xs
xsm
sm
md
lg

ให้อภัยคนบ้านเก่า ปชป.รุมทึ้งสาดวาทกรรมย้ายพรรค ‘ทวี สุระบาล’ สวมเสื้อ พปชร.ลงสู้เขต 2 จ.ตรัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เปิดใจ “ทวี สุระบาล” ขุนพล พปชร.ใต้ ประกาศครั้งแรก กวาดแลนด์สไลด์ภาคใต้ 30 ที่นั่ง ขอสู้เขต 2 ตรัง ถิ่น “นายหัวชวน” ให้สมศักดิ์ศรี ให้อภัยบ้านเก่าคน ปชป.รุมทึ้ง วาทกรรมย้ายพรรค ขอบคุณเพื่อนรัก “สมชาย” ช่วยหนุนชน “สาทิตย์” เป็นนักการเมือง ต้องอยู่กับพรรคที่สร้างผลงาน คนใต้รับรู้ดีฝีมือรัฐบาล 3 ป. 

นาทีนี้ ปี่กลองการเมืองเริ่มคึกคัก บรรดาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ต่างเปิดตัว ย่ำเดินลงพื้นที่กันอย่างขวักไขว่ สำหรับเมืองหลวงแห่งหนึ่งของ “พรรคประชาธิปัตย์” อย่าง “เมืองตรัง” ก็เช่นกัน ที่มีความคึกคักเป็นพิเศษให้คอการเมืองได้ติดตาม เพราะนอกจากเป็น “เมืองหลวง” ของ “พรรคสีฟ้า” มาแต่ดั้งเดิมในอดีตแล้ว ยังเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของ “นายหัวชวน” ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และ ประธานที่ปรึกษาพรรคสีฟ้าอีกด้วย

แต่เมื่อยุคสมัยได้เปลี่ยนไป การเมืองก็ย่อมเปลี่ยนไปเช่นกัน สำนวนที่ว่า “ส่งเสาไฟฟ้าลงก็ชนะ” ที่พูดกันมาแต่ก่อนก็ได้เปลี่ยนไปแล้วเช่นกัน เมื่อ “นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์” แชมป์เก่าจากประชาธิปัตย์ ได้เสียเก้าอี้ ส.ส.เขต 1 ตรัง ให้ผู้สมัครจาก “พรรคพลังประชารัฐ” ที่ชื่อ “นิพันธ์ ศิริธร”   

มาวันนี้นอกจากต้องรับศึกนอกอันหนักหน่วงแล้ว “ศึกใน” ของคน ปชป.กันเอง ก็เป็นปัญหาที่ลุกลามบานปลายจนยากจะดับลง เช่น ความขัดแย้งระหว่าง “สมชาย โล่สถาพรพิพิธ” อดีต ส.ส.ตรังเขต 3 พรรค ปชป. ผู้เป็นพ่อของ “สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ” ส.ส.ตรังเขต 3 คนปัจจุบัน และกรรมการบริหารพรรค ปชป. กับ “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” ส.ส.เขต 2 พรรค ปชป. โดยนายสมชายได้สนับสนุน “ทวี สุระบาล” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ให้ชนกับนายสาทิตย์ในเขต 2 ประกอบด้วยอำเภอห้วยยอด อำเภอรัษฎา อำเภอวังวิเศษ และอำเภอสิเกาบางส่วน  

รวมถึงรายละเอียดของการจัดงาน “คนรักทวี” และงาน “คนไม่เอาสาทิตย์” รายตำบลในเขตเลือกตั้งของนายสาทิตย์ นอกจากนี้ยังรวมถึงเหตุผลที่ให้การสนับสนุน “กาญจน์ ตั้งปอง” สท.เมืองกันตัง ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่เขต 4 ซึ่งเป็นการแบ่งเขตเพิ่มกลับมาเป็นทั้งหมด 4 เขต เหมือนเดิม จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาที่ตรังลดเหลือเพียง 3 เขต ทำให้พื้นที่เขต 4 บางส่วนคาบเกี่ยวกับพื้นที่เขต 3 ของน.ส.สุณัฐชา  

นายสมชายออกมาแถลงข่าวระบุว่า เขต 4 เป็นหลุมดำของพรรคที่อาจจะเสียเก้าอี้ จึงต้องออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุนคนรุ่นใหม่ที่น่าจะมีโอกาสชนะมากกว่า ขณะที่ “สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล” อดีต ส.ส.ตรังเขต 4 หลายสมัย เจ้าของพื้นที่เดิม ปัจจุบันนั่งตำแหน่งเลขานุการประธานสภาฯ คนใกล้ชิดของนายชวน ก็อ้างว่า นายชวนให้การสนับสนุนตัวเองลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 4 เช่นกัน ทำให้ “เดชอิศม์ ขาวทอง” หรือ “นายกฯชาย” ส.ส.สงขลา พรรค ปชป. ในฐานะรองหัวหน้าพรรคดูแลภาคใต้ ต้องออกมาห้ามทัพความขัดแย้ง โดยระบุถึงสาเหตุที่ทำให้นายสมชายไม่พอใจมาจากนายสมชายเชื่อว่านายสาทิตย์อยู่เบื้องหลังคลิปแฉบ่อนเรือนไทยร้อยล้านโดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “จอมพลปฏิวัติ” ส่วนความขัดแย้งเรื่องว่าที่ผู้สมัครในนามพรรคในเขต 4 ระหว่างฝ่ายนายสมชายกับนายสมบูรณ์ จะตัดสินด้วยการทำโพลประชาชนในเขตในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งได้รับความเห็นชอบทั้งจากนายชวน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค และ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคแล้ว  

เมื่อคนพรรคเดียวกันหันไปช่วยคู่แข่ง นอกจากความสับสนที่เกิดขึ้นแล้ว นาทีนี้ เซียนการเมืองตรังหลายสำนัก อ่านเกมบรรทัดสุดท้ายแล้วว่า “ตาอยู่” ในงานนี้ คงไม่พ้นชื่อ “ทวี สุระบาล” กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี เพราะได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง ในเขต ก็ได้พลังเสริมหนุนสู้กับนายสาทิตย์ แชมป์เก่าหลายสมัย โดยไม่ต้องออกแรงสู้อยู่คนเดียว ในภาพใหญ่ของพรรค แน่นอน ย่อมเป็นประโยชน์ต่อ “พรรคพลังประชารัฐ” จากการที่ความเป็นเอกภาพของ “พรรคปชป.” เจ้าของพื้นที่ แต่กลับเกิดความขัดแย้งกันเอง 

ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ผลงานหนึ่งที่สำคัญของนายทวี คือร่วมทำศึกจนได้ ส.ส.ภาคใต้ให้พรรคมากถึง 13 ที่นั่ง จาก ส.ส.ภาคใต้ทั้งหมด 50 กว่าที่นั่ง ทำให้เกิดกลุ่ม “ส.ส.ใต้” ขึ้นในพรรคพลังประชารัฐ ที่มีขุมอำนาจการต่อรองทางการเมือง

ในโค้งสุดท้ายการเมืองนี้ “พรรคพลังประชารัฐ” ปรับยุทธศาสตร์เพื่อเตรียม “เจาะทะลวง” พื้นที่ภาคใต้อีกครั้ง เพราะประเมินว่า “พรรคประชาธิปัตย์” จะร่วงจากกระแสนิยมที่ถดถอยลง จึงเป็นโอกาสอย่างดี ที่จะมาเอา ส.ส.เพิ่มในภาคใต้ เริ่มด้วยการเปลี่ยนประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้ จาก “พิเชษฐ สถิรชวาล” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม16 ที่ขึ้นตรงกับ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” หัวหน้าพรรค มาเป็น “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ให้นั่งตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรค คุมทัพสู้ศึกภาคใต้ ยึดดินแดน ปชป.ด้วยตัวเอง 

งานนี้นายทวีจึงมีบทบาทเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมาก ในฐานะผู้ชำนาญพื้นที่ และเป็นอดีตคนพรรค ปชป. เป็นดรีมทีมผู้สมัคร ส.ส.ทีมเดียวกับนายชวนในอดีต เคยอยู่ร่วมป้ายหาเสียงในตำนานร่วมกัน 3 คน กับนายชวน นายทวี และนายวิเชียร คันฉ่อง แต่กลับมานั่งเป็นคู่แข่งตรงข้ามพรรค ปชป.ในพื้นที่ตรังมาตั้งแต่ปี 2544 โดยย้ายไปสังกัด “พรรคไทยรักไทย” ของนายทักษิณ ชินวัตร แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จในทางการเลือกตั้งแบบเขต แต่นายทวีก็มีคะแนนติดอันดับเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ 

“ผมคิดว่าทั้งคู่ก็เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ทุกอย่างก็ต้องพูดคุยกัน ส่วนเรื่องที่นายสมชาย ประกาศตัวให้การสนับสนุนนายทวีนั้น ผมไม่เคยได้ยิน เพราะนายสมชายไม่เคยมาพูดกับผม และนายทวีก็เคยอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ แล้วก็ออกจากพรรคไปในครั้งนั้น และได้ชวนนายสมชายออกไปด้วย ทางเราได้เอาข้อมูลมาเปิดเผย ทางนายทวีเลยได้รับผล คือ คนอำเภอห้วยยอดไม่เอา” คือคำให้สัมภาษณ์ล่าสุดของ “นายหัวชวน” อย่างมีนัยยะสำคัญ 

การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2566 นี้ ชื่อของนายทวี ได้ปรากฏเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 ตรัง ชนโดยตรงกับนายสาทิตย์ โดยมีคน ปชป.อย่างนายสมชายคอยหนุน มีขุมกำลังหลักของพรรคพลังประชารัฐ ตั้งแต่ พล.อ.ประวิตร นายสมศักดิ์ และส.ส.ใต้ของพรรคทั้ง 13 คนเสริมแรง กำลังวังชาของนายทวี ในวันนี้ย่อมไม่ธรรมดา ภายใต้ม็อตโต้การเมือง ที่เจ้าตัวเลือกใช้ “ไม่ลืมคนดี ทวีสุระบาล”  

ยามบ่ายแก่ๆ ของวันหนึ่ง ได้มีโอกาสจิบน้ำชาจับเข่าคุยกับ “ทวี สุระบาล” ในแบบ ถามมา-ตอบไป เป็นที่แรก มีเนื้อหาน่าสนใจ คอการเมืองห้ามกระพริบตา 

@ เปิดตัวว่าจะลงสมัครส.ส.ในนามพรรคพลังประชารัฐ ในพื้นที่ตรังเขต 2 แสดงว่ามีความมั่นใจ 

ทวี : ตอนนี้ผมยังไม่ได้เริ่มเดินหาเสียง เพียงแค่แนะนำตัวเอง และบอกกับชาวบ้านว่า การเลือกตั้งครั้งต่อไปที่จะเกิดขึ้นว่า ทวี สุระบาล คนนี้(เน้นเสียง) ลงสมัครในนามเขตของพรรคพลังประชารัฐแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมาผมได้ส่งตัวแทนลงหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่ง พรรคพวก เพื่อนฝูง สนับสนุนให้ผมเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งครั้งต่อไป โดยเสียงตอบรับในเขตเลือกตั้งที่ 2 ที่ผมจะลงสมัครนั้น มีคนเก่าแก่ที่สนับสนุนกันมาช่วยกันหาเสียง ซึ่งเสียงตอบรับก็ดี และดีขึ้นตามลำดับ   

@ ได้เพื่อนเก่าที่ชื่อนายสมชายมาช่วยด้วยอีกแรง 

ทวี : สวนที่คุณสมชาย(โล่สถาพรพิพิธ) ตั้งกลุ่มคนรักทวีฯ ไม่เอาสาทิตย์ โดยประกาศตัวให้การสนับสนุนผม ผมกับคุณสมชาย เป็นเพื่อนกันมานาน และยังคุ้นเคยกับครอบครัวของเขาเป็นอย่างดี เป็นสมาชิกสภาจังหวัด(สจ.)เมื่อปี 2528 ด้วยกัน ทั้งผมและคุณสมชายมีความสนิทสนมกลมเกลียวกัน และไม่เคยทำร้ายใคร ไม่เคยทำร้ายกันและกัน ซึ่งหากคุณสมชายประกาศล้มคุณสาทิตย์จริง ผมก็ต้องขอขอบคุณเขา(ยิ้ม) เพราะเป็นผลดีกับผมด้วย และในขณะนี้กลุ่มคนรักทวีก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สำหรับกระแสในพื้นที่อำเภอห้วยยอด กระแสที่ให้การสนับสนุนผมก็มีซึ่งกระแสก็เป็นผลบวก  

หลังจากการเคลื่อนไหวของคุณสมชายในพื้นที่เขต 2 ก็คึกคัก เพราะผมได้เดินสายพบปะประชาชน และแนะนำตัว ซึ่งชาวบ้านเรียกร้องให้ผมไปประกาศตัวว่าลงสมัครจริง แล้วผมลงอย่างแน่นอน ซึ่งชาวบ้านได้สะท้อนปัญหาด้านสาธารณูปโภค ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ราคาปุ๋ย ซึ่งหากผมได้รับการเลือกตั้ง และได้เป็นรัฐบาล ผมเชื่อว่าจะมีการพัฒนาภาคใต้โดยรวมจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโครงการต่างๆ ซึ่งจากประสบการณ์ของผมเชื่ออย่างยิ่งว่าสามารถพูดคุยกับรัฐบาลและนำโครงการต่างๆ มาได้   

ที่ผ่านมารัฐบาลได้นำเสนอโครงการเด่น เช่น โครงการคนละครึ่ง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เราเที่ยวด้วยกัน ผมเชื่อว่าประชาชนพึงพอใจในรัฐบาลชุดนี้  ซึ่งโดยส่วนตัวสูตรหาร 100 บัตร 2 ใบ ถือว่าดีที่สุด โดยพรรคเล็กต้องการให้หาร 500 ส่วนพรรคใหญ่ทั้งหมดต้องการให้หาร 100 และผมเชื่อว่าคะแนนของพรรคพลังประชารัฐใน 14 จังหวัดภาคใต้ ยังได้รับความนิยมอยู่  แล้วผมขอบอกว่า พรรคพลังประชารัฐน่าจะได้มากกว่า 30 ที่นั่งในภาคใต้ ในภาคใต้เราจะมาแบบ แลนด์สไลด์

ในส่วนของผมจากการที่รัฐบาลชุดนี้ได้บริหารประเทศมาย่างเข้าปีที่ 4 ผมประสานขอโครงการอะไรมามักจะไม่พลาด ทางหน่วยงานก็ให้เกียรติในฐานะที่เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี จนกระทั่งเกิดโครงการต่างๆ ขึ้นในเขตเลือกตั้งของผม เช่น โครงการเขื่อนกันตลิ่ง 5 แห่ง โครงการแก้มลิง 5 แห่ง ซึ่งผมก็ได้ประชาสัมพันธ์เป็นระยะผ่านเฟซบุ๊กและไลน์  

@ หากมองไปที่เสียง ส.ว. 250 เสียง พรรคพลังประชารัฐก็ได้เปรียบ จัดตั้งรัฐบาลได้ง่ายกว่า  

ทวี : ขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายไหนจะรวบรวมเสียงได้มากกว่า รวมทั้งเสียง ส.ว. ด้วย ซึ่งฝั่งที่รวบรวมได้ ฝั่งนั้นแหละจะได้เป็นรัฐบาล เพราะเขาให้โอกาสรัฐบาลในการรวบรวมเสียงทั้ง ส.ส. และ ส.ว. รวมกันต้อง 750 เสียงเหมือนเดิม 

@ จากอดีตจนถึงปัจจุบันภาคใต้ถูกมองว่าเป็นถิ่นของประชาธิปัตย์ และตรังเป็นถิ่นนายหัวชวน มีมุมมองถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างไร ที่เป็นผลให้กล้าเข้ามาทำพื้นที่ 

ทวี : การพัฒนามีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง การเอางบประมาณไปลงในพื้นที่ตามที่ชาวบ้านได้ร้องขอ ถือเป็นเรื่องหลัก ผมเป็นนักการเมืองเก่าแก่ และเป็น ส.ส. มา 7 สมัย ตั้งแต่ปี 2531 ทำให้ชาวบ้านประทับใจ และอยากให้ผมได้เข้าไปทำหน้าที่อีกครั้งในการเลือกตั้งครั้งหน้า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐได้ที่ ส.ส. 13 คน พรรคภูมิใจไทยได้ 7 คน และยังมี ส.ส.จากพรรคอื่นอีกในภาคใต้อีก ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้มากที่สุดในฐานะเจ้าของพื้นที่ จริงๆ แล้วกรรมการบริหารของพรรคประชาธิปัตย์ส่วนหนึ่งที่ไม่ประสบความสำเร็จ ได้แยกออกไปตั้งพรรคใหม่ เป็นหัวหน้าพรรคก็มี ไปเป็นผู้บริหารของพรรคใหญ่ก็มี ทำให้กระจัดกระจัดกระจาย 

@ครั้งที่แล้วตรังเขต 1 ได้นายนิพันธ์ ศิริธร เป็น ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จะมีโอกาสได้เพิ่มอีกไหม 

ทวี : เป็นธรรมดาของพรรคการเมืองโดยเฉพาะในบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ใบแรกเราต้องการเขตเลือกตั้ง อีกใบต้องเป็นคะแนนของพรรค แต่หากว่าได้เขตเพิ่มขึ้นถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งพรรคได้คาดหวังไว้เช่นกัน และการที่ได้กลับมาลงสมัคร ส.ส.เขตอีกครั้ง หลังจากเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่ออยู่นาน ถือเป็นเป็นความภูมิใจที่ได้มาแข่งแบบเขตอีก ส.ส.ต้องเกิดจากเขตเลือกตั้ง ผมเป็น ส.ส.ครั้งแรกก็เริ่มจาก ส.ส.เขต

จากการวิเคราะห์ เท่าที่ผมทราบเขตเลือกตั้งที่ 3 ของลูกสาวเพื่อน คือ นางสาวสุณัฐชา ไปที่ไหนก็มีแต่เสียงชื่นชม เพราะเป็น ส.ส.ที่มีความรู้ ความสามารถ ประสานงบประมาณได้ดี ชาวบ้านนิยมชมชอบ และเป็นความหวังของชาวตรังอีกคนหนึ่ง  

@ แล้วด้านความเป็นเอกภาพของพรรคการเมือง ที่จ.ตรัง ประชาชนจะสับสนหรือไม่ว่า พ่อของ ส.ส.เขต 3 พรรค ปชป. มาเชียร์ผู้สมัครของอีกพรรค ให้ชนะผู้สมัครของพรรคตัวเอง  

ทวี : ไม่ถึงกับเชียร์  

@ ในอดีตมีการพูดถึงตัวทวีในทางที่ไม่ดี เริ่มตั้งแต่มีการย้ายไปพรรคไทยรักไทย เคยถูกวาทกรรมข้อกล่าวหาทางการเมืองจากคนพรรค ปชป. จากนายชวน จากแกนนำพรรคปชป.คนอื่นๆ กลับมาเที่ยวนี้ กังวลไหม จะรับมืออย่างไร 

ทวี : การยกโทษ การให้อภัยซึ่งกันและกัน เป็นสิ่งที่ดีที่สุด และผมก็ให้อภัยทุกคน ไม่ติดใจอะไรทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นนายถาวร เสนเนียม นายวิทยา แก้วภราดัย นายชำนิ ศักดิเศรษฐ คนเหล่านี้เป็นคนที่ผมเคารพอย่างมาก โดยเฉพาะนายชวน เป็นคนที่ผมเคารพนับถือตลอดเวลา สำหรับนายสาทิตย์ เจอกันก็ยังทักทายพูดคุยกัน ยกมือไหว้กัน

ส่วนล่าสุดที่นายชวน ให้สัมภาษณ์บอกว่าผมเคยชักชวนให้คุณสมชายออกจากพรรค ปชป.นั้น ผมยอมรับว่าเคยชวนเขาจริง แต่เมื่อนายสมชายไม่มา ผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะเป็นเพื่อนกัน ก็เลยชวนกัน 

@ เมื่อปี 2544 เรื่องที่ไปชวนนายสมชายย้ายพรรค มีการนำเรื่องไปฟ้องนายชวน จนในที่สุดประชาธิปัตย์พลิกเกมได้ชัยชนะในเขต 2 หากรอบนี้มีการเอาเรื่องเก่าๆ มาพูดอีก จะกระทบหรือไม่ 
ทวี : เป็นธรรมดาเรื่องเล่ห์เหลี่ยมทางการเมือง มันต้องใช้กันอยู่แล้ว ผมให้อภัยไปหมดแล้ว ไม่ได้ติดใจอะไร และหากจะเอาเรื่องเก่ามาพูดอีกในตอนนี้ ผมมองว่าชาวบ้านเขารู้กันหมดแล้ว ให้ชาวบ้านตัดสินใจ ผมไม่มีปัญหา ก่อนหน้านี้มีคนมาชวนผมไปอยู่ในพรรคอื่น ซึ่งเป็นพรรคที่ตั้งใหม่ แต่สำหรับผม พรรคพลังประชารัฐดีที่สุดในภาคใต้ ผมมองว่าวัฒนธรรมการเมืองภาคใต้เปลี่ยนแล้ว ตอนนี้น้ำมาขึ้นที่พรรคพลังประชารัฐมากกว่า ด้วยผลงานของรัฐบาล 3 ป.

ภาคใต้ พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย 3 พรรคนี้จะแข่งกัน พรรคอื่นแค่กระปริดกระปรอย ผมเกิดจากพรรคประชาธิปัตย์ และต้องกลับมาสู้กับประชาธิปัตย์  นั้นไม่ได้เป็นเรื่องแปลก เพราะนักการเมืองหลายคนเป็นศิษย์เก่าประชาธิปัตย์  เพราะประชาธิปัตย์เป็นแหล่งผลิตนักการเมือง 

ผมอยากบอกว่า ผมอยากเติบโตทางด้านการเมือง  และในขณะที่คนมาทาบทามให้ความหวังไว้ ว่าหากผมประสบความสำเร็จ พาลูกทีมมาได้มาก จะให้ตำแหน่งทางการเมือง ทุกคนก็อยากที่จะมาพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง  ผมเองก็อยากเข้าไปเพื่อประสานเอางบประมาณมาลงในพื้นที่ของตัวเอง ตามที่ชาวบ้านเรียกร้องมา  

@ หมายถึงถ้าทำสำเร็จ ส.ส.ในภาคใต้เพิ่มขึ้น จะได้เก้าอี้รัฐมนตรีใช่ไหม  

ทวี : เรื่องนั้นขอให้เกิดขึ้นจริงก่อน หากพรรคจะตอบแทนให้คนทำงาน และพลังประชารัฐอาจจะสร้างปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ในภาคใต้  ซึ่งไม่เคยมีใครออกมาพูดเรื่องนี้ แต่ผมคิดไว้ในใจแล้ว ในส่วนที่ทางฝั่งของพรรคภูมิใจไทย ที่ประกาศไว้ว่าจะเอาที่นั่ง ส.ส. 16 ที่นั่ง ในภาคใต้ และได้จริง 8 ที่นั่ง เมื่อการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว  ผมขอบอกว่าผมสนิทกับ นางนาที รัชกิจประการ เป็นที่เคารพนับถือกัน เป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก ทุกครั้งที่เจอกันก็พูดคุยหยอกล้อกัน โดยนางนาทีและนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ได้บอกกับผมว่า เขต 2 ของทวี ฉันไม่สนใจ 

@ หนักใจหรือไม่ ที่ต้องต่อสู้กับพรรค ปชป.ในภาคใต้ ภายใต้การนำของนายจุรินทร์ นายเฉลิมชัย และ นายเดชอิศม์  

ทวี : นายจุรินทร์ เป็นลูกพี่เก่าของผมสมัยที่ท่านเป็น รมว.พาณิชย์ ตอนนั้นผมเป็นเลขาท่าน และผมเคารพนายจุรินทร์มาโดยตลอด ไม่เคยเปลี่ยน ส่วนนายเฉลิมชัยก็เคยเลี้ยงไวน์ผมและให้ความเคารพนับถือกัน ผมไปของบประมาณ แม้อยู่ต่างพรรค ในฐานะที่ผมเป็นศิษย์พรรค ปชป. นายเฉลิมชัยก็ให้งบประมาณมาลงในพื้นที่ ในขณะที่กับนายกชาย(นายเดชอิศม์)  ผมก็เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เมื่อครั้งนายเดชอิศม์ลงสมัครนายกอบจ.สงขลา ผมก็เคยไปช่วยหาเสียงให้เขา ซึ่งเพื่อนก็คือเพื่อน  การเมืองก็คือการเมือง การเลือกตั้งครั้งนี้ ก็เป็นของธรรมดา เรื่องยุทธวิธี บนดิน ใต้ดิน วาทกรรม ซึ่งทุกอย่างเกิดขึ้นได้ แล้วแต่ใครจะเป็นคนสร้างสถานการณ์ในขณะนั้น” 


กำลังโหลดความคิดเห็น