ตรัง - สุดสะท้อนใจ! สถานสงเคราะห์คนชราบ้านศรีตรัง เผยอยากให้ลูกหลานกลับมาเยี่ยมผู้สูงอายุบ้าง เพื่อให้เขาเกิดความอบอุ่น อย่าหายไป ส่วนบางรายแม้สิ้นแล้วก็ไม่มีใครมารับร่าง ขณะที่วัสดุที่ให้ผู้สูงอายุใช้ยังขาดแคลน
สมาชิกสหกรณ์เพาะเลี้ยงสัตว์จังหวัดตรัง จำกัด ได้รวบรวมสิ่งของและเงินสด รวมมูลค่า 80,000 บาท มาบริจาคให้แก่สถานสงเคราะห์คนชราบ้านศรีตรัง ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด เพื่อให้ผู้สูงอายุนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ได้แก่ แพมเพอร์สผู้ใหญ่ แผ่นรองกันชื้น น้ำยาฆ่าเชื้อ น้ำยาทำความสะอาด ผลิตภัณฑ์ซักผ้า นอกจากนั้น ยังนำกุ้งสดๆ จำนวนมากมาปรุงเป็นอาหารมื้อพิเศษ เพื่อจัดเลี้ยงผู้สูงอายุให้ได้รับประทานกันอย่างอิ่มท้องด้วย
นางนาฏยา หนูสมจิตต์ ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ตรัง กล่าวว่า ปัจจุบันสถานสงเคราะห์คนชราบ้านศรีตรัง ซึ่งอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของ อบจ.ตรัง มีผู้สูงอายุกว่า 60 คน ถือว่ามีจำนวนลดลงกว่าช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 มีการระบาดอย่างหนักก่อนหน้านี้ โดยปกติผู้สูงอายุแต่ละรายจะมีค่าใช้จ่ายด้านอาหารวันละ 80 บาท แต่หากวันใดมีผู้เข้ามาจัดเลี้ยงอาหารจะทำให้ผู้สูงอายุได้รับอาหารที่มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น หรือมีโอกาสได้กินในสิ่งที่เขาอยากจะกิน นอกเหนือไปจากที่ทางสถานสงเคราะห์ให้การดูแลอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งของบางอย่างที่ยังขาดแคลน และบางอย่างเป็นวัสดุที่ทางสถานสงเคราะห์ไม่สามารถจัดซื้อจัดจ้างได้ เช่น น้ำยาปรับผ้านุ่ม เพื่อช่วยให้เสื้อผ้าของผู้สูงอายุได้มีกลิ่นหอม หรือแผ่นซับใช้เวลาทำแผลกดทับ หรือใช้สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องนอนกินข้าว หรือเป็นผู้ป่วยติดเตียง จนบางช่วงต้องใช้แผ่นซับเป็นจำนวนมาก และทำให้ขาดแคลนไปเลย เพราะมีผู้ป่วยติดเตียงเยอะ อีกทั้งแผ่นซับนั้นมีราคาสูงด้วย จึงจำเป็นต้องขอรับบริจาควัสดุต่างๆ เหล่านี้จากภายนอกเข้ามา เพื่อให้การดูแลผู้สูงอายุมีคุณภาพมากที่สุด
แต่สิ่งที่สถานสงเคราะห์คนชราบ้านศรีตรัง ต้องการมากที่สุดในขณะนี้ คือ การช่วยให้ผู้สูงอายุมีความสุขทางด้านจิตใจ เนื่องจากส่วนใหญ่ประสบปัญหาขาดความอบอุ่น ขาดความรัก จึงอยากให้มีลูกหลานเข้ามาเยี่ยมบ้าง อย่างน้อยๆ เมื่อพาผู้สูงอายุมาอยู่แล้ว อยากให้มาเยี่ยมเดือนละครั้งก็ยังดี เพื่อให้เขาเกิดความอบอุ่น จากนั้นความรักที่เขาจะมีให้ทุกคนก็จะเกิด จะไม่มีอะไรที่ซ่อนอยู่ในใจ รวมทั้งจะไม่เป็นภาระกับพี่เลี้ยง และพยาบาลที่ดูแลอยู่ แต่ปัจจุบันนี้มีผู้สูงอายุหลายคนที่ลูกๆ หลานๆ ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมเลย จนทำให้เกิดพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป
“เมื่อไหร่ที่ลูกหลานที่พาเข้ามา แล้วมาเยี่ยมท่านบ้าง ผู้สูงอายุจะมีความรู้สึกที่ดีมาก โดยมีบางคนรอแล้วรออีก รอจนเสียชีวิตไปแล้วยังไม่มีลูกหลานมารับศพ ทำให้สถานสงเคราะห์ต้องทำศพให้ ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าที่ผ่านมามีน้อยมากที่จะมารับกลับไป ทั้งนี้ หลังจากฌาปนกิจศพเสร็จสิ้นแล้วจะเก็บกระดูกให้เรียบร้อย ทำเหมือนกับเขาคือญาติของเรา หรือช่วยจัดการไปตามหลักการทางศาสนา จากนั้นวันที่ 1 กรกฎาคมของทุกปี จะมีการสวดบังสุกุลอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้สูงอายุที่ล่วงลับไปแล้วด้วย นี่คือสิ่งที่เราทำกันมาตลอด” นางนาฏยา เผยทั้งน้ำตา
