสารทำความเข้าใจให้ตรงกัน เพื่อไม่ให้เกิดภาพลักษณ์หรือผลกระทบที่สร้างความเสียหายขึ้นอีก นอกจากนี้อยากฝากไปถึงผู้ประกอบการที่ให้บริการรถรับส่งผู้โดยสาร ซึ่งเข้าใจว่าทุกคนได้รับผลกระทบมาเป็นเวลา 2 ปี และขณะนี้การท่องเที่ยวกลับมาแล้ว อยากฝากเรื่องของการสื่อสารหรือคำพูด ตลอดจนการเป็นเจ้าบ้านที่ดี เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลัง รวมถึงการใช้สื่อโซเชียลด้วย